เมื่อพูดถึงพิมาย เราก็จะนึกถึงปราสาทหินพิมายเป็นอันดับแรก และนี่ก็คือจุดหมายแรกที่เราตั้งใจมา ใช่แล้วค่ะ! ครั้งนี้เราจะพาเที่ยวปราสาทหินพิมายแบบชิลล์ ๆ โดยการนั่งรถโดยสารประจำทาง สาย โคราช-พิมาย-ชุมพวง จากสถานีขนส่งแห่งที่ 2 ซึ่งจะมีรถออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง มุ่งหน้าสู่อำเภอพิมายที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 60 กิโลเมตร เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 07.00 น. เพื่อที่จะได้ไปถึงพิมายไม่สายเกินไปนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงอำเภอพิมาย ซึ่งรถจะจอดด้านข้างปราสาท พอเราลงรถก็ข้ามถนนเดินเลาะมานิดหนึ่งก็ถึงทางเข้าปราสาท โดยเสียค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ฝรั่ง 40 บาท (ใจอยากให้เก็บสัก 20 บาท เพื่อเป็นค่าบำรุงและบูรณะสถานที่) เรามาถึงประมาณแปดโมงกว่า ๆ แดดยังไม่ร้อนมาก จากประตูทางเข้าเราต้องเดินฝ่าแดดอ่อน ๆ เพื่อไปให้ถึงตัวปราสาท ด่านแรกที่เราต้องเจอก่อนเข้าตัวปราสาทคือ สะพานนาคราช และชาลาทางเดินเข้าสู่ประสาท ซึ่งตรงหัวสะพานจะเป็นรูปปั้นพญานาค 5 เศียร ตามความเชื่อของศาสนาพราห์มโบราณ ปราสาทหินพิมายจัดว่าเป็นปราสาททรงขอมโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย สร้างจากทรายสีชมพูในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ ต่อมาเมื่อถึงสมัยพระเจ้าชัยรมันที่ 7 ซึ่งทรงนับถือศาสนาพุทธ นิกายมหายาน พระองค์จึงได้เปลี่ยนเทวสถานแห่งนี้เป็นพุทธศาสนสถานในเวลาต่อมา เมื่อเราเดินเข้ามาข้างใน จะมีปรางค์ปราสาททั้งหมด 3 ปรางค์ ได้แก่ ปรางค์ประธาน ซึ่งตรงหน้าบัณฑ์ (ข้างบนประตู) ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นภาพพระศิวะกำลังฟ้อนรำ หรือที่เรียกว่า ศิวะนาฎราช ปรางค์หินแดง ก่อจากหินทรายแดง สร้างขึ้นหลังปรางค์ประธาน ราวพุทธศตวรรษที่ 17 ปรางค์พรหมทัต สร้างจากศิลาแลง ซึ่งด้านในมีรูปปั้นคนขนาดใหญ่นั่งอยู่ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นรูปปั้นของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เราเดินดูปรางค์ปราสาทและบริเวณโดยรอบจนขาล้า เพราะบริเวณค่อนข้างกว้างสมกับที่เป็นปราสาทขนาดใหญ่ แต่เราสามารถนั่งพักตามชั้นหินได้แต่อย่าแกะหรือเคลื่อนย้ายก้อนหินหรือสิ่งใด ๆ และแนะนำให้นำหมวกหรือร่มมาด้วยเพราะถึงรอบ ๆ จะมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น แต่บริเวณตัวปราสาทนั้นเป็นที่โล่งเวลาเดินชมปราสาทจะค่อนข้างร้อนมาก แต่ก็มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมากด้วยเช่นกัน ปราสาทหินพิมายนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. แต่ช่วงหน้าหนาวจะเหมาะสมกว่าเพราะอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้เราสามารถเดินชมรอบ ๆ บริเวณปราสาทได้แบบไม่รีบเร่งนัก โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีประเพณีแข่งเรือของชาวพิมาย และจะมีการแสดงแสง สี เสียง ที่บริเวณปราสาทนี้ด้วยซึ่งสวยงามมาก ๆ และถ้าใครเป็นสายถ่ายรูปบอกเลยว่ามีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลยทีเดียว แต่รูปจะออกมาสวยหรือไม่อันนี้อยู่ที่ตากล้องที่แต่ละคนพาไปแล้วล่ะค่ะ