พืชผักสวนครัว รั้วกินได้ เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตภายใต้ความพอเพียงหรือทางสายกลาง ซึ่งคนในชุมชนมักจะพึ่งพาพืชผักสวนครัวทั้งจากสวนในพื้นที่ของตนและของเพื่อนบ้าน ผักที่คนในชุมชนนิยมปลูกในสวนใกล้บ้าน เช่น ผักกาดกวางตุ้ง ผักคะน้า มะนาว หอม หนึ่งในนั้นคือผักแป้น (กุยช่าย) ซึ่งมีสรรพคุณทางยา เช่น ถ่ายพยาธิในวัวควาย ใช้เป็นยาแก้หวัด เป็นต้น ผักแป้นเป็นที่นิยมกันในการนำมาทำคั้นส้ม (ผักดอง) ซึ่งช่วยให้สามารถรักษาและเก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ในการยกระดับส้มผักแป้น ได้มีผู้ให้แนวความคิดถึงการจัดทำเป็นผักแป้นอบแห้ง เพราะนอกจากจะเก็บไว้ได้นานมากยิ่งขึ้น และสามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้ นอกจากนี้ก็จะมีการนำไปเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยนั่นก็คือ ผัดไทย ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติหรือคนที่ไม่รู้จักผักชนิดนี้ได้รู้จากมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การนำไปสกัดเป็นน้ำสมุนไพรจากผักแป้นก็น่าสนใจอย่างยิ่ง เช่น ยาน้ำบรรเทาโรคเบาหวาน ความดัน เป็นต้น วิธีปลูก 1. เตรียมแปลงผักโดยการพรวนดิน 2. นำหัวของผักแป้นมาปลูกลงดินโดยมีระยะห่างระหว่างต้นพอประมาณ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและการแตกกอของต้นผักแป้น 3. รดน้ำ พรวนดิน ดูแลรักษาหลังปลูกเสร็จ วิธีการเก็บเกี่ยว หลังปลูกได้ประมาณ 50 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตควรที่จะตัดให้ชิดกับโคนต้นพอดีให้เหลือไว้แค่หัวอยู่ใต้ดิน หลังจากตัดเสร็จก็ใส่ปุ๋ยคอกลงไป รดน้ำตามปกติ วิธีทำส้มผักแป้น (กิมจิอีสาน) 1. เตรียมวัตถุดิบ ดังนี้ -ผักแป้นล้างสะอาด -เกลือ -ข้าวเหนียวสุกแช่น้ำ (แช่พอไม่ให้ข้าวเหนียวติดหรือจับกันเป็นก้อน) -น้ำซาวข้าว 2. ตัดผักแป้นให้มีขนาดพอดีคำ 3. ใส่เกลือ และขยำให้เข้ากัน 4. ใส่ข้าวเหนียวที่เตรียมไว้ ขยำทุกอย่างให้เข้ากันแล้วกดลงให้แน่นในภาชนะที่ใช้ใส่ 5. รออีก 1 วัน จนกว่าจะมีน้ำซาวข้าวมาใส่ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่งเช้าของอีกวัน นอกจากนี้การใส่น้ำซาวข้าวบางคนอาจจะไม่ใส่ก็ได้ แต่จะไม่มีน้ำส้มผักแป้นและไม่มีความเปรี้ยวมากเท่าที่ควร และน้ำซาวข้าวก็มีประโยชน์ในการรักษาผิวพรรณด้วย ในปัจจุบันส้มผักแป้น (กิมจิอีสาน) มีการนำไปกินคู่กับป่นปลา ลาบปลา หรือเมนูอาหารอีสานอื่น ๆ และส้มผักแป้นก็ทำง่ายและที่สำคัญผักแป้นไม่ต้องปลูกใหม่ ๆ หลังจากเก็บผลผลิต ซึ่งในการเก็บต้องตัดให้ถึงโคนต้นพอดี เพื่อง่ายต่อการงอกใบใหม่ และใช้ปุ๋ยคอกและรดน้ำวันละครั้งหรือสองวันครั้งก็ได้ เท่านี้ก็จะได้ผักแป้นมากินอยู่เรื่อย ๆ ทุกท่านลองนำผักแป้นไปทำเมนูอื่นดูนะคะ เผื่อจะเป็นการยกระดับและก็จะสามารถสร้างรายได้และสร้างอาชีพได้อีกหนึ่งทางค่ะ ภาพโดย ผู้เขียน