"กาฬสินธุ์" เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของไทยที่มีความโดดเด่นด้านวิถีชีวิตของกลุ่มชนผู้ไทย ซึ่งกระจายอาศัยอยู่ในชุมชนต่าง ๆ ของหลายอำเภอ ทั้งในอำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอเขาวง อำเภอสามชัย อำเภอสมเด็จ อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอคำม่วง เอกลักษณ์ความโดดเด่นของชนผู้ไทยกาฬสินธุ์ นอกจากการยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชีวิตในแบบฉบับชนผู้ไทยไว้ได้อย่างมั่นคงแล้ว ยังมีเรื่องราวของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ผสมผสานกับการต่อยอดความรู้และทักษะ จนกลายเป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่า และพัฒนาเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชุมชนที่ "บ้านโพน" ชุมชนผู้ไทยแห่งหนึ่งในตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยของดีประจำถิ่นซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณภาพในระดับประเทศ และเคยเผยแพร่ออกสู่ต่างประเทศในหลายโอกาส ประกอบกับอัธยาศัยไมตรีของผู้คน ภาษาพูดซึ่งใช้ภาษาผู้ไทยเป็นภาษาประจำถิ่น และการแต่งกายในแบบฉบับชาวผู้ไทยบ้านโพน ล้วนเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ชูให้ชุมชนแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งชุมชนเปี่ยมเสน่ห์ที่น่ามาเยือนบ้านโพน เป็นแหล่งทอ "ผ้าไหมแพรวา" ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และมีความงดงามจนได้ชื่อว่าเป็น "ราชินีแห่งไหม" หลายครัวเรือนในบ้านโพน มีการทอผ้าไหมแพรวาเป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากอาชีพหลักในด้านเกษตรกรรม ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การเริ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จนสำเร็จเป็นผืนผ้าไหมแพรวาอันงดงามทรงคุณค่า สามารถหาชมได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ผ้าไหมแพรวาบ้านโพนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทรงรับไว้ในโครงการศิลปาชีพ และทรงส่งเสริมพัฒนาการทอผ้าไหมแพรวาจากเดิมที่ทอเฉพาะเป็นผ้าสไบความยาว 1 วา หรือ 1 ช่วงแขน ให้มีขนาดและลวดลายที่หลากหลายตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกลายเป็นที่รู้จัก เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้อย่างมั่นคงยั่งยืนดังเช่นปัจจุบันชุมชนบ้านโพนยังมีอีกหนึ่งงานประเพณีที่เป็นกิจกรรมโดดเด่นของชุมชน นั่นคือ "ประเพณีบุญบั้งไฟแพรวากาฬสินธุ์" ซึ่งจัดขึ้นในวันเสาร์ - อาทิตย์ สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมในทุก ๆ ปี นับเป็นงานที่เป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอความงดงามของผ้าไหมแพรวาผ่านขบวนแห่บั้งไฟที่มีการประกวดความสวยงามกันอย่างอลังการ ทั้งขบวนรถแห่ผ้าไหมแพรวาวิจิตร ขบวนฟ้อนรำที่ผู้แสดงแต่งกายด้วยชุดผู้ไทยบ้านโพน ห่มด้วยผ้าสไบแพรวาอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในงานนี้ ผู้ชมจะได้เห็นความงดงามและความหลากหลายของผ้าไหมแพรวา ตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท และสามารถร่วมงานประเพณีกับชุมชนได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินนอกจากนี้ ที่บ้านโพนยังเป็นแหล่งปลูก "พุทรานมสด" ซึ่งเป็นพุทรากางมุ้งปลอดสารพิษแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศ มีพื้นที่ปลูกรวมประมาณสองพันไร่ ปลูกโดยกรรมวิธีพิเศษ คือมีการผสมน้ำกับนมหมักรดต้นพุทรา ทำให้พุทรามีความหอม และหวานกรอบ มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณหมื่นตันในช่วงปลายปีของทุก ๆ ปี กระจายออกขายสู่ทั้งตัวจังหวัดกาฬสินธุ์และต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย ทั้งยังสามารถเที่ยวชมสวนในช่วงผลผลิตออกผลได้อีกด้วยเสน่ห์ของบ้านโพน ยังมีให้สัมผัสผ่านแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนอีกหลายแห่ง ทั้ง "พระบรมธาตุเจดีย์ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์" ที่ "วัดป่ารังสีปาลิวัน" เจดีย์อันงดงามตามคติพระพุทธศาสนา ตกแต่งภายในด้วยลวดลายของผ้าไหมแพรวา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของเกจิอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว "ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ซึ่งเป็นแหล่งจัดแสดงภูมิปัญญา วิถีชีวิต และความภาคภูมิใจของชาวบ้านโพน เป็นแหล่งเรียนรู้อีกแห่งหนึ่งที่น่ามาเยือน หรือหากใครอยากสัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนอย่างใกล้ชิด สามารถเดินชมขั้นตอนการทอผ้าไหมตามใต้ถุนบ้านของชาวบ้านในชุมชน และเลือกซื้อผ้าไหมแพรวากลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วยด้วยความหลากหลายด้านภูมิปัญญาและศักยภาพของชุมชนบ้านโพน รวมทั้งอัธยาศัยไมตรีที่ดีงามของชาวบ้าน จึงทำให้ชุมชนบ้านโพน เป็นชุมชนผู้ไทยเปี่ยมเสน่ห์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งทริปต่อไปเจอกันที่บ้านโพนนะ :)