ไปเชียงคาน เคยสงสัยไหม มะพร้าวแก้ว ไปโผล่เชียงคาน ได้ไงอะ จังหวัดเลยก็ไม่มีต้นมะพร้าวสักหน่อยทำไมมะพร้าวแก้วเยอะทั่วเชียงคาน ทั่วถนนคนเดินเลย เราจะเห็นชาวบ้านเอามะพร้าวใส่กระทะ ตั้งเตาอยู่หลายร้าน และบรรจุมะพร้าวแก้วขายตามเส้นทางถนนคนเดิน ไปตลอดเส้นทางเลย เดินไปชิมไป มันอร่อยกว่าที่เคยกินตอนเด็กๆ ที่มันแห้งๆ กรอบๆ หวานๆ อันที่ชิมนี่แบบเนื้อนุ่มหวานกำลังดี เหมือนกินเนื้อมะพร้าวสดเลย สงสัยก็ต้องถามไปถามคนเชียงคานมาได้ใจความมาว่า คนที่นี่ดั้งเดิมก็ทำค้าขายพวกเครื่องเทศ หัวเผือหัวมัน กับทางลาวบ้างกรุงเทพฯบ้าง ส่วนมะพร้าวนี่เป็นของต่างแดนที่ส่งมาขาย เพราะที่เชียงคานไม่มีปลูกมะพร้าว ที่เชียงคานหางไกลจากแหล่งมะพร้าว ถือว่ามะพร้าวเป็นของหายาก เพราะฉะนั้นมะพร้าวเป็นของมีค่า เลยต้องทำการถนอมอาหารให้ทานได้นานๆ วิธีการก็เอาเนื้อมาลอกออก ทำความสะอาด แล้วเคี่ยวกับน้ำตาลทราย และแช่ให้น้ำตาลซึมเข้าเนื้อมะพร้าว และเก็บแช่เย็นไว้ พอจะขายก็เอามาเคี่ยวให้แห้ง โดยตักน้ำที่ออกมาจากมะพร้าว และเคี่ยวไปจนแห้ง จากนั้นสะเด็ดน้ำตาลจนแห้งเป็นมะพร้าวแก้ว เราเลยเห็นชาวบ้านเอามะพร้าวมาเคี่ยวให้แห้งเตรียมบรรจุขาย บางร้านก็ใส่ใบเตยทำให้มะพร้าวมีสีเขียวและหอมใบเตย สีชมพูแดงๆก็เป็นสีอาหารที่ผสมเข้าไปให้ดูน่าทาน มะพร้าวสดเป็นลูกๆที่ได้มาก็มีแก่มีอ่อนก็ต้องมาคัดอีกรอบ ถ้าแกะมะพร้าวมาได้เนื้อมะพร้าวอ่อนๆ ก็ได้ตกเป็นเกรด A ถ้าแกะออกมาเป็นเนื้อมะพร้าวแข็งหน่อยก็ตกเป็นเกรด B ปัจจุบันนี้ต้นมะพร้าวก็ไม่มีปลูกที่เชียงคานนะ เราก็รับมาแล้วมาทำมะพร้าวแก้ว ที่เป็นสูตรเฉพาะของคนเชียงคาน มาเชียงคานก็ต้องซื้อมะพร้าวแก้วกลับไป เพราะที่อื่นก็ไม่มีมะพร้าวแก้วนุ่มๆ หวานกำลังดี แบบนี้ มะพร้าวแก้วมีหลายเกรดหลายราคา เกรด A (เนื้อนิ่ม นุ่ม เหมือนมะพร้าวสด) 100 บาท และ เกรด B (เนื้อออกแห้งแข็งหน่อย) 50 บาท กับเกรดที่เราๆคุ้นเคยคือแบบแห้งๆกรอบๆหวานๆ ราคาก็จะถูกลง เดินไปชิมไปซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนะคะ