ภาพโดย :ไอ้ต๊อง😜 เคยมีแรงบันดาลใจและมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากๆมั้ย เคยท้อกับสิ่งที่กำลังทำนั้นหรือเปล่า แล้วยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นเหล่านั้นบ้างมั้ย แทนที่จะหันมาปรับปรุงแก้ไข ยอมรับ และหาวิถีทางเพื่อที่จะไปต่อและบรรลุเป้าหมายของตัวเองต่อไป ฉันมีความตั้งใจที่จะซ้อมวิ่งระยะไกลเพื่อประเมินความสามารถของร่างกายตัวเอง ก่อนลงงานวิ่งในระยะ 42.195km หรือที่รู้จักกันคือ "ระยะฟูลมาราธอน" ในวันที่ 1 ธันวาคม จะถึงนี้ ซึ่งวันและเวลาที่ซ้อม คือ ช่วงเย็นของวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สนามที่เลือกไว้สำหรับการซ้อมในครั้งนี้ ก็คือ "บุ่งตาหลัว" เพราะกำหนดไว้แล้ว ว่าจะวิ่งรอบบุ่งฯ 10 รอบ (ซึ่งเท่ากับ 32km) จริงๆแล้วแผนซ้อมนี้จะต้องเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าติดภารกิจบางอย่างและสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมในวันนั้น จึงได้เลื่อนแผนการซ้อมออกมาเป็นวันนี้แทน ก่อนวันซ้อมใหญ่ (ขอเรียกเหตุการณ์นี้ว่าซ้อมใหญ่ก็แล้วกันนะคะ) ได้มีการวิ่งระยะ 7km ในตอนเช้า และเน้นทานอาหารประเภท โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต นอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืนมากๆ หลังตื่นนอนโหลดคาร์บฯและโปรตีนปกติ ทำงานบ้านเล็กน้อยแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยส่วนตัวแล้วช่วงก่อนลงงานวิ่งหรือซ้อมหนักๆจะงดทานอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว สุกี้ ราดหน้า เพราะรู้สึกว่าจะย่อยเร็วและไม่อยู่ท้องแถมให้ความรู้สึกว่าพลังงานน้อยอีกด้วย แต่จะไปเน้นที่ข้าวและกับข้าวมื้อใหญ่ๆ หรือไม่ก็เสต๊กจานโตๆแทน การรับประทานอาหารควรทานก่อนวิ่งให้ได้อย่างน้อย 2 ชม. เพื่อให้กระเพาะอาหารมีเวลาย่อยอาหารที่เราทานเข้าไปและเปลี่ยนสารอาหารมาอยู่ในรูปแบบพลังงานที่พร้อมใช้งาน เมื่อถึงกำหนดการ คือ 16.00 น. ทาครีมกันแดดและเตรียมของที่จะนำไปด้วย สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมไปวิ่ง ได้แก่ เกลือแร่ น้ำดื่ม และ... เงิน (555) เพื่อเอาไว้ซื้อผลไม้ทานระหว่างทาง หรือถ้ามีเจลเพิ่มพลังงานก็น่าพกติดตัวไว้ด้วย เริ่มต้นด้วยการวอร์มร่างกายเพื่ออุ่นเครื่องและเตรียมกล้ามเนื้อสำหรับการออกวิ่งประมาณ 5 - 10 นาที จากนั้นก็เริ่ม! แผนการซ้อมใหญ่ของฉันวันนี้จะเป็นการวิ่งประคองเพซไว้ที่ 6.30 - 6.40 เพราะเป็นช่วงเพซที่ฉันรู้สึกว่ากำลังดี วิ่งสบายๆสามารถวิ่งต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ แต่ถึงแม้ว่าจะตั้งใจไว้อย่างนั้น ก็ยังหลุดเพซไปที่เพซ 7 ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 26 เป็นต้นไปอยู่ดี เนื่องจากมีอาการล้าและปวดตึงกล้ามเนื้อขา จนทำให้ต้องเดินเป็นช่วงๆ สลับกับวิ่งไปเรื่อยๆ จนจบแผนการซ้อม ภาพจาก : application Nike run club ในระหว่างซ้อมวิ่งควรเตรียมผลไม้อย่างเช่น กล้วยหอม หรือแตงโม ไว้ทานด้วยเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวและรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา แต่ถ้าไม่สะดวก ทานเจลพลังงานแทนก็ช่วยได้เช่นกันค่ะ หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็คูลดาวน์ ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อท่าละ 30 วินาที จำนวนอย่างน้อย 3 เซท เพื่อเป็นการคลายเครียดให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น ลดระดับการเต้นของหัวใจให้ช้าลง และลดอุณหภูมิของร่างกายให้เย็นลงด้วย ควรดื่มน้ำให้มากๆ และรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอไป ภาพจาก : application Nike run club จบการซ้อมครั้งนี้ถือว่า "ผ่าน" ไม่มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นหลังจากการใช้ร่างกายที่หนักเกินไป จะเหลือก็แต่วันวิ่งจริงว่าจะทำได้ดีกว่าวันวิ่งซ้อมหรือไม่เท่านั้นเอง😊