อื่นๆ

ยายเฒ่าย่องเขยใหม่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ยายเฒ่าย่องเขยใหม่

ยายเฒ่าย่องเขยใหม่

Photo : khaonaroo.com

เรื่องเล่าชวนขนหัวลุกนี้ เกิดขึ้นที่อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ย้อนหลังไปเมื่อ 20 ปีก่อน ชายหนุ่มได้รู้จักกับหญิงสาว ทั้งสองได้คบหาดูใจกันซึ่งทำงานในบริษัทเดียวกันเป็นบริษัทเกี่ยวกับสิ่งทอย่านอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เวลาผ่านไป 6-7ปี ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกัน เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน กำหนดการต่างๆก็ดำเนินต่อไป

ณ.ตอนเช้าที่บ้านเจ้าสาว เป็นประเพณีทางภาคอีสาน ตอนเช้าจะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับคู่บ่าวสาว คู่บ่าวสาวแต่งกายในชุดไทยสีขาว โดยมีญาติทั้งสองฝ่ายร่วมให้ศีลให้พร โดยกิจกรรมหลักคือการผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือบ่าวสาว กว่าจะผูกครบทุกคน สายสิญจน์ที่ข้อมือก็จะเป็นวงใหญ่มาก จนมองไม่เห็นแขนกันเลยที่เดียว ตกเย็นก็จะเป็นงานสังสรรค์รื่นเริงเพื่อนฝูงร่วมแสดงความยินดี เมื่อถึงประมาณเที่ยงคืนทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

Advertisement

Advertisement

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านเจ้าสาว เป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง อากาศเริ่มเย็นทุกคนหลับสนิทที่ชั้นล่าง เนื่องจากเหนี่อยล้าจากการจัดงาน บ้านเจ้าสาวเป็นบ้านไทยเก่าสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เจ้าสาวบอกว่าได้จัดที่นอนไว้ให้บนชั้นสองแล้ว จึงขอตัวไปนอนก่อน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสองต้องรู้สึกวังเวงไม่น้อย อากาศเย็นกว่าชั้นล่าง มองไปรอบๆบ้านเป็นห้องโถงกว้าง เหมือนถูกทิ้งร้างไม่มีคนอยู่นาน ที่มุมห้องมีโต๊ะเก่าๆอยู่หนึ่งตัว บนโต๊ะมีแจกันเก่าใส่ดอกไม้แห้งกับกระป๋องนมมีธูปปักอยู่ตรงกลาง ผนังบ้านเต็มไปด้วยรูปภาพเก่าแขวนเรียงกัน แต่ด้วยความเหนื่อยจึงได้เข้ามุ้งนอนที่เจ้าสาวจัดเตรียมไว้ให้ ไม่นานก็หลับสนิท

Photo : naibann.comทันใดนั้นได้มีหญิงชรา เปิดมุ้งฝั่งปลายเท้าขึ้นมา ชะโงกหน้าเข้าแล้วยิ้มให้ ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนสุดเสียง ตั้งสติพยายามดิ้นหนีสุดชีวิต เหงื่อเริ่มไหลออกมาแต่รู้สึกหนาวที่หัวจับใจ มันวูบวาบขึ้นลง ร่างกายขยับไม่ได้เหมือนมีคนกดแขนขาไว้ หญิงชราผู้นั้นก็ไม่ยอมหนีไปไหน เปิดมุ้งฝั่งเท้าแล้วก็ขยับมาเปิดมุ้งฝั่งหัว ตอนมาเปิดมุ้งฝั่งหัวนี่สิ มันชัดเจนมากเป็นหญิงชราผิวขาว ผมหยอกขาวทุกเส้น หน้าผากมีรอยเหี่ยวย่น ตอนยิ้มให้กลิ่นไอความร้อนเข้ามาสัมผัสถึงหน้าผาก มันใกล้และชัดเจนมาก เห็นกระทั่งเม็ดไฝบนใบหน้า ความละเอียดสูงมาก ระดับ Full HD ก็ว่าได้ มันช่างเคว้งคว้าง เหนื่อยหอบเหมือนจะขาดใจตาย ทันใดนั้นได้มีมือสัมผัสที่ตัว เขย่าตัว “ ร้องทำไม  ร้องทำไม ตื่น ตื่น” ผมสะดุ้งตื่นเหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัว ผมไม่พูดอะไร รู้แต่ว่าเหมือนตายแล้วฟื้น (อาการประมาณนี้ทางภาคอีสานเรียกว่า “ผีอำ”) จึงบอกเจ้าสาวขอไปนอนชั้นล่างกับคนอื่น พอเช้ามาทุกคนเข้ามาสอบถาม จึงเล่าให้ฟัง แม่ยายจึงบอกว่าให้ขึ้นไปชั้นสองจุดธูปเทียนบูชาบอกกล่าวเจ้าที่ ผมก็ทำตามขณะที่กำลังจุดธูปอยู่ก็ชำเลืองไปที่ผนังบ้าน เห็นภาพเก่าๆใบหนึ่งเป็นหญิงชราผมหงอกขาวทุกเส้น จึงได้ถามแม่ยายว่าเป็นรูปภาพของใคร คำตอบคือเป็นรูปยายทวดซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว ทำให้ขนที่แขนของผมตั้งขึ้นมาอีกครั้ง ยายทวดคงมาทักทายเขยใหม่เสียแล้ว…………!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

Advertisement

Advertisement

Photo : naibann.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์