วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี คือความสุขแบบที่หาในเมืองหลวงไม่ได้นอกจากบ้านเรา ความเป็นชุมชน ความเป็นท้องถิ่นจะมีกลิ่นอายของความสงบ ร่มรื่น ไม่วุ่นวาย พลอยทำให้ทุกคนมีความสุขเมื่อได้กลับมาสัมผัสบรรยากาศนี้ คนทุกคนมีความโหยหาธรรมชาติเพื่อที่จะมาสนองตอบความต้องการและต้องการธรรมชาติมาเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต บ่วงซิ่งหรือที่ดักหนู บ่วงหมายถึงวงกลมที่เกิดจากเชือกปมเชือกสามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่คนในชุมชนได้ถ่ายทอดสืบต่อกันมา ซึ่งเป็นกลไกคล้ายกับเครื่องมือในทางเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งเป็นความคิดที่ชาญฉลาดและนอกจากนี้ยังต้องใช้ความคุ้นชินในพื้นที่ในการสังเกตที่อยู่ของหนูนา บ่วงซิ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาอาหารของคนในชุมชน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พบเจอได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากผู้เฒ่าผู้แก่ก็ล้มหายตายจากกันไป โดยไม่ได้บันทึกวิธีการทำไว้ บ่วงซิ่งดักหนูจึงนับได้ว่าเป็นเครื่องมือในการดักหนูนาที่มีความชาญฉลาดทั้งด้านการออกแบบกลไกและวิธีการใช้งาน ซึ่งไม่ต้องอาศัยเหยื่อล่อ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนต่อตัวไม่ถึงบาทเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์ก็มีอยู่แล้วในชุมชนและเป็นวัสดุรีไซเคิลด้วยวิธีทำ1. เหลาไม้ทรงกระบอกให้มีปลายแหลมหนึ่งข้าง ขนาดไม้ยาว 45 เซนติเมตร และบากไม้ จากฝั่งที่มีปลายแหลมสูงขึ้นมา 15 เซนติเมตร (บากไม้คือทำให้ไม้มีร่องลึกเพื่อใช้เป็นตัวดันไม้สามเหลี่ยมตัวเล็กไว้) เหลาไม้แหลมเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 5 เซนติเมตร2. มัดยางในรถเข้ากับปลายอีกข้างที่ไม่ได้ทำให้แหลม3. นำเชือกมามัดดังภาพ เชือกสีเขียวที่เป็นบ่วงต้องทำให้เลื่อนเข้าเลื่อนออกได้และนำทุกอย่างที่ทำข้างต้นมาประกอบดังภาพวิธีใช้1. นำไปปักไว้ทางที่หนูนาออกหาอาหาร โดยเอาด้านปลายแหลมปักลงดิน2. ระยะเวลาที่ออกไปใส่บ่วงซิ่งก็คือช่วงพลบค่ำ เพราะจะมายาม (มาเก็บหนูที่ติดบ่วงซิ่ง) ในตอนเช้า บ่วงซิ่งดักหนูเป็นภูมิปัญญาที่อาศัยความใกล้ชิดกับธรรมชาติของผู้คน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนและเพิ่มความสะดวกสบายในการหาอาหารจึงอาจเป็นที่มาของการสร้างสรรค์เครื่องมือทำมาหากิน การจะรักษาให้คงอยู่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังเพื่อการเรียนรู้และการเผยแพร่สิ่งนี้ การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียงเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงปฏิบัติ ภาพโดยผู้เขียน