ไลฟ์แฮ็ก

รู้หรือไม่ น้ำมะเขือเทศทำให้ผิวสวย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รู้หรือไม่ น้ำมะเขือเทศทำให้ผิวสวย

สวัสดีครับ ต้องขอเกริ่นก่อนเลยนะครับว่า เราเป็นคนชอบกินมะเขือเทศมาก กินได้ทุกแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบเป็นลูก แบบที่ใส่กับส้มตำ และแบบเป็นน้ำ แต่เพื่อนๆ ที่สนิทกันก็จะบอกว่าแปลก กินไปได้อย่างไร เราว่าที่เขาถามแบบนี้คงเพราะ กลิ่นของมะเขือเทศที่เป็นเอกลักษณ์ เลยคิดว่ามันไม่อร่อย แต่รู้ไหมครับว่ามะเขือเทศนี่เป็นที่นิยมในการรับประทานมากเป็นอันดับหนึ่งเลยนะ

ภาพประกอบรูปแรก

ตอนแรกที่เรากินเพราะมันอยู่ในเมนูส้มตำ เราชอบกินส้มตำมากและที่ชอบอีกอย่างก็คือมะเขือเทศที่อยู่ในส้มตำนั้น คนเฒ่าคนแก่ก็จะบอกว่ากินแล้วหน้าจะใส (ตอนเด็กๆ ที่กินหน้าใสจริงแหละ มองเห็นเส้นเลือดฝาดที่แก้มเลย แต่ตอนนี้โตแล้วเลยไม่ค่อยเห็น) ตอนนั้นที่กินก็ไม่ได้มีความรู้ว่ากินเพราะขาวแต่กินเพราะชอบ รสชาติของมันจะไม่เปรี้ยวมาก เราเองยังชอบกินแบบจิ่มเกลือหรือทำน้ำพริก แต่เป็นมะเขือเทศราชินีนะครับ จนเริ่มหัดกินแบบเป็นน้ำ ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนแรกที่กินเพราะคิดว่าคงจะรสชาติเดียวกันกับแบบที่เป็นลูก แต่ผิดคาดกลิ่นมันแรงไปสำหรับคนที่เริ่มกิน เราเลยซื้อแบบที่เป็นผสมกับน้ำแตงโม รสชาติดีขึ้นไปอีก

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

มาพูดถึงข้อดีของการกินน้ำมะเขือเทศดีกว่า

เหตุผลแรกๆ เลย(เราขอยกมาเป็นข้อๆ เลยนะครับ) คือ

1.ทำให้ผิวสวยขึ้น เนื่องจาก ในมะเขือเทศมี สารไล่ปีน ที่ช่วยในเรื่องการปกป้องคลอลาเจนในชั้นผิว คลอลาเจนเองก็มีส่วนช่วยในการทำให้ผิวดูผ่องใส มีความชุมชื่น เพิ่มความเรียบนุ่ม และความตึงของผิวหนัง

2.ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ให้อนุมูลของเซลล์ในร่างกายมีอนุภาคเป็นกลาง ยั้บยั้งปฎิกิริยาออกซิเดชั่นขออนุมูลอิสระ เมื่อเรารับประทานมากๆ ก็จะช่วยชะลอความแก่ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้

3.ล้างสารพิษในร่างกายก็ได้

4.ช่วยในการย่อยอาหารอีก

4.ลดคอเลสเตอรอล

5.ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน

6.มีวิตามินซีสูง และวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา

7.ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด

8.รักษาโรคลักปิดลักเปิด(เลือดออกตามไรฟัน)

ข้อดีแม้ว่าจะมีเยอะแต่ข้อเสียก็มีเช่นเดียวกัน

Advertisement

Advertisement

มะเขือเทศเป็นกรดอ่อนๆ แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดกรดส่วนเกินในกระเพาะอาหารได้ ส่วนใครที่กินแล้วเกิดอาการแพ้เราว่าห้ามกินเลยดีกว่าเพราะมะเขือเทศมีสาร ฮีสตามีน เป็นสารก่อเกิดภูมิแพ้ จึงไม่ควรทานเยอะนะครับ ให้ทานแบบเป็นน้ำได้ไม่เกินวันล่ะสองกล่องดีกว่า แถมข้อเสียก็ยังมีอีกนะครับ เช่น เสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไต ปวดตามข้อ และผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ไม่ควรทานเลยดีกว่า

ให้กินผลไม้อย่างอื่นรวมด้วยกับการออกกำลังกายนะครับ

ภาพประกอบรูปที่สอง

ให้กินแต่พอดี ดีกว่านะครับ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นักอ่านไม่มากก็น้อยนะครับ


ขอบคุณที่อ่านนะครับ ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีครับ

รูปภาพโดยนักเขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์