วัดหนองแวงพระอารามหลวง ตั้งอยู่ถนนกลางเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร (พิกัด https://goo.gl/maps/id9sd6N7Sokj46im6) เป็นวัดที่มีความสำคัญอีกวัดหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ก่อตั้งโดยท้าวเพียเมืองแพน เจ้าเมืองคนแรก เมื่อปี พ.ศ. 2332 เดิมชื่อว่าวัดเหนือ ก่อตั้งพร้อมกับวัดกลาง และวัดธาตุ ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่อยู่ในเมืองขอนแก่นเช่นกัน และต่อมาภายหลังจึงค่อยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2442 โดยพระยานครศรีบริรักษ์ (อู๋) จนปัจจุบันวัดหนองแวงพระอารามหลวงมีเนื้อที่ประมาณ 26 ไร่ มีหมู่บ้านล้อมรอบอยู่ 3 ด้าน และด้านทิศตะวันออกเป็นบึงแก่นนคร โดยเคยได้รับรางวัลเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ปี พ.ศ. 2524 วัดพัฒนาดีเด่น ปี พ.ศ. 2526 และได้รับพระกรุณา โปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2527 ภายในวัดหนองแวงมี “พระมหาธาตุแก่นนคร” หรือพระธาตุ 9 ชั้น อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และเป็นที่รู้จักของชาวขอนแก่นเป็นอย่างดี ซึ่งพระมหาธาตุนี้ได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ก่อสร้างจากอิฐและปูนแบบสมัยใหม่ โดยมีฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยม กว้างด้านละประมาณ 50 เมตร และชั้นต่อไปจะมีขนาดแคบลง ลดหลั่นกันไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่ 9 ด้านข้างมีกำแพงแก้วล้อมรอบ ส่วนของยอดจำลองมาจากแบบของพระธาตุขามแก่น เป็นศิลปะแบบสมัยทวารวดี ผสมศิลปะอินโดจีน โดยรูปลักษณะจะคล้ายกับการตากแหของชาวอีสาน สีพื้นขององค์เจดีย์มีสีขาว แต่ในส่วนของบานประตู หน้าต่าง และราวระเบียงแต่ละชั้นจะมีการแกะสลักลวดลายไทยไว้อย่างสวยงาม มีสีแดงและสีทองตัดกัน เป็นเจดีย์ที่มีความงดงามอร่ามตาเป็นอย่างมาก ด้านในพระมหาธาตุแก่นนครแต่ละชั้น จะมีการจัดแสดงสิ่งต่าง ๆ ที่มีคุณค่าและน่าสนใจเอาไว้ให้ผู้ที่เข้าไปได้สักการะบูชาและเยี่ยมชม ลักษณะคล้ายกับพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งที่สำคัญเอาไว้มากมาย ตั้งแต่ชั้นแรกไปจนถึงชั้นที่ 9 ซึ่งบอกได้เลยว่า นอกจากด้านนอกจะมีความสวยงามแล้ว ด้านในก็ยังสวยงามอีกไม่แพ้กันเลยทีเดียว ชั้นแรกเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนอุรังคธาตุ (ส่วนอก) และมีพระธาตุของพระสาวกประมาณ 100 องค์ ประดิษฐานไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปกราบไว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนชั้นต่อไปจะมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ ที่หาได้ยากในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นของที่อยู่ในวิถีชีวิตของชาวอีสาน รวมทั้งสิ่งของมีค่าที่มีการค้นพบ มีหอพระปริยัติธรรม หอพระธรรม ซึ่งเก็บรวมรวมคัมภีร์ พระธรรม คำสอนต่าง ๆ ทางพุทธศาสนาเอาไว้ และมีหอพระอุปัชฌาอาจารย์ ที่เก็บเครื่องบริขารของเจ้าอาวาสรูปก่อน ๆ ที่มีความสำคัญ ตลอดจนหอพระอรหันต์สาวก หรือพระพุทธรูปต่าง ๆ หลายองค์ที่รวบรวมมาไว้ ที่สำคัญทุก ๆ ชั้น จะมีภาพเขียนสีและภาพแกะสลักที่เกี่ยวกับเรื่องราวทางพระพุทธศานา และนิทานท้องถิ่นเอาไว้ที่บานประตู หน้าต่าง และตามผนังของเจดีย์ไล่เรียงกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีหลากหลายเรื่องแตกต่างกัน สามารถเดินชมได้ไม่มีเบื่อเลย นอกจากนี้ก็ยังมีการตกแต่งตามจุดต่าง ๆ ด้วยลายไทยอีกด้วย ทุกภาพล้วนมีความปราณีตในการสร้างสรรค์ เพื่อให้พระมหาธาตุแก่นนครนี้มีความวิจิตรตระการตามากที่สุด และแต่ละชั้นของพระมหาธาตุ ยังมีระเบียงอยู่รอบ ๆ ทุกชั้น เพื่อให้คนที่เดินขึ้นไปสามารถออกมาสัมผัสบรรยากาศด้านนอก และชมทัศนียภาพของเมืองขอนแก่นได้แบบ 360 องศา ยิ่งขึ้นไปสูงมากเท่าไหร่ วิวก็ยิ่งสวยมากขึ้นเท่านั้น ในระหว่างเดินขึ้นไป ก็แวะชมสิ่งที่จัดแสดงอยู่ด้านในไปด้วย ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงชั้น 9 แล้ว คุ้มค่าแน่นอน คนที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่น มักจะมาทำบุญที่วัดแห่งนี้กันแทบทุกคนและทุกครั้งที่มีโอกาส รวมไปถึงคนที่ได้เดินทางมายังจังหวัดขอนแก่น ก็มักจะมาทำบุญที่นี่ด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งยังตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนขอนแก่นอีกแห่งหนึ่ง (ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน)