อื่นๆ

The target เป้าหมายมีไว้วางแผน(ก่อนลงมือทำ)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
The target เป้าหมายมีไว้วางแผน(ก่อนลงมือทำ)

The target เป้าหมายมีไว้วางแผน(ก่อนลงมือทำ)

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักอ่านพบกันอีกเเล้วใบบทความของผม วันนี้ผมจะมารีวิวอะไรที่แปลกแหวกเเนวจากที่เคยทำมาสักหน่อยครับ จากที่เคยเป็นรูปธรรมอย่างเช่น สถานที่ท่องเที่ยวหรือเกมหรือเเม้เเต่สัตว์เลี้ยง เเต่วันนี้ผมจะมานำเสนออะไรที่ออกจะเป็นนามธรรมสักหน่อยครับ เพราะผมจะมาเขียนเกี่ยวกับ "เป้าหมาย" ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ตรงจากตัวผมเองเเละผมก็คิดว่าเพื่อนๆนักอ่านหลายคนก็อาจจะต้องเคยเจอปัญหาเเบบผมอย่างเเน่นอนไม่มากก็น้อยครับ

สิ่งที่ผมได้เจอนั้นก็คือ การตั้งเป้าหมายเเล้วเรียบร้อยอย่างดีเเต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำตามเป้าหมายจากตรงไหน ?

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

ไม่ใช่ว่ามันไม่ชัดเจนนะครับผมตั้งไว้อย่างชัดเจนเพียงเเต่ไม่รู้จะเริ่มมันจากจุดไหนเท่านั้นเองเเละก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดการลงมือทำตามเป้าหมายนั้น ๆ ล่าช้าออกไปยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่เจอเลยก็คือสมมติผมต้องการที่จะทำธุรกิจทางออนไลน์โดยต้องการจะนำสินค้าบางอย่างมาขายทำกำไรเป้าหมายของผมก็คือการเอาสินค้าไปนำเสนอทางอินเทอร์เน็ตในช่องทางต่าง ๆ

Advertisement

Advertisement

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

สิ่งเเรกที่ผมทำเลยนั้นก็เเน่นอนอยู่เเล้วครับหากต้องการจะลงมือทำธุรกิจเราก็ต้องศึกษาตามเว็ปไซต์หรือหนังสือต่าง ๆ เพื่อหาเเนวทางในการทำธรุกิจของเราอยู่เเล้ว ผมก็พยายามหาหนังสือมาอ่าน ดูคลิปวีดีโอในยูทูปที่สอนเกี่ยวกับการทำการตลาดบ้าง สอนการทำโฆษณาบ้าง ความรู้ทุกอย่างที่ต้องใช้มีอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตทั้งหมดเลยครับ เเต่ ! ! ! ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความรู้ เมื่อเรียนรู้วิธีการต่าง ๆ มากเกินไปสิ่งที่ผมได้เจอก็คือเหมือนผมกำลังหลงทาง ! ! ! ใช่ครับผมกำลังหลงทางในเป้าหมายของผม ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มทำธุรกิจจากตรงไหน ทำบัญชีก่อน ? เอ๊ะ หรือทำการตลาดก่อน ? เเต่หนังสือบอกต้องสร้างคอนเทนต์สิ ? สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ได้เเละก็ไม่ได้เริ่มลงมือทำอะไรสักอย่างเเละเสียเวลาไปอยู่พักใหญ่เลย จนวันหนึ่งสถานะการณ์ก็บีบคั้นให้ผมต้องลงมือตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเมื่อเกิดโรคระบาดโควิด - 19 ขึ้นในบ้านเราทำให้หน้าร้านต้องโดนสั่งปิดไปชั่วคราว

Advertisement

Advertisement

เมื่อสถานะการณ์มันบังคับทำให้สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการทำร้านค้าออนไลน์ของผมสักทีโดยผมเริ่มจากการนั่งถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่ผมต้องการหรือเป้าหมายของผมนั้นคืออะไรกันเเน่ ?

