#หีบหายรีวิว #หีบหายพาเที่ยว #เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น มีคาเฟ่แห่งหนึ่ง ที่ผมเองอยากไปมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไป เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากทางสายหลักของผม แต่ ณ วันหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสเดินทางเพื่อเสาะหาเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันทุกๆ คนที่นี่ ผมเลยรู้สึกว่า ความน่าค้นหาที่ว่านั้น มันไม่ได้ไกลสักเท่าไหร่ครับ พอสบโอกาสเหมาะ ผมจึงรีบพกความมั่นใจและมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน ตรงไปยังคาเฟ่ที่มีความสวยงามแห่งนี้เพื่อหยิบยกเอาบรรยากาศและความภิรมย์มาฝากทุกๆ คน สมกับชื่อของคาเฟ่นี้ครับ “ภิรมย์คาเฟ่” คาเฟ่ที่มีดีไซน์การตบแต่งสุดล้ำ สร้างบรรยากาศใหม่ๆ ที่น่าค้นหาครับ โดยการสร้างสรรค์พุ่มไม้รอบๆ ให้เหมือนกับไร่ชา เมื่อหามุมดีๆ ถ่ายรูปออกมาแล้วทำให้รู้สึกได้เลยว่านี่คือคาเฟ่สุดสวย และน่าค้นหาที่ตั้งอยู่กลางทุ่งชาซึ่งไล่ระดับกันอย่างสวยงาม นั่นอาจจะไม่ใช่ความสุขเดียวที่ได้เห็น ครับ เพราะว่าอีกด้านของตัวคาเฟ่นั้นมีมุมริมสระน้ำขนาดใหญ่ ให้เราได้เดินหามุมถ่ายรูป และนักพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย เพราะทางคาเฟ่ได้จัดเตรียมเก้าอี้กึ่งเตียงไว้สำหรับการดื่มด่ำบรรยากาศพร้อมกับเครื่องดื่มสุดฟินไว้รอทุกๆ ท่านให้มานั่งเอนกาย มองสายลม สายน้ำ และท้องฟ้าครับ บรรยากาศโดยรอบแม้ว่าจะแดดจ้าเพียงใดก็ตาม แต่พอเข้ามาถึงส่วนของตัวคาเฟ่แล้ว บอกได้เลยว่าสงบร่มรื่นมากๆ ครับ ลืมความร้อนที่ขับรถผ่านเส้นทางอันเลี้ยวลดเข้ามาได้เลย และที่ทุกๆ คนเห็นว่าเป็นอาคารหลักนั้น ไม่ใช่คาเฟ่นะครับ ตัวคาเฟ่จะอยู่ส่วนหน้าสุดครับ เป็นห้องจำหน่ายเครื่องดื่มเล็กๆ ที่มีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมสรรพครับผม ส่วนอาคารหลักที่เด่นเป็นสง่านั้น แท้จริงแล้วก็คืออาคารที่พักสำหรับลูกค้าครับ มีทั้งส่วนภายในที่จัดไว้อย่างสวยงาม และสวนของชานด้านนอก มีเก้าอี้นวมจัดเตรียมไว้สำหรับทุกท่าน สามารถเลือกได้เลยว่าอยากผ่อนคลายกับส่วนไหน หรือแม้จะเป็นส่วนนอกสุดที่ใช้ความร่มรื่นจากร่มไม้ชนิดที่ว่าหลังคาไม่จำเป็นก็มีเช่นกันครับ มาถึงจุดแรก เราจะทำการสั่งเครื่องดื่มครับ ซึ่งราคาจะเริ่มที่ 70-80 บาทครับ ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงหลักร้อย แต่จุดนี้ผมที่เป็นแฟนชาเขียวอยู่แล้ว จึงขอสั่งแบบเซ็ต ครับ เพราะได้ทั้งชาเขียวปั่นรสชาติเข้มข้น หวานน้อย มาพร้อมกับตัวเลือกเสริม คือชูครีมหรือเค้ก 1 ชิ้นในราคา 190 บาทครับ จากนั้นจึงเดินเข้าไปนั่งพักผ่อนใจ เอนกายกับบรรยากาศ ที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปมากมายครับ บอกได้คำเดียวว่าเตรียมแบตเตอรรี่ของทุกคนไว้ดีๆ จากนั้นก็จัดแจงมุมมองเพื่อสร้างรูปถ่ายที่แสนสวยงามออกมาได้เลย และแน่นอนว่าพุ่มไม้ที่จัดมาเป็นชั้นๆ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งซิกเนอเจอร์ ที่ใครๆ มาก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปครับ โดยทางร้านจะมีช่องทางเดินบอกว่าให้เดินไปทางไหน...อย่าเดินลัดหรือเดินข้ามนะครับ ไม่ดีต่อน้องต้นไม้เลย ส่วนผม หลังจากที่เก็บบรรยากาศและดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ แล้วก็เลยมานั่งมองสายน้ำกับสายลมเย็นสบาย จนแอบเผลอหลับไปงีบหนึ่งเลยทีเดียวครับ ฟินสุดๆ ไปเลยครับ คุ้มค่ากับการเดินทางในเส้นทางใหม่ๆ จริงๆ ครับ Pirom Cafe ตั้งอยู่ใน โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด ขับรถเข้ามาเส้นทางเดียวกับไร่องุ่นพีบีวัลเลย์ และเดอะบลูม มีพนักงานดูแลความปลอดภัยให้ตลอดระยะทางครับ เดินเข้ามาเล็กน้อยก็จะผ่านกำแพงหินสีดำสุดจ๊าบ ที่หลายคนก็นิยมมายืนถ่ายภาพกันตรงจุดนี้ ครับ ภาพบรรยากาศต่างๆ นั้นเต็มไปด้วยความสงบครับ ทุกๆ คนที่มาที่นี่ล้วนต้องการความเรียบง่าย แม้ว่าจะมีคนมาเยอะ แต่กลับไม่มีความวุ่นวายครับ มีแต่คนเดินเล่น หามุมถ่ายรูปและนั่งตากลมกันเพลินๆ ถ้ามีโอกาสมาที่เขาใหญ่ ผมว่าคาเฟ่แห่งนี้ต้องติดหนึ่งในใจใครหลายๆ คนแน่นอนครับ ด้วยบรรยากาศ และราคาอาหารซึ่งคุ้มค่ากับความเพลิดเพลินนี้ ผมหวังอย่างยิ่งว่าถ้าทุกๆ คนแวะเข้ามาเที่ยว “ภิรมย์ คาเฟ่” แห่งนี้ ไม่มากก็น้อย จะได้รับความภิรมย์กลับไปกระทั่งจบ ทริปแน่นอนครับ เขาใหญ่มันแคบ...แต่สถานที่เที่ยวยังอีกเยอะครับ เส้นทางที่ผมมาที่นี่นั้นเต็มไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารน่าสนใจที่เล็งไว้อีกมากมาย ติดตามน้องหีบไว้นะครับ แล้วเขาใหญ่จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ พบกันใหม่กับร้านหน้า สวัสดีครับผม! เรื่อง/ภาพ น้องหีบ