มะขามเทศ เราทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี และคุ้นเคยกับผลไม้ชนิดนี้ โดยมีชื่อท้องถิ่นทางภาคอีสานว่า มะขามแป หรือ บักขามแป ต้นมะขามเทศเป็นพืชที่เกิดได้ทั่วไป ส่วนใหญ่มักพบเห็นมากตามต่างจังหวัด ปลูกง่ายสามารถเกิดได้ทุกที่ และทนทานต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่ามะขามเทศอาจจะเป็นเพราะฝักของพืชชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับมะขามบ้านเรา แต่ไม่ใช่พืชที่มีต้นกำเนิดในไทย จึงเรียกกันว่า มะขามเทศ ต้นมะขามเทสที่เกิดอยู่ทั่วไป ภาพโดยผู้เขียน ฝักของมะขามเทศจะมีลักษณะเป็นข้อเหมือนฝักมะขาม แต่จะม้วนเข้าหากันขดเป็นวงกลม มีเมล็ดสีดำ เปลือกนิ่มสีเขียว เวลาสุกเปลือกจะเปลี่ยนเป็นชมพูแดง ตัวเนื้อข้างในฝักมีสีขาว และเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นชมพูแดง เช่นเดียวกับเปลือก ส่วนใหญ่ในขณะที่ฝักยังอ่อนจะมีรสฝาดมาก ผลจะค่อนข้างลีบ คนอีสานนิยมนำผลอ่อนไปกินกับปลาร้าบอง แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ของมะขามเทศให้ได้ผลอวบ รสหวาน มัน ไม่ฝาด ทานง่าย สามารถรับประทานได้ถึงแม้ว่าผลจะยังไม่สุก เนื้อ และ เมล็ด ของมะขามเทศ ภาพโดยผู้เขียน ผู้เขียนเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบมะขามเทศมากนัก เพราะเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้มีกลิ่นปาก คล้ายกลิ่น กระถิน หรือ สะตอ แต่ใครจะรู้บ้างว่าประโยชน์ของมะขามเทศ ก็มีมากมายแบบที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งผลของมันอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น ช่วยในเรื่องของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง วิตามินอี ช่วยชะลอความแก่ บำรุงร่างกาย แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูก และ ฟัน ฟอสฟอรัส ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ธาตุเหล็ก ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ป้องกันภาวะโลหิตจาง โปรตีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และผิวหนัง เส้นใย ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก วิตามินบี 1 บี 2 ช่วยป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก วิตามินบี 3 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ เป็นต้น ฝักของมะขามเทศ ภาพโดยผู้เขียน และที่สำคัญมะขามเทศยังไม่มีไขมัน คอเรสเตอรอล แถมน้ำตาลน้อยอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายแล้ว ยังเป็นสมุนไพรที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งดอกและใบ ราคาขายของมะขามเทศอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 – 80 บาท สามารถหาซื้อได้ตามตลาด และร้านขายผลไม้ มะขามเทศจึงถือเป็นผลไม้ทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ ใครที่ยังไม่เคยทานก็ลองหาซื้อมาชิมกันดูได้นะคะ แต่อย่าชิมมากเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นยาระบายแทนค่ะ มะขามเทศ ภาพโดยผู้เขียน