หากพูดถึงในอดีตเมื่อล้านปีก่อน หลายคนคงนึกถึงสัตว์ตัวใหญ่ที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ แต่ในปัจจุบันนั้นก็ได้สูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว ยังคงหลงเหลือไว้เพียงซากฟอสซิลต่าง ๆ ที่ยังคงมีไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและทำศึกษาอยู่ต่อไป และสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์เมื่อล้านปีก่อนนั้นคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากไดโนเสาร์ เพราะเมื่อเอ่ยถึงสัตว์ชนิดนี้ขึ้นมาทุกคนต่างรู้จักกันดี และมีแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเกี่ยวกับไดโนเสาร์และสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์อยู่อีกมากมาย วันนี้ผู้เขียนจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเชิงประวัติศาสตร์และให้ความรู้ กันที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ดินแดนไดโนเสาร์อีกหนึ่งที่ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจและสวยงามแค่ไหนนั้น ตามไปชมพร้อมกันเลยค่ะ นี่คือ ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว หรือพิพิธภัณฑ์สิรินธร เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการศึกษาพันธุ์สัตว์ดึกดำบรรพ์ต่าง ๆ รวมไปถึงไดโนเสาร์ ที่มีแห่งเดียวในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตำแหน่งที่ตั้ง📌 200 หมู่ 11 ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนถึงโรงเรียนสหัสขันธ์ศึกษา เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไป 1 กิโลเมตร ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์สิรินธร เบอร์โทรศัพท์📞043-871-014 เวลาเปิด-ปิด⏰ 09.00-17.00 น. เปิดวันอังคาร ถึงวันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) วันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดตามปกติ อัตราค่าเข้าชม💰 เด็กเล็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท นักเรียน-นักศึกษา หากแสดงบัตรนักเรียน-นักศึกษาที่ทางเข้า เข้าชมฟรี เมื่อเข้ามาถึงทางเข้าของพิพิธภัณฑ์แล้ว จะมีบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์และรถยนต์และรถบัสอยู่บริเวณด้านขวาของพิพิธภัณฑ์ โดยไม่มีการเก็บอัตราค่าจอดรถ (จอดฟรี) และพื้นที่ในการจอดรถค่อนข้างกว้าง สามารถรองรับรถยนต์ได้มาก แม้จะเป็นช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็ยังคงรองรับได้อยู่ค่ะ บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ก็จะมีสวนไดโนเสาร์อยู่บริเวณข้างหน้าซึ่งถือเป็นจุดเด่นของที่นี่ ที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายภาพเก็บไว้อย่างแน่นอน เมื่อเขามาถึงบริเวณข้างในจะมีอยู่หลายส่วน เริ่มกันที่ส่วนแรก เป็นส่วนที่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับหินชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในชั้นเปลือกโลกของเราว่ามีหินชนิดไหนบ้าง และหินแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร จะมีทั้งหินที่เราสามาระเห็นกันทั่วไป รวมไปถึงหินชั้นลึกสุดที่เราไม่เคยเห็นและไม่รู้จักอีกมากมาย รวมทั้งมีการจำลองชั้นหินต่าง ๆ ว่าหินแต่ละชนิดอยู่ชั้นไหนบ้าง บอกเลยว่านอกจากจะได้ความรู้เรายังสามารถมองเห็นภาพโดยรวมของชั้นหินในโลกเราอีกด้วย เมื่อเดินต่อมาอีกไม่ไกลนัก เราจะเห็นกำโครงกระดูกจำลองขนาดใหญ่ของไดโนเสาร์ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร และมีป้ายชื่อพันธุ์ติดไว้ข้างหน้าสัตว์ตัวนั้นว่ามีชื่อว่าอะไรบ้าง บอกเลยว่าไดโนเสาร์แต่ละตัวนั้นนอกจากจะมีลักษณะที่ต่างกันแล้ว ก็ยังคงมีนิสัยและการใช้ชีวิตแตกต่างกันอีกด้วย ส่วนนี่คือโซนของสัตว์น้ำในยุคดึกดำบรรพ์ว่ามีสัตว์อะไรบ้าง แต่ละชนิดแต่เราได้เห็นนั้นในยุคสมัยนี้แทบจะหาไม่เห็นอีกเลย เนื่องจากสัตว์ที่นำมาจักแสดงให้เราเรียนรู้นี้ ร้อยละ 90 เป็นสัตว์ที่ได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว แต่ก็ยังคงหลงเหลือซากดึกดำบรรพ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้กันต่อไป เมื่อเราเห็นชั้นใต้น้ำกันไปแล้วว่ามีสัตว์อะไรกันบ้าง ก็ต้องมีชั้นบนดินในยุคดึกดำบรรพ์หรือยุคของไดโนเสาร์ เป็นเพียงการสัญนิษฐานและจำลองออกมาเท่านั้นว่าในอดีตนั้นไดโนเสาร์อยู่กันอย่างไร และเราจะเห็นว่าไดโนเสาร์นั้นมีหลากหลายชนิด มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ปะปนกันไป และมีอยู่อย่างมากมายในแผ่นดิน ในส่วนจุดนี้คือส่วนที่จำลองไข่ของไดโนเสาร์ว่าหากไดโนเสาร์ยังคงอยู่ในปัจจุบัน จะมีไข่ลักษณะแบบใดและมีขนาดประมาณไหนนั่นเอง สำหรับไข่ไดโนเสาร์นี้มีไว้เพียงให้ชื่นชมและถ่ายภาพเท่านั้นนะคะ เราไม่สามารถไปจับไข่ได้นะคะ เพราะอาจทำให้ไข่ไดโนเสาร์เกิดความเสียหายได้ ไดโนเสาร์ที่จัดแสดงให้เราได้ศึกษานั้นมีหลากหลายพันธุ์ และมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ค้นพบ ซึ่งจะมีชื่อหลักอยู่ตามที่ได้จัดแสดงนี้คือ ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กิ พบใน จังหวัดชัยภูมิ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน พบใน จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร อีสานโนซิรัส อรรถวิภัชน์ชิ พบใน จังหวัดชัยภูมิ ฮิปชิโลโฟดอน พบใน จังหวัดมุกดาหาร สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส พบใน จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี กินรีมิมัส พบใน จังหวัดขอนแก่น สเตโกซอร์ พบใน จังหวัดกาฬสินธุ์ ในส่วนไดโนเสาร์ที่ทุกคนต้องรู้จักกันทั่วโลก นั่นคือ ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อของ ทีเร็กซ์ เป็นไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่และฉลาดที่สุด ถ้าเปรียบกับสมัยนี้ก็คงเป็นเจ้าป่านั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวนี้ไม่ได้พบในประเทศไทย แต่พบที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา นี่คือภาพโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่แท้จริง ที่จัดอยู่ในห้องวิจัยของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นพิมพ์ปูนเพราะขณะที่ค้นพบนั้นค่อนข้างมีขนาดใหญ่และหากจะขุดขึ้นมาเลยก็กลัวเกิดความเสียหายได้ จึงทำให้ทางผู้ค้นพบนั้นนำมาเป็นกระดูกอยู่ในคราบของปูนนั่นเอง นี่คือการจำลองภาพการค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ที่บ้านดินจี่ จังหวัดกาฬสินธุ์ และเมื่อมีการค้นพบเกิดขึ้นจึงได้เกิดการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สิรินธรขึ้นในภายหลังจากการค้นพบ ในส่วนของจุดนี้ คือการจำลองวัฏจักรของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีขนาดกระโหลกศีรษะของมนุษย์แสดงให้เห็นด้วยว่าในมนุษย์ในแต่ละช่วงนั้นมีการพัฒนาของสมองมากแค่ไหน ซึ่งมนุษย์ของเราก็มีการพัฒนามาทั้งหมด 5 ยุคสมัย ซึ่งยุคที่ 5 ที่เป็นยุคปัจจุบันของมนุษย์นั่น คือยุคโฮโม เซเปียนส์ สุดท้ายนี้ในส่วนของร้านค้าสวัสดิการของพิพิธภัณฑ์สิรินธรก็ยังมีให้บริการหลากหลายอย่าง มีทั้งของฝากและของสะสมเกี่ยวกับไดโนเสาร์อีกมากมาย มีตั้งแต่ราคาหลักสิบบาทไปจนถึงหลักร้อยให้เราเลือกซื้อไปฝากเพื่อน ฝากญาติของเราได้อีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับแหล่งท่องเที่ยว ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ไม่ใช่แค่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังคงเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์อีกด้วย สำหรับใครที่อยากรู้ว่าในอดีตของโลกเรานั้นมีสัตว์ชนิดอะไรอยู่ในโลกบ้าง และมีทรัพยากรอะไรบ้างที่เรามี ก็สามารถมาแวะชมและศึกษาเพิ่มเติมกันได้นะคะ รับรองได้ทั้งความรู้และความประทับใจกลับบ้านไปแน่นอนค่ะ ภาพปก ภาพถ่ายโดยนักเขียน ภาพที่1-21 ภาพถ่ายโดยนักเขียน