ไลฟ์แฮ็ก
เอาชีวิตให้รอดในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ
เราอยู่ในยุคที่นับได้ว่าเศรษฐกิจกำลังตกต่ำอยู่อีกยุคหนึ่ง รายได้คงที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูง
"แถมยังมีโอกาสตกงานสูงอีก"
เนื่องจากมีการนำระบบ AI เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นทำให้ภาคอุตสาหกรรมลดการใช้แรงงานคนลง
ทีนี้แล้วเราจะจัดการเงินในกระเป๋าเรายังไงดี เพื่อไม่ให้มันโบยบินไปจากเราเร็วเกินไปนัก ในรูปการณ์เช่นนี้เริ่มจะใช้เงินเดือนไม่ชนเดือนเสียแล้วล่ะ เฮ้อ...
ภาพจาก: https://pixabay.com/th/
1) ลดของกินของใช้ฟุ่มเฟือย
อย่างที่รู้ๆกันการจะลดค่าใช้จ่ายลง เราต้องหันมาพิจารณาก่อนว่าสิ่งใดควรใช้สิ่งใดไม่ควรใช้ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่เราเคยช้อปทุกเดือน ก็ลดๆลงบ้างหรือไม่ซื้อเพิ่มเลยถ้าของเก่ายังสภาพดีใช้งานได้อยู่ ลดการปาร์ตี้หรืออาหารมื้อใหญ่ๆลง จากอาทิตย์ละครั้งเป็น 2 อาทิตย์/ครั้ง หรือลดให้เหลือเดือนละครั้งไปเลยแบบตายตัว
Advertisement
Advertisement
2) ลดการใช้บริการบางบริการแล้วหันมาทำเองบ้าง
บริการบางอย่างจริงๆเราก็ทำเองได้ แต่ด้วยความรักสบายหรือเหตุผลของความสะดวกเราจึงไม่คิดอยากจะทำทั้งๆที่เรามีเวลาทำมัน อย่างเช่น บริการซักรีด ทำความสะอาด ถ้าเราหันมาเก็บบ้านทำความสะอาดเอง มันอาจจะทำให้เราได้รู้ว่ารองเท้าที่เราแอบไปช้อปมาแล้วเอาซ้อนแฟนไว้จนลืมคู่นั้น ยังวางอยู่ที่เดิม🤫 หรือถ้าเราซักผ้าเองเราก็จะรู้ว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ไปทำงานทุกวันตะเข็บเริ่มรุ่ยแล้วนะ
3) ลองทำอาหารทานเองบ้าง
บางคนฝากท้องไว้กับร้านอาหารตามสั่งทุกมื้อจนเคยชิน ลองเอาค่าอาหารตามสั่งที่คุณซื้อเขากิน มาซื้อวัตถุดิบทำอาหารเองดูบ้างสิ จริงๆมันสามารถทำอาหารได้หลายมื้อเลยนะ แถมยังได้ฝึกทำอาหารไปในตัวอีกด้วย แรกๆอาจจะไม่ชินเดี๋ยวสักพักก็ชินเอง อีกอย่างได้ดูแลและควบคุมโภชนาการอาหารเองด้วย ถ้าไม่มีเวลาอย่างน้อยๆลองเปลี่ยนบรรยากาศการทานอาหารของวันหยุดมาช่วยกันเข้าครัวทำอาหารทานเอง มันก็มีความสุขไปอีกแบบนะ
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก: https://pixabay.com/th/
4) หารายได้หรืออาชีพเสริม
ลองหางานอดิเรกที่เราชอบ หรือที่เรามีความรู้และถนัดในด้านนั้นๆ มาทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้อีกทาง เช่น เป็นนักเขียน ถ้าเราชอบเขียน เป็นช่างภาพ ถ้าเรามีกล้องและชอบถ่ายรูป ขายของหรือขายอาหาร เป็นต้น อีกอย่างการมีงานอดิเรกหรืออาชีพเสริมนอกจากจะทำให้มีรายได้เพิ่ม ยังทำให้เราไม่ตีกรอบความคิดตัวเองให้อยู่เพียงในกรอบงานหลักจนเกินไป ถือว่าเป็นพักผ่อนจากงานหลักไปอีกทาง
5) หาได้แล้วให้แบ่งออมบ้าง
เมื่อหาเป็นก็ต้องรู้จักเก็บไม่ว่าจะเก็บในรูปแบบไหน เดี๋ยวนี้มีทางเลือกมากมายในการเก็บเงิน ไม่ว่าจะเป็น เงินฝากประจำ หุ้น สลากออมสิน ซื้อทอง แต่ยังไงซะให้พิจารณาถึงความคล่องตัวและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยนะ แนะนำว่าควรเก็บออมให้ได้อย่างน้อย 20% ของรายได้ เพราะเงินส่วนนี้มีประโยชน์ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เช่น เก็บไว้ใช้ตอนเราป่วย ญาติเสีย ตกงานขาดรายได้ ช่วงที่หางานใหม่ หรือในยามเกษียณ เป็นต้น
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก: https://pixabay.com/th
เป็นยังไงกันบ้างคะ ใครที่กำลังประสบปัญหาอยู่ลองเอาไปค่อยๆปรับใช้กันดูนะคะ ให้คิดเสมอว่า "ทุกปัญหาย่อมมีทางออก" สู้ๆค่ะ✌
================================!=
Blockdit
ความคิดเห็น