ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยว คำว่าเที่ยวของคุณคืออะไร แต่สำหรับเราการเที่ยวของเราคือ การเดินทาง ในวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดสำหรับชีวิตนักศึกษาที่จากบ้านมาเรียนเเล้ววันหยุดเเบบนี้คงจะเป็นวันที่กลับบ้านหรือไม่ก็ขอนอนพักผ่อนสบายๆ เเต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับเราหรอก ด้วยความที่เป็นคนชอบเดินทางไปที่ไหนก็ได้ ในตอนเเรกตกลงกับเพื่อนจะไปสวนดอกไม้กันเเต่เเล้วอยู่ ๆ ก็เกิดความคิดที่อยากไปนั่งรถไฟเล่นเเบบกระทันหันไม่มีเเพลนไม่มีอะไรในหัวรู้เเค่ว่า สถานีปลายทางที่จะเลือกคือ “สถานีปากช่อง” เราเริ่มการเดินทางที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ โดยเราเลือกขบวนรถไฟธรรมดารอบ 10:27 น. ในราคา 90 บาท ซึ่งรถไฟขบวนนี้จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงจะถึงปลายทางปากช่อง เมื่อถึงเวลาที่รถไฟขบวนที่พวกเราเลือกเทียบชานชาลา พวกเราก็กระโดดขึ้นรถไฟเพื่อจับจองที่นั่ง เราควรนั่งตามเลขที่ตั๋วที่กำหนดนะคะจะได้ไม่เป็นภาระของคนสถานีต่อไปเเละจะได้ไม่ต้องโดนเจ้าหน้าที่ไล่ให้ไปหาที่นั่งด้วยค่ะ เมื่อการเดินทางเริ่มขึ้น ความทรงจำก็เริ่มขึ้นอีกครั้งถ้าถามว่าอะไรคือเหตุผลของการมานั่งรถไฟเล่นในครั้งนี้ เราเองก็คงตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะเราเองก็เเค่ อยากเดินทางโดยที่ไม่คาดหวังอะไร และปล่อยให้เรื่องราวระหว่างทางสร้างความทรงจำของมันเอง เมื่อรถไฟวิ่งมาเรื่อย ๆ จนถึงสถานีชุมทางถนนจิระ สถานีนี้จะเป็นสถานีสุดท้ายที่เราคุ้นชิน เส้นทางหลังจากนี้จะเป็นเส้นทางใหม่ที่เราไม่เคยสัมผัสกันมาก่อน มันเหมือนการได้ออกมาสัมผัสในที่ที่เราไม่เคยไป มันรู้สึกสนุกเเละตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เเละอีกสิ่งหนึ่งที่เราเองก็ตื่นเต้นไม่เเพ้กันคือ อาหารจากพ่อค้าเเม่ค้าที่ขึ้นมาขายบนรถไฟ ใช่ว่าอาหารเเต่ละอย่างจะมีขายทุก ๆ ที่ เช่นถ้าผ่านสถานีจักราชก็จะมีขนมถังเเตกขึ้นมาขาย ผ่านสถานีห้วยเเถลงก็จะเริ่มมีไก่ย่างขึ้นมาขาย สำหรับเราเราว่ามันก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นดี เมื่อเริ่มออกมาเรื่อย ๆ วิวข้างทางก็เริ่มเปลี่ยนจากป่าไม้ เป็นภูเขา หากถามว่าความสุขคืออะไร ก็คงตอบไม่ได้เเน่ชัดเท่าไหร่ เพราะความสุขของเเต่ละคนต่างกัน บางคนสุขที่ได้เดินทาง บางคนสุขที่ได้ทำอะไรสักอย่างสำเร็จ หรือบางคนสุขที่เเค่ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ตัวเองรักก็เพียงพอเเล้ว ถึงเเล้ว สถานีปากช่อง หลังจากที่เราถึงสถานีปากช่องเราก็ซื้อตั๋วขากลับทันที อ่านไม่ผิดหรอกค่ะเราตั้งใจเเค่ว่ามานั่งรถไฟเล่น ๆ โดยที่ปลายทางคือปากช่องเเค่นั้น เราไม่คาดหวังอะไรกับการเดินทางขอเพียงเเค่อยากให้ตัวเองกล้าที่จะมาเจออะไรใหม่ ๆเเค่นั้นส่วนความทรงจำเเละรอยยิ้มก็คือผลพลอยได้ระหว่างรอรถไฟขากลับ เราก็ทำการถ่ายรูปเก็บความทรงจำกันไปเรื่อย ๆ ขากลับเราได้รถไฟรอบ บ่าย 3 โมง ขอบคุณการเดินทางในครั้งนี้ ที่ช่วยเติมเต็มรอยยิ้มและความทรงจำให้เราอีกครั้ง จงอย่าคาดหวังอะไรจากการเดินทาง เเต่จงให้เรื่องราวระหว่างทางสร้างความทรงจำให้กับเรา ปล่อยใจเเละเปิดใจให้กับสิ่งที่พบเจอ เเค่นี้ก็สามารถมีความสุขได้เเบบง่าย ๆ แล้ว