ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเดือนเมษายน บวกกับสถานการณ์กักตัวช่วยชาติ อยู่บ้านช่วยหมอ ต้านโควิด-19 ทำให้คิดถึงบรรยากาศธรรมชาติ ๆ สายน้ำ ภูเขา ท้องฟ้า และลมเย็น เอามาก ๆ เลยค่ะ และผู้เขียนก็คิดถึง หาดชมตะวัน ที่ผู้เขียนเคยไปกับกลุ่มแก๊งค์เพื่อน ๆ ซึ่งการเดินทางไปที่นี่ เราได้ใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางไป-กลับ จากตัวเมืองโคราช สู่หาดชมตะวัน หาดชมตะวันนี้ ตั้งอยู่ที่ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนลำปลายมาศนั่นเองค่ะ ในสายตาผู้เขียน สถานที่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ เหมาะกับการไปพักผ่อนเงียบ ๆ มาก ภาพโดย : ผู้เขียน เราออกจากตัวเมืองโคราชในช่วงสาย ๆ ของวัน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 3 คน และ 1 ใน 2 คัน ก็มีผู้เขียนเป็นผู้ซ้อนท้าย (ตัวฟรี) อิอิ เราขับไปบนถนนต่าง ๆ ตาม GPS บอก และมาสิ้นสุดที่ทางเข้าอุทยาน เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท และที่นี่ยังมีบริการให้พักกางเต๊นท์ได้ด้วยนะคะ กางเต๊นท์เสียค่าเข้าคนละ 30 บาทเท่านั้นเองค่ะ จากนั้นก็ขับรถเข้ามาในส่วนของหาดชมตะวันกันต่อไป เมื่อได้ทราบว่าจะมาเที่ยวที่หาดแห่งนี้ ผู้เขียนก็ได้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับมาผลัดเปลี่ยนลงเล่นน้ำใส่เป้มาด้วย และแวะซื้อน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวมาพร้อม เพราะที่นี่ร้านค้าค่อนข้างน้อย มาถึงไม่รอช้า รีบตรงเข้าสำรวจสถานที่เล่นน้ำ และที่นั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อยและร้อนแดดมาก ๆ ก่อน มีคุณป้านำห่วงยางมานั่งรอให้เช่าอยู่แล้ว และเป็นเพียงเจ้าเดียวของหาดแห่งนี้เสียด้วย แถมป้ายังเป็นผู้แนะนำที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมที่นี่อีกต่างหากค่ะ☺ ภาพโดย : ผู้เขียน อย่างที่บอกว่าที่นี่มีร้านค้าน้อย เพราะเป็นช่วงนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวไม่มาก ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะให้ความสนใจและมาท่องเที่ยวกางเต๊นท์กันในช่วงฤดูหนาวเสียมากกว่า แต่ก็ยังมีร้านค้าให้พอได้ซื้อข้าวกินอยู่บ้าง ซึ่งเราก็ได้ซื้อข้าวเหนียว ส้มตำ และปลาดุกย่าง มานั่งกินริมหาดรับลมเย็น ๆ กันนั่นเองค่ะ กินข้าวแล้ว ผู้เขียนก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะลงเล่นน้ำ ส่วนเพื่อนอีก 2 คนไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ผู้เขียนเลยได้ลงเล่นน้ำแค่คนเดียวไปโดยปริยาย แป่ว...🙄🙄 โดยได้เช่าห่วงยางคุณป้าที่นั่งให้ข้อมูลเราอยู่นั่นเอง ค่าเช่าครั้งละ 20 บาท เล่นได้นานจนเปื่อยเลยค่ะ นอนบนห่วงยางอาบแดด เงยหน้ามองฟ้าใสเมฆสวย ๆ เหล่านั้นให้ผ่อนคลาย สลับกับดำผุดดำว่ายอยู่ในนทีนั้น ให้ชุ่มฉ่ำเย็นกายาหายร้อนรน เป็นวันพักผ่อนที่สุดพิเศษเลยเทียว😊 กิจกรรมที่หาดชมตะวันนี้ นอกจากจะมีลานสำหรับกางเต๊นท์พักค้างคืน ที่นี้ก็ยังมีเรือนำเที่ยวด้วยนะคะ มีอยู่ประมาณ 4-5 ลำ จอดเทียบฝั่งคอยนักท่องเที่ยวอยู่ เห็นว่าเรือนี้จะพาเที่ยวไปในแหล่งต่าง ๆ ของเขื่อน ซึ่งมีจุดสำคัญอยู่ 2 จุดคือ ถ้ำพระ และแก่งหินค่ะ ใจจริงเราก็อยากนั่งเรือไปเที่ยวด้วยนะคะ แต่เรามาด้วยงบที่ low cost มาก ๆ ค่าใช้จ่ายเลยไม่พอนะสิ เพราะราคาเหมาลำเที่ยวละ 500 บาทอยู่ได้ทั้งวัน จนกว่าสถานที่แวะเรือจะปิด จำได้ว่าจำกัดอยู่ที่ลำละ 5 คนหรืออย่างไรนี่แหละค่ะ เลยอด... ไป 😅 ภาพผู้เขียนเตรียมตัวเล่นน้ำ เราอยู่ที่นี่นานพอสมควรค่ะ เล่นน้ำจนมือเท้าเหี่ยวเลยทีเดียว จากนั้นก็เดินชมไปในที่ต่าง ๆ ของหาดค่ะ และได้ถ่ายรูปคู่กับหลักกิโล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และจุดเช็คอินของที่นี่ เดินดูลานที่เขามีให้สำหรับกางเต๊นท์ค้างคืน และคิดในใจว่าสักวันจะชวนเพื่อนมาพักกางเต๊นท์ที่นี่ให้ได้ เมื่อได้เวลาสมควรกลับ เราก็ได้แว๊นออกไปจากหาดแห่งนี้ เพราะถ้าหากอยู่นานจนมืดค่ำลง การขับรถมอเตอร์ไซค์ก็อาจเป็นอันตรายได้ และออกไปได้ไม่ถึงเท่าไรระหว่างทางนอกจากเจอแดดร้อนแล้ว ฝนก็ตกลงมาอีกด้วย เปียกปอนไปตาม ๆ กัน ถนนลื่นเฉอะแฉะเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีอุบัติเหตุใด ๆ เกิดขึ้นกับพวกเรานะคะ เพราะเมื่อฝนตกแรง ๆ เราก็ได้จอดรถพักเพื่อให้ฝนซาก่อนค่ะ แล้วค่อยออกเดินทางต่อถึงบ้านที่ตัวเมืองโคราช โดยสวัสดิภาพและปลอดภัยกันทุกคนค่ะ ภาพผู้เขียนกับหลักกิโล จุดเช็คอินของหาดชมตะวัน ก็เลยไม่ได้มีโอกาสดูตะวันลับขอบฟ้าเลยเนอะ เพราะเห็นเขาบอกว่า ตะวันลับขอบฟ้าที่นี่สวยมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวค่ะ จนเป็นที่มาของชื่อ "หาดชมตะวัน" ❌กาเอาไว้ในลิสต์เลยค่ะ หายโควิด-19 เมื่อไรเราคงได้เจอกันแน่!!!... อิอิ😁