นับแต่วันที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 นั้น เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. มีมติให้ผ่อนปรนกลุ่มกิจกรรมหรือกิจการระยะแรก โดยให้มีผลบังคับวันที่ 3 พ.ค.ได้ทันที มีจำนวน 6 กลุ่ม โดย 1 ใน 6 กลุ่มนั้น ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย ทั้งยังได้ประกาศแนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการหลังผ่อนปรนมาตรการป้องกันโรคด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวไว้ในข้อ ก. จาก 4 ข้อย่อย คือ ก. ข. ค. และ ง. ดังนี้คือ ก.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในแผงลอย โดยแยกเป็น 2 มาตรการ คือ มาตรการควบคุมหลักและมาตรการเสริม ได้แก่ 1) มาตรการควบคุมหลัก ประกอบด้วย - ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน - ให้ผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า - ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค - ให้เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ และระหว่างที่นั่ง รวมถึงระยะห่างระหว่างการเดินอย่างน้อย 1 เมตร - ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ มิให้แออัด 2) มาตรการเสริม เช่น มีมาตรการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ ตามขีดความสามารถ ในฐานะที่หมู่บ้านผมมีตลาดนัดประจำสัปดาห์จัดทุก ๆ วันจันทร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา จึงขอไปเช็กสถานะดูการบริหารจัดการสักหน่อย ว่าได้ดำเนินการมากน้อยแค่ไหน และมีอะไรที่ทำได้ทันทีหรือยังไม่สามารถทำได้บ้าง ตลาดนัดดังกล่าวเรียกว่า “ตลาดนัดบิ๊กไนท์ บ้านหนองตูม” พื้นที่ตลาดนัดกว้างประมาณ 2 ไร่ อยู่ติดถนนสายหลักเส้นอำเภอเสิงสาง-หนองกี่ มีการแยกโซนขายของ 3 โซนประกอบด้วย โซน 1 ได้แก่ ผักผลไม้อาหารการกินต่าง ๆ โซน 2 ได้แก่ เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน โซน 3 สนามเด็กเล่น มีทางเข้า-ออกหลักอยู่ 3 ทาง คือ หัวตลาด กลางตลาดและท้ายตลาด มีแผงขายของราว 100-150 แผง เปิดตั้งแต่เวลา 13.00-19.00น. คนมาจับจ่ายซื้อขายที่นี่คราวละ 5,000 - 7,000 คนต่อครั้ง นี่คือข้อมูลทั่ว ๆ ไปก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 คราวนี้มาดูว่า เกิดอะไรขึ้นในการจัดตลาดนัดวันนี้ ( 4 พ.ค. 63 ) บ้าง จากที่เคยมีโซนขายของ 3 โซน ก็เหลืออยู่โซนเดียว คือ ขายผลไม้อาหารการกินต่าง ๆ อาจจะมีของใช้มาขายบ้าง แต่ก็เป็นของที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั่นคือ ขายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ทางเข้า-ออกตลาด กำหนดให้ใช้ 2 ทาง คือ หัวตลาดและท้ายตลาด กำหนดเวลาเปิดปิดตลาดระหว่าง 15.00-18.00 น. แผงขายของเหลืออยู่ราว 60 แผง คนมาเดินจับจ่ายซื้อของราว 500—700 คน ซึ่งจะเห็นว่าสถานการณ์ภาพรวมลดลงไปเหลือเพียง 1 ใน 3 ของสถานการณ์ปกติเท่านั้น สิ่งที่เปลี่ยนไปจากภาพเดิมๆที่เห็นเมื่อมาตลาด ก็คือ -ปริมาณของขยะมูลฝอยลดลงไปมากกว่าร้อยละ 80 เพราะพ่อค้าแม่ค่าต้องเก็บขยะไปทิ้งในจุดที่กำหนดไว้ -ทั้งคนซื้อคนขายส่วนใหญ่ร้อยละ 97 สวมหน้ากากอนามัย มีบางคนที่ไม่ใส่จริงๆแต่ก็น้อยมาก -มีจุดบริการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ทั้ง 2 ทางเข้าออก พร้อมป้ายบอกให้ล้างมือก่อนและหลังเข้าพื้นที่ตลาดนัดชัดเจน -เว้นระยะห่างระหว่างแผงขายของห่างกันแบบพออนุโลมได้ แต่ระยะห่างระหว่างการเดินยังไม่เป็นไปตามมาตรการนัก -ความแออัดหรือใกล้ชิดของคนที่มาซื้อขายถือว่าอยู่ในระดับปลอดภัย ที่มีเดินติดหันหรือเกาะกลุ่มกันนั้น ส่วนมากเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน - ส่วนใหญ่จะมารีบซื้อและรีบกลับ ไม่ค่อยพูดคุยกันนานหรือทักทายกันบ่อยเหมือนแต่ก่อน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลาดนัด ของหมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่ ปรากฏการณ์ก่อนและหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในตลาดนัดชุมชนนี้ มีทั้งข้อน่ายินดีและน่าเป็นห่วงปนกัน แม้ว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาจะช่วยให้ลดพื้นที่และจำนวนผู้อาจป่วยเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ ทั้งอาจจะช่วยให้คนตระหนักและมีวินัยในด้านสุขอนามัยมากขึ้นก็จริง แต่สิ่งที่น่าห่วงไปกว่านั้นคือ สายใยความสัมพันธ์ วิถีการดำเนินชีวิตแบบบ้าน ๆ อัธยาศัยใจคอการทักทายพูดคุยของคนในชุมชนและมิติด้านอื่น ๆ จะวิกฤติมากขึ้นไปอีกหรือเปล่า นี่คือเป็น New normal ที่คนบ้านนอกอย่างเราจำต้องยอมรับต่อไปหรือต้องหาทางเชื่อมช่องว่างของชุมชนหลัง Post-Covid World กันเล่า นั่น...คงหาคำตอบได้ไม่ง่ายนัก ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี