พระธาตุศรีสองรัก … ขอพรให้เกิดสัจจะไมตรี มิตรภาพดี ๆ และความรักที่มีนั้นเป็นนิจนิรันดร์ พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ทีริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. การเดินทางมา พระธาตุศรีสองรัก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองเลยระยะทางประมาณ 83 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลยที่ 21 ผ่านมาทางอำเภอภูเรือ ไปทางแยกจุดบริการประชาชนโคกงาม แล้วจึงแยกไปตามถนนทางหลวงหมายเลขที่ 2013 มุ่งหน้าสู่อำเภอด่านซ้าย จะมีทางสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางจังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดเพชรบูรณ์ ราว ๆ ระยะทางประมาณ 300 เมตร จึงยูเทริน์แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปในพระธาตุศรีสองรัก ภายในจะมีลานจอดรถกว้างขวาง พระธาตุศรีสองรักมีข้อห้ามเคร่งครัดที่พึงปฎิบัติ คือ ห้ามนำดอกไม้แดง ใส่ชุดเสื้อผ้าแดงหรือสิ่งของสีแดงขึ้นไปบนพระธาตุศรีสองรัก เพราะสีแดงหมายถึง สีของเลือด สื่อถึงการรบ การแข่งแย่งชิงดี เอาแพ้เอาชนะกัน และจะกลายเป็นศัตรูในที่สุด เนื่องจากพระธาตุแห่งนี้ สร้างด้วยความรักความสามัคคีของทั้งสองอาณาจักร คือไทยและลาว ร่วมกัน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งสัจจะและไมตรีต่อกัน ห้ามสวมหมวก กางหมวก และสวมรองเท้าขึ้นบนพระธาตุ ห้ามนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้น และสัตว์เลี้ยงขึ้นไปนมัสการ ทางขึ้นพระธาตุศรีสองรัก ทางขึ้นลงบันไดเดินได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ชันมาก ผู้สูงอายุสามารถเดินขึ้นได้ ราวบันไดทำเป็นรูปพญานาค รูปร่างไม่เหมือนที่ใด ๆ ทำด้วยกระจกหลากสีสัน อ้าปากทักทายประชาชนที่มีจิตศรัทธาที่มากราบสักการะพระธาตุ ประวัติพระธาตุศรีสองรัก สร้างในปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในความรักใคร่ สัจจะไมตรี และมิตรภาพดี ๆ ต่อกันระหว่าง พระมหาจักรพรรดิ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต ในปัจจุบันคือ นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งสองอาณาจักร พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ทั้งสองพระองค์ทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน ได้ตกลงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมกำลังเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกันและกัน ในการต่อสู้ต้านทานการรุกรานจากประเทศพม่า ในขณะนั้นผู้ปกครองคือ พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ เป็นกษัตริย์พม่า ซึ่งพยายามทําสงครามกับประเทศใกล้เคียง เพราะต้องการที่จะขยายราชอาณาจักร ด้วยเหตุนี้จึงได้ร่วมาแรงร่วมใจกันสร้างพระธาตุศรีสองรัก เพื่อเสมือนเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร คือไทยและลาว มาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้านหน้าของพระธาตุเป็นพระอุโบสถ มีพระพุทธรูป ที่ประชาชนสามารถเข้ามาไหว้และสักการะได้ ตรงหน้าพระประธานในพระอุโบสถ และตรงด้านในกำแพงพระเจดีย์พระธาตุศรีสองรัก ห้ามสตรีหรือผู้หญิงเข้าไปในบริเวณนั้น เนื่องจากสตรีหรือผู้หญิงร่างกายจะไม่บริสุทธิ์ในแต่ละรอบเดือน กฎระเบียบการเดินเวียนรอบพระธาตุพระศรีสองรัก ต้องเดินเวียนซ้ายจำนวน 3 รอบ เท่านั้น เนื่องจากเป็นธรรมเนียมที่ถือสืบปฏิบัติเคร่งครัดกันมาหลายร้อยปี และคำกล่าวบูชา หรือบทสวดมนต์ขณะพุทธศาสนิกชนกำลังเวียนรอบพระเจดีย์พระธาตุ พระเจดีย์พระธาตุพระศรีสองรัก รูปแบบสถาปัตยกรรม ลักษณะทรงศิลปกรรมแบบล้านช้าง ตั้งอยู่บนฐานเขียงเตี้ย หรือ รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รองรับชั้นบัวคว่ำบัวหงาย แบบเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังแบบทรง บัวเหลี่ยม พระธาตุมีความสูง 19.19 เมตร และมีฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ส่วนยอดแหลมเรียวประดับด้วยฉัตรและเม็ดน้ำค้าง ดูอ่อนช้อย สวยงามและเรียบง่าย รูปทรงคล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวงที่เวียงจันทน์ และองค์พระธาตุต่าง ๆ มากมายแถบลุ่มน้ำโขง ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือวันวิสาขบูชาของทุกปี ประชาชนผู้ที่มีจิตศรัทธาจะร่วมกันนำ "ต้นผึ้ง“ หรือ “ลูกผึ้งลูกเทียน" มาถวายและร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก ซึ่งเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่จัดเป็นสืบเนื่องกันเป็นประจำทุกปี การมากราบสักการะพระธาตุศรีสองรัก จะมีผู้มีจิตศรัทธา โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวนิยมมากันเป็นจำนวนมาก เนิ่ง จากสถานที่แห่งนี้สามารถขอพรอธิฐาน ให้ความรักยืนยาวตราบเท่านิจนิรันดร์ เพราะสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากการสร้างด้วยความรัก ความสามัคคี มีสัจจะไมตรี และมิตรภาพที่ดี ๆ ต่อกัน ระหว่างอาณาจักรไทยและลาว อนุภาคและพลังแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้นมากมายภาย ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เครดิตภาพทั้งหมด “ภาพถ่ายโดยผู้เขียน”