คุณเคยเป็นไหมเวลาที่เหนื่อย ๆ จากงานหรือจากการใช้ชีวิต บางครั้งเราก็แค่อยากขับรถไปเรื่อย ๆ เพื่อกินลมชมวิวให้สองได้พักบ้าง เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการขับรถท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ เวลาที่เรารู้สึกว่าเราอยากพักผ่อนและปล่อยวางจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา แต่โอกาสในการท่องเที่ยวของเราค่อนข้างน้อยเพราะด้วยหน้าที่การงานและภาระที่เราต้องแบกรับเอาไว้หลายอย่าง แต่ดีหน่อยเมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 เรามีโอกาสได้ไปวังน้ำเขียวอยู่หลายครั้งเพราะว่าน้องเราได้ไปบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอวังน้ำเขียว ในช่วงที่น้องไปเก็บตัวอยู่ที่วัดก่อนบวชเราอาจจะยังไม่ค่อยได้ไปแต่ช่วงที่น้องบวชเราได้ไปที่วัดบ่อย ๆ เพราะต้องไปร่วมงานบวชซึ่งจัดขึ้นโดยวัดและมีคนมาร่วมบวชเป็นจำนวนมาก หลังจากบวชเราก็ขับรถไปกับครอบครัวเพื่อใส่บาตรเช้าให้พระน้องชายเกือบทุกวัน ในช่วงที่พระน้องบวชอยู่ที่วัดในวังน้ำเขียวเราต้องตื่นเช้ากันมากเพื่อไปทำบุตรใส่บาตรที่วัด เพราะเราต้องขับรถจากตัวอำเภอเมืองโคราชไปยังอำเภอวังน้ำเขียวที่ห่างกันอยู่ประมาณ 76 กิโลเมตรหลังจากใส่บาตรพระเสร็จแล้วในช่วงวันหยุดของเราก็จะพากันขับรถไปเที่ยวยังที่ต่าง ๆ ของวังน้ำเขียวเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว อากาศของวังน้ำเขียวกำลังดีเราเลยขับรถเที่ยวกันไปเรื่อย ๆ และเข้าไปยังหมู่บ้านไทยสามัคคีตรงเข้าไปเรื่อย ๆ ตามทางก็จะไปถึงเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และมีสถานที่ที่หนึ่งที่เราแวะไปถ่ายรูปกันก็คือผาเก็บตะวัน สำหรับคนที่ชอบตั้งแค้มป์จะรู้จักดีเพราะผาเก็บตะวันจะมีพื้นที่สำหรับตั้งแค้มป์ในช่วงหน้าหนาว แต่ต้องทำการขออนุญาตกรมอุทยานก่อนจึงจะสามารถมาตั้งแค้มป์ค้างแรมได้เพราะเป็นเขตพื้นที่ป่าอุทยานอาจจะยังคงมีสัตว์ป่าอยู่ภายในบริเวณ จึงต้องได้รับความดูแลจากเจ้าหน้าที่ภายในอุทยานด้วยเมื่อมีคนมาตั้งแค้มป์ค้างแรม ที่นี่ไม่มีสิ่งอำนายความสะดวกให้มีเพียงห้องน้ำสำหรับผู้ที่มาตั้งแคมป์ ไม่มีโรงแรมหรือที่พักให้นอกจากพักตามรีสอร์ททางขึ้นมาแล้วมาชมดวงตะวันขึ้นตอนเช้ากับถ่ายรูปกับหมอก เพราะเป็นเขตอุทยานแห่งชาติที่ไม่สามารถให้นายทุนเข้ามาก่อสร้างเพื่อทำเป็นธุรกิจได้ สำหรับคนที่อยากมาเที่ยวที่ผาเก็บตะวันและตั้งแคมป์ค้างแรม ต้องเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบการตั้งแคมป์ตามเขตธรรมชาติจริง ๆ และมากันแบบหมูคณะในช่วงฤดูหนาวจะเหมาะที่สุดค่ะ แต่สำหรับเราไม่ได้ไปตั้งแค้มป์ค้างแรมอะไรแค่แวะไปถ่ายรูปวิว และขนาดเป็นช่วงที่ไม่ใช่เช้ามืดแต่หมอกที่ผาเก็บตะวันยังคงหนาอยู่มาก ยังให้สัมผัสถึงบรรยากาศหน้าหนาวได้อย่างเต็มที่เราและครอบครัวแวะไปถ่ายรูปและสูดอากาศบริสุทธิ์บนผาเก็บตะวันประมาณ 1 ชั่วโมงก็ลงมาจากเขตอุทยานและมุ่งหน้ากลับยังตัวอำเภอเมืองโคราช เพราะหลายคนก็ต่างมีภารกิจของตนเองที่ต้องไปทำ แม้ว่าจะยังคงต้องไปวังน้ำเขียวอยู่อีกเป็นเดือน ๆ แต่ว่าก็หาโอกาสได้น้อยครั้งมากที่จะได้แวะเที่ยวตามสถานที่ที่ต่าง ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วพอใส่บาตรทำบุญเสร็จก็ต้องรีบตีรถกลับเพราะยังต้องทำงานอยู่ สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสกับหมอกและอากาศดี ๆ บนผาเก็บตะวันแนะนำว่ารอช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาวก่อนจึงค่อยมา เพราะตอนนี้ได้แค่เอาภาพบรรยากาศที่เคยไปมาลงไว้ให้ดูก่อนหากไวรัสโควิด – 19 หายไปแล้วอาจจะมีโอกาสได้ไปเก็บภาพปัจจุบันมาไว้ให้ดูกันค่ะ หากถามว่าผาเก็บตะวันมีอะไรน่าสนใจก็คงต้องตอบว่าบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ มีเพียงป่าและทิวทัศน์ให้ชมเท่านั้น แต่ถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ หรือเห็นวิวสวย ๆ คือต้องไปตั้งแคมป์ค้างแรมเพื่อตื่นมาชมดวงตะวันขึ้นตอนเช้าและหมอกที่ค่อนข้างหนามากในช่วงฤดูหนาว เราไปช่วงสายแล้วเลยเก็บมาได้แค่ภาพของหมอกที่ยังไม่จางไปเท่านั้น หากมองลงไปจากหน้าผาจะเห็นวิวของอุทธยานแห่งชาติทับลานได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ไม่แนะนำให้ไปในช่วงฤดูร้อนเพราะว่าจะอากาศร้อนมากกว่าปกติเนื่องจากอยู่ที่สูง เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน