“อำเภอเชียงคาน” เป็นอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเลยประมาณ 45 นาที เป็นอำเภอที่ติดกับแม่น้ำโขง และสามารถมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้ ซึ่งก็คือประเทศลาว แม้ว่าจะเป็นอำเภอที่เล็ก แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำ “แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ ของอำเภอเชียงคาน” โดยจะเลือกมา 4 สถานที่ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมมาก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมแล้วไปชมกันเลย 1. ศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านนาป่าหนาด สถานที่แรกที่อยากจะมาแนะนำ คือ ศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านนาป่าหนาด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของชาวไทดำ ที่อพยพมาจากประเทศลาว ภายในนั้นก็จะมีการจำลองบ้านเรือนของคนไทดำสมัยก่อน การดำรงชีวิตต่าง ๆ เสื้อผ้าการแต่งกายของชาวไทดำ และอาหารการกิน ซึ่งที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ ก็คือต้องไปถ่ายรูปกับเสาไม้ ที่ประดับตกแต่งด้วยโคมไหมพรมสีสันต่าง ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของชาวไทดำ นอกจากนั้นยังมีร้านขายของระลึกอยู่หลายร้าน ใครสนใจจะมาที่นี่แนะนำให้มาในช่วงเช้า เพราะที่นี่จะมีบริการพานักท่องเที่ยว ขึ้นรถอีแต๊กพาชมทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ต้องแจ้งล่วงหน้าด้วยนะจ๊ะ เขาจะได้เตรียมไว้ให้ 2. แก่งคุดคู้ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่สองก็คือ “แก่งคุดคู้” จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อยากจะมาชมความสวยงามของแม่น้ำโขง ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือ จะมีตำนานหนึ่งที่เล่าต่อ ๆ กัน มาตั้งแต่สมัยก่อนว่า “มีนายพรานคนหนึ่งกำลังล่าควายเงินอยู่ แต่ตอนนั้นได้มีเรือแล่นมา ทำให้ควายเงินตกใจเสียงเรือ และกระโดดหนีไป ทำให้นายพรานโกรธจึงนำหินมาใส่คานหาบ เพื่อนำหินไปวางกั้นไม่ให้เรือผ่านไปได้ แต่โชคร้ายไม้คานนั้นได้หัก และบาดคอนายพรานจนตาย” และในปัจจุบันถ้าช่วงไหนแม่น้ำโขงมีน้ำน้อย ตรงบริเวณแก่งคุดคู้ ก็จะสามารถมองเห็นโขดหินกลางแม่น้ำ ซึ่งก็เล่ากันต่อมาว่าที่ตรงนั้นแหละ คือหินที่นายพรานนำไปวางกั้นไว้ ใครที่อยากไปเที่ยวก็แนะนำให้ไปช่วงฤดูหนาวนะคะ เพราะนอกจากจะอากาศเย็นสบายแล้ว น้ำในแม่น้ำโขงก็จะไม่ค่อยมีด้วย ทำให้เห็นโขดหินได้ชัดมาก ๆ และที่พลาดไม่ได้เลยก็ต้องเป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งก็คือมะพร้าวแก้วหวาน ๆ หอม ๆ มีหลายร้านให้เลือกมากมาย ชอบร้านไหนก็ตรงเข้าไปเลยค่ะ ราคาไม่ได้ต่างกันมาก และพ่อค้าแม่ค้าที่นั้นใจดีกันทุกร้านเลยจ้า 3. วัดศรีคุณเมือง สถานที่แห่งที่สามก็คือ “วัดศรีคุณเมือง” ตั้งอยู่ใกล้กับถนนคนเดิน ณ เชียงคาน ถ้าใครไปเที่ยวแก่งคุดคู้มา ขากลับก็สามารถแวะไหว้พระที่วัดนี้ได้ ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามมาก นอกจากนักท่องเที่ยวทั้งหลายจะมาไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็จะมาถ่ายรูปตรงหน้าอุโบสถแห่งนี้ ถือเป็นแลนด์มาร์คที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะสวยงามมากจริง ๆ ใครที่มาเชียงคานก็แนะนำให้มาเยี่ยมชมกันด้วยนะคะ 4. ถนนคนเดิน ณ เชียงคาน สถานท่องเที่ยวแห่งสุดท้าย เป็นสถานที่ต้องห้ามพลาด ถ้าคุณมาเชียงคานแล้วไม่ได้มาที่นี่ถือว่าผิด ซึ่งก็คือ “ถนนคนเดิน ณ เชียงคาน” โดยเราสามารถจอดรถไว้ในวัดศรีคุณเมืองได้ แต่แนะนำให้มาตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น เพราะถ้ามาช้าก็จะไม่มีที่จอดนะจ๊ะ หรือจะไปจอดด้านนอกก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะเดินไกลหน่อย เมื่อพูดถึงถนนคนเดินหลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่าก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ แต่สำหรับที่นี่ไม่ใช่แบบนั้น ถนนคนเดิน ณ เชียงคาน เป็นถนนที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นเมืองเก่า มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมของทั้งประเทศไทย และประเทศลาวผสมผสานกันอยู่ ทั้งภาษา วิถีชีวิต อาหารท้องถิ่น ซึ่งมีเสน่ห์มาก ๆ นอกจากจะมาเดินเล่นรับบรรยากาศแล้ว ยังได้เห็นบ้านเรือนสมัยก่อนที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้อยู่ ไปจนถึงอาหารการกินต่าง ๆ ที่อาจจะไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน รู้แบบนี้แล้วก็มาเที่ยวกันเยอะ ๆ ด้วยนะ อาหาร และของฝากที่นี่ราคาดีมาก แม่ค้าใจดีทุกร้านเลย อำเภอเชียงคานแห่งนี้ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว ที่นี่ก็ยังมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ผู้คนใจดี น่ารัก และใช้ชีวิตกันอย่างสโลว์ไลฟ์ ใครที่เป็นสายรักป่า รักธรรมชาติ ต้องมาเที่ยวที่นี่ให้ได้สักครั้ง แต่หลายคนที่ได้มีโอกาสมาแล้ว ก็มักจะมาซ้ำอีกหลายครั้ง และถ้าคุณยังไม่เคยมา เราก็อยากจะชวนให้คุณได้ลองมาเถอะ รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักเชียงคานอย่างแน่นอน ภาพประกอบ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน