Cr.ภาพถ่ายปกจากศมส.การค้นพบซากฟอสซิลช้างโบราณ และซากดึกดำบรรพ์พืชและสัตว์อื่น ๆ เกิดขึ้นบริเวณบ่อดูดทรายริมแม่น้ำมูลของตำบลท่าช้างและตำบลช้างทอง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา การค้นพบซากดึกดําบรรพ์ในแหล่งนี้ถือว่ามีความโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกฟอสซิลซากช้างโบราณพบในระดับความลึก 7-12 เมตร ชิ้นส่วนโครงกระดูกที่เห็นเป็นชิ้นบางชิ้นบางออกว่าเป็นฟันกราม งา กะโหลก สิ่งที่ค้นพบสร้างความตื่นเต้นให้กับนักชีววิทยา นักธรณีวิทยา ผู้เชี่ยวชาญซากช้างโบราณที่ทำการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก ห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โครงกระดูกซากช้างโบราณ Cr.ภาพถ่ายจากศมส.การค้นพบซากดึกดำบรรพ์ครั้งแรกเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2464 มีชาวบ้านท่าช้างได้นำไม้กลายเป็นหินที่ได้มาจากลำน้ำมูลไปถวายรัชกาลที่ 6 พระองค์จึงได้ทรงแนะนำให้เก็บรักษาไว้ กรมรถไฟหลวงแห่งกรุงสยามจึงนำไม้กลายเป็นหิน มาประดับไว้บนอนุสรณ์สถานบริเวณสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำมูลตรงบริเวณที่เรียกว่าสะพานดำในปีพ.ศ. 2529 ได้เกิดธุรกิจบ่อดูดทราย จึงทำให้ค้นพบซากดึกดำบรรพ์ เป็นกระดูกฟันกราม งาช้าง กระดูกสัตว์ มีหลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก และยังพบพวกไม้กลายเป็นหิน เมื่อดูดทรายขึ้นมาแล้ว ซากกระดูกทั้งหลายจะนำมาทิ้งไว้ในบ่อหรือกองไว้บนผิวดิน ในสมัยนั้นมีความเชื่อว่าไม่ควรเก็บซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้ ชาวบ้านจึงไม่นำมาเก็บไว้ในบ้านตามความเชื่อเรื่องอาถรรพ์ ได้มีการนำไปถวายวัด แต่ในระยะเวลาเพียง 3-5 ปี ซากกระดูกก็ค่อยพุพังสลายตัวหมดสภาพไปจากการทำปฏิกิริยากับอากาศและความชื้นโครงกระดูกช้างโบราณ Cr.ภาพถ่ายจากศมส.จากการศึกษาของนักธรณีวิทยาและผู้เชี่ยวชาญไดโนเสาร์ ได้อธิบายว่าซากช้างโบราณที่ค้นพบได้แก่ ช้างกอมโฟเทอเรียมหรือช้าง 4 งา มีชีวิตอยู่ระหว่าง 25 - 13 ล้านปีก่อน ช้างไดโนเทเรียม หรือช้างงาจอบ มีชีวิตอยู่ระหว่าง 25 - 1.7 ล้านปีก่อน ช้างสเตโกโลโฟดอน ซึ่งเป็นช้างบรรพบุรุษของช้างวงศ์ปัจจุบันซึ่งมีงา 1 คู่ มีชีวิตอยู่ระหว่าง 25 - 5 ล้านปีก่อน และช้างสเตโกดอน ที่วิวัฒนาการมาเป็นช้างปัจจุบัน มีชีวิตอยู่ระหว่าง 5 - 0.01 ล้านปีก่อน และช้างเอลลิฟาส เป็นช้างสกุลเดียวกับช้างเอเชียหรือช้างไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันในห้องจัดแสดงได้มีภาพวาดช้างโบราณ ทำให้ผู้เข้าชมได้เห็นว่าช่วงเวลาที่ช้างสี่งา ช้างงาจอบ และช้างบรรพบุรุษของช้างในปัจจุบันในสมัยนั้น สันนิษฐานว่าจะมีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร และที่เป็นไฮไลท์ในการค้นพบอีกชิ้นคือ เอปโคราช ที่มีความสำคัญระดับโลก สามารถใช้ศึกษาวิวัฒนาการของมนุษย์ เนื่องจากเอปเป็นญาติใกล้ชิดกับอุรังอุตังมากที่สุดชิ้นส่วนเอปโคราช Cr.ภาพถ่ายจากศมส.ในปัจจุบันซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ต่าง ๆ หรือที่เราคุ้นเคยที่จะเรียกว่าฟอสซิล อันได้แก่ ไดโนเสาร์ ช้างโบราณ แรดโบราณ เต่า จระเข้ ฮิปโปโปเตมัส รวมไปถึงไม้กลายเป็นหิน ได้รับความสนใจและได้มีการให้ความสำคัญมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จนได้เกิดอุทยานการเรียนรู้ในชื่อว่า โคราชจีโอพาร์คหรืออุทยานธรณีโคราช ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาได้แก่ อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมาและอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวมพื้นที่ 3167 ตารางกิโลเมตร มีฟอสซิลอยู่ในช่วง 3 ยุคคือยุคครีเทเชียส 110 ล้านปีก่อนยุคนีโอจีน (16 - 2.6 ล้านปีก่อน) และยุคควอเทอร์นารี (2.6 - 0.01 ล้านปีก่อน) ซึ่งจะเป็น 1 ใน 3 ของโลกที่ยูเนสโกรับรองซึ่งในอนาคตเราจะมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรณีแบบยั่งยืน ที่จะได้ทั้งความเพลิดเพลินและความรู้ในจินตนาการย้อนไปเป็นหลายสิบหลายร้อยล้านปีสถานที่ตั้ง : พิพิธภัณฑ์โครงกระดูกซากช้างโบราณ (ติดกับที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ) ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา 30230โทรศัพท์ : 044 321 422 เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงศุกร์และวันอาทิตย์ 8.30 - 16.30 น. ไม่เก็บค่าเข้าชมขอขอบคุณฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน)(ศมส.) สาวิตรี ตลับแป้น (รัตนา) https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/910