เมื่อพูดถึงอาชีพของเกษตรกรชาวนาในละแวกบ้านของเจ๊เชอ นอกจากจะปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอาชีพเสริม นั่นก็คือ การปลูกผักขาย เพื่อสู้ชีวิตและหารายได้เพิ่มในยามที่ว่างเว้นจากการทำนา ผักอีกหนึ่งชนิดที่นิยมปลูกกันมากในภาคอีสาน คือ แตงกวา ซึ่งเป็นผักที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย อีกทั้งยังสามารถปลูกได้ทุกช่วงฤดูกาล ช่วยสร้างชีวิตให้กับชาวนาแถวนี้ ได้ลืมตาอ้าปาก มีกินมีใช้ทั้งปี กันเลยทีเดียว วันนี้เจ๊เชอเลยขออาสาพาเพื่อน ๆ ทุกท่าน ไปเยี่ยมชม การปลูกแตงกวา ของชาวบ้านตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เผื่อท่านใดสนใจ อยากจะลองนำแนวทางไปปลูกไว้กินเอง หรือปลูกขายเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครอบครัวก็ดีงามไม่น้อยเช่นกัน สำหรับวิธีการปลูกแตงกวานั้น พื้นที่แถวอำเภอพิมาย จะนิยมปลูกแบบเลื้อยตามดิน ดินที่เหมาะสม คือ ดินร่วนปนทราย เพราะระบายน้ำได้ดี ส่วนสภาพอากาศต้องเป็นอากาศแห้ง มีแดดตลอดทั้งวัน ส่วนวิธีการเตรียมดิน และวิธีการปลูกแตงกวา เจ๊เชอขออธิบายตามขั้นตอนที่ได้ไปศึกษาในพื้นที่ ดังนี้ค่ะ - ทำการไถดะ ไถแปร พลิกหน้าดินเพื่อทำลายวัชพืช จากนั้นจะทำการยกร่องแปลงให้สูงขึ้น โดยต้องเว้นร่องน้ำระหว่างแปลงไว้ด้วย แล้วตากดินทิ้งให้แห้งประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ - จากนั้นก็จะใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 รองก้นหลุมก่อนปลูก ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ปุ๋ยสูตรนี้จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ลำต้น ดอก ใบ และผลผลิต จึงเหมาะนำมาใช้เป็นปุ๋ยรองพื้นก่อนปลูก รวมทั้งใช้เป็นปุ๋ยบำรุงในช่วงก่อนการออกดอก และบำรุงช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ด้วย - เสร็จแล้วทำการคลุมแปลง ด้วยผ้าพลาสติกสีทึบ ซึ่งจะมี 2 ด้าน เพื่อใช้เก็บกักความชื้นและอุณหภูมิในดิน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการระบาดของแมลงและวัชพืชอีกด้วย - หลังจากคลุมแปลงด้วยผ้าพลาสติกแล้ว จะทำการเจาะหลุมบนผ้าพลาสติก (กำหนดระยะปลูกของหลุมประมาณ 50 ซ.ม.) จากนั้นนำเมล็ดมาหยอดหลุม หลุมละ 2-3 เมล็ด แล้วปักค้างพร้อมกับขึงตาข่าย เพื่อให้แตงกวาได้เลื้อยขึ้นค้าง และเก็บได้อย่างสะดวก - การรดน้ำจะรด เช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ โดยโคนต้นต้องรดให้ชุ่มและมั่นใจว่ารากโดนน้ำ หมั่นตรวจเช็คสภาพพื้นดินและการระบายน้ำให้ดี อย่าให้มีน้ำขังแต่อย่าให้เปียกแฉะจนเกินไป - เมื่อปลูกได้อายุ 1 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15–15–15 อัตรา 1/4 ช้อนชาต่อหลุม ถัดไปอีก 30 วัน หรือแตงกวาเริ่มออกดอก ก็จะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15–15–15 อีกครั้ง ในอัตราส่วนครึ่งช้อนชาต่อหลุม - หลังปลูกประมาณ 1 เดือน แตงกวาก็จะเริ่มเก็บผลขายได้แล้ว โดยสามารถเก็บผลแตงกวาขายได้ทุกวัน เก็บได้วันละ 500-600 กิโลกรัมก็มี อีกทั้งถ้าไม่มีโรค ไม่มีแมลงมารบกวนและสร้างความเสียหายให้กับต้นแล้ว ต้นแตงกวาจะออกผลผลิตมาให้เราเก็บขายได้นานเป็นเดือน ๆ - สำหรับการปลูกแตงกวาของเกษตรกรที่นี่ จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวนแตง ซึ่งจะขายราคาหน้าสวน กิโลกรัมละ 12 บาท ถึง 15 บาท หรือบางบ้านจะปลูกขายแค่ตามตลาดสดหรือตลาดนัด โดยจะเก็บไปขายตามตลาด ถุงละ 10 บาท หรือขายกิโลกรัมละ 20 บาท สร้างรายได้วันละ 500 ถึง 1,000 บาท กันเลยทีเดียว ส่วนถ้าสวนใดที่มีพ่อค้าคนกลางมารับถึงสวน สามารถสร้างกำไรได้ถึงหลักหมื่นบาทเลย ซึ่งถือว่าทำรายได้แบบก้อนโตให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นแห่งนี้ได้ดีมากค่ะ จะเห็นว่าปลูกแตงกวานั้น เหมาะกับการทำเป็นอาชีพเสริมเป็นอย่างมาก ทำสลับกับการดูแลไร่สวนหรือทำนาก็ได้ เป็นการเสริมรายได้อีกทาง ไอเดียสำหรับเรา ถ้าท่านใดที่กำลังว่างงานอยู่ ลองมาปลูกแตงกวาขายดูก็ดีนะคะ เพราะสามารถปลูกในกระถางได้ ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ลงทุนไม่สูง และใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียว ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้วค่ะ หรือหากใครสนใจจะลองปลูกแตงกวาไว้กินที่บ้านกัน ก็ดีงามไม่น้อย นอกจากจะได้ผักปลอดสารพิษไว้ทานเองแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ รูปปกโดย https://canva.me/nCqCzOrQS5รูปประกอบโดย ผู้เขียน