เที่ยววิวเริ่ด ๆ ที่ "ภูอีเลิศ" จ.เลย จังหวัดเลยมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีภูเขา มีทะเลหมอก ยกตัวอย่างเช่น ภูลมโล ภูเรือ ภูทอก ภูกระดึง เป็นต้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ของผู้เขียนที่อยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่คิดว่างดงามและน่าเที่ยวไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในจังหวัดเลยแน่นอน สถานที่ที่ว่านั้นก็คือ "ภูอีเลิศ" เมื่อพูดถึงภูอีเลิศมีน้อยคนนักที่จะรู้จัก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดเลย เพิ่งเปิดบริการให้นักเที่ยวได้ขึ้นไปชมธรรมชาติสวย ๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งจุดชมวิวสามารถมองเห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมภูเขาทั้งสองแผ่นดิน คือ ฝั่งไทยและลาว จุดเริ่มต้นของการมาเที่ยวในครั้งนี้ คือ อยากไปเที่ยวพักผ่อน อยากหนีความวุ่นวาย ความเหนื่อยล้าทั้งหลาย ผู้เขียนจึงลองค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเลย ปรากฏว่ามีชื่อภูอีเลิศขึ้นมาพร้อมกับมีภาพถ่ายรีวิวสวยมาก พอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจึงรู้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดเลยซึ่งตอนนั้นยังมีคนรู้จักที่แห่งนี้ไม่มาก เลยคิดว่านักท่องเที่ยวก็ไม่น่าจะเยอะหรอก ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์พอดี คือต้องการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวาย จึงตัดสินใจวางแพลนเดินทางมาจังหวัดเลย ภูอีเลิศ ตั้งอยู่ที่ตำบลปากหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 620 เมตร ป่าไม้เป็นป่าไม้เบญจพรรณที่มีความอุดมสมบูรณ์ การมาเยือนภูอีเลิศครั้งนี้เราเลือกที่จะค้างคืนบนภู ตอนแรกตั้งใจว่าจะขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นเพราะไกด์นำเที่ยวบอกว่าสวยมาก แต่บังเอิญเราเดินทางมาถึงหมู่บ้านปากหมันช้าไปหน่อย กว่าจะขึ้นมาถึงภูอีเลิศก็ค่ำแล้วจนมืดพอดี แต่ก็ยังเหลือแสงของพระอาทิตย์สีเหลืองทองที่กำลังจะลับขอบฟ้าตัดกับเงาของเทือกเขาที่ตั้งเรียงรายสลับซับซ้อนบวกกับอากาศเย็น ๆ นี่ฟินสุด ๆ ไปเลย นอกจากที่นี่จะมีทะเลหมอกให้ชมในตอนเช้าแล้ว ตอนกลางคืนก็ยังมีดาวให้ชมด้วยนะคะ จากลานกางเต็นท์เดินขึ้นมาประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอกับจุดชมวิว ตอนเช้าอากาศเย็น ๆ ฟ้ากำลังจะเปิด พระอาทิตย์กำลังทอแสงขึ้นมาพอได้เห็นเป็นเงาลาง ๆ หมอกเริ่มลอยมาจาง ๆ เพราะวันนี้มีลมแรง หมอกเลยไม่ค่อยหนา จุดนี้เป็น "ผาวัดใจ" มีหินตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนต้องขึ้นไปวัดใจความเสียวกันสักหน่อย ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงภูอีเลิศ เห็นนั่งนิ่ง ๆ แบบนี้บอกเลยว่าแอบขาสั่นอยู่เหมือนกันนะคะ จากตรงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองด่านซ้ายได้กว้างไกลจนถึงพรมแดนประเทศลาวเลย ที่นี่ ได้รับการขนานนามว่า "แกรนแคนยอนแห่งภูอีเลิศ" เพราะมีลักษณะเป็นหินซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นสูงเด่นและยื่นตัวออกมา โดยรอบ ๆ ถูกโอบล้อมด้วยสายหมอก ธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติจริงโดยไม่ผ่านการปรุงแต่งย่อมงดงามเสมอ มาถึงจุดนี้แล้วความรู้สึกของผู้เขียนคือโปร่งโล่งสบายหายจากอาการเหนื่อยและลืมความเครียดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่า ธรรมชาติบำบัด การเดินทางขึ้นชมทะเลหมอกที่ภูอีเลิศมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ กางเต็นท์นอนบนภู จะมีไกด์นำเที่ยวซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านปากหมันเอง ที่เข้าร่วมเป็นเจ้าหน้าที่นำเที่ยวภูอีเลิศ ไกด์จะพาเราขึ้นภูก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน และจะอยู่ดูแล อำนวยความสะดวกเราจนถึงตอนเช้าค่อยลงจากภูมาพร้อมกัน (แอบกระซิบว่าพี่ไกด์ของเราใจดีมาก ๆ พี่แกพาลูกชายขึ้นไปพร้อมกับเราด้วย ชื่อน้องนาย น้องนายแนะนำสถานที่เก่งมาก ๆ พาเราไปชมวิวทุกที่เลย ) ขึ้นรถอีแต๊กไปตอนเช้าทีเดียว สำหรับคนที่ไม่อยากนอนบนภู ที่หมู่บ้านปากหมันมีที่พักโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยว คืนละประมาณ 300-350 บาท ตอนเช้าจะมีไกด์พานั่งรถอีแต๊กขึ้นภูตั้งแต่ตี 4 ไปถึงก็จะเจอหมอกทันที ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง เดินทางขึ้นภูอีเลิศด้วยรถอีแต๊กของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถขึ้นไปเอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงลานกางเต็นท์ ค่ารถอีแต๊กขึ้นภู (แบบค้างคืน 700 บาท/แบบไม่ค้างคืน 500 บาท) ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/(สำหรับคนที่เอาเต็นท์มาเอง) ค่าเช่าเต็นท์ 300 บาท ต่อหลัง/(สำหรับคนไม่มีเต็นท์) ในส่วนของที่พัก สำหรับใครที่อยากจะขึ้นมาพักบนภูอีเลิศไ่ม่ต้องกังวลเรื่องที่พักและห้องน้ำ จุดพักแรมมีน้ำและห้องน้ำให้ใช้บริการฟรี แต่ไม่ให้อาบนะคะ อาหารเราสามารถเตรียมขึ้นมาเองได้ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือหมูกระทะของโปรดของใครหลาย ๆ คน หรือรวมไปถึงขนม นม เนย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่สะดวกสบายในการพกพา เอาเป็นว่าตามความสะดวกของแต่ละคนแล้วกัน ข้างบนภูอีเลิศสามารถก่อไฟปรุงอาหารได้แต่ก็ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของพี่ ๆ เจ้าหน้าที่และต้องขออนุญาตก่อนเพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่และจะได้ไม่ทำผิดกฎของที่ท่องเที่ยวนะคะ ใครที่ชอบการเดินทาง กำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ วิวสวยหลักล้าน ผู้เขียนขอแนะนำที่นี่เลย การันตีว่า งดงามเริ่ด สมชื่อ "ภูอีเลิศ" จริง ๆ ค่ะ ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน : ยัยเหม่ง