ใช่เเล้วผมต้องการเอาสินค้าของผมไปนำเสนอบนโลกออนไลน์เพื่อหารายได้เพิ่มเติม คำถามต่อมานั้นก็คือเเล้วผมต้องทำอย่างไรต่อ ? เกิดเป็นคำถามที่นำไปสู่คำตอบว่า ทักษะอะไรที่ผมต้องมีในการใช้เปิดร้านของผม ผมจะเอาสินค้าไปนำเสนอ ผมต้องมีรูปสินค้า ทักษะเเรกเลยคือการถ่ายรูปสินค้ายังไงจึงน่าสนใจดึงดูดลูกค้า เเละขั้นต่อไปก็เป็นการสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตต่อไป สรุปว่าไป ๆ มา ๆ ทักษะเเรกที่ผมต้องใช้จริงในการเปิดร้านกลับเป็นสิ่งที่ผมเองคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะมัวเเต่ไปศึกษาแบบ "หว่านแห" เจออะไรก็ไปอ่านหมดทั้งที่จริงๆนั้นความรู้เหล่านั้นเเม้จะมีประโยชน์มากก็จริงเเต่มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจำเป็นต้องใช้จริงๆซะอย่างงั้น ดูจากความรู้ที่ผมได้ไปศึกษามาก่อนหน้านั้นสิครับ ทั้งการทำบัญชีเอย การทำการตลาดเอย หรือเเม้เเต่การสร้างคอนเทนต์ ทั้งหมดล้าวนเป็นสิ่งที่ดูสำคัญเเละต้องรู้หากจะทำร้านค้าออนไลน์จริงไหมครับ เเต่ไม่มีอันไหนเลยที่จะทำให้ผมมีร้านค้าออนไลน์ ! ! ! อย่างพึ่งเข้าใจผิดว่าทักษะทั้งหมดที่ผมพูดมาไม่มีความสำคัญนะครับ ฮ่า ๆ ทักษะทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ ! ! ! ก่อนเปิดร้านหรือทำธรุกิจครับ สิ่งสำคัญก็คือการวางแผนเเละพิจารณาแผนการอย่างมีสติสม่ำเสมอ เพื่อน ๆ คิดดูนะครับว่าเราจะทำบัญชียังไงถ้ายังไม่มีร้าน ? เราจะทำการตลาดยังไงถ้าเรายังไม่มีร้าน ? เราจะสร้างคอนเทนต์ยังไงถ้ายังไม่มีร้าน ? ฉะนั้นหลังจากการตั้งเป้าหมายเเล้วการวางแผนลงมือทำให้ละเอียดเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างขาดเสียมิได้ครับ

Advertisement

Advertisement

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

จากนั้นทักษะที่จำเป็นต้องใช้ก่อนเพื่อจะผุดขึ้นมาให้เราฝึกเป็นอันดับเเรกบางทักษะอาจเป็นทักษะที่คาดไม่ถึงก็ได้อย่างเช่นทักษะการถ่ายรูปแบบของผมไงครับ ฮ่า ๆ

เคล็ดลับก็คือ การถามตัวเองอยู่เสมอครับ ว่าถ้าฉันต้องการ . . . เเล้วตอนนี้เดี๋ยวนี้ฉันต้องทำอะไร ? เเล้วลงมือทำตอนนั้นเลยแค่นั้นเอง เเล้วรายการทักษะหรือสิ่งที่เราขาดจะผุดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติเลยครับไม่เชื่อลองดู

ถ้าผมต้องการเปิดร้านออนไลน์เดี๋ยวนี้ ผมต้องทำอะไร ? อ๋อผมต้องสมัครสมาชิกเเพลตฟอร์มต่าง ๆ เเล้วขั้นตอนต่อมาเลยก็คือต้องลงรูปเพื่อนำเสนอสินค้า อ่า ! ! ! ขาดรูปสินค้าเเล้วเมื่อลงมือทำตามขั้นตอนไปเรื่อย ๆ เราก็จะพบกับสิ่งที่ต้องทำมากขึ้น ๆ ถึงตอนนั้นค่อยไปอ่านหนังสือหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเทอร์เน็ตก็ได้การทำแบบนี้จะทำให้งานเราคืบหน้าดีกว่าการไปเรียนรู้แบบหว่านแหเรียนไปก่อนโดยไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่จริงไหมครับ

ไม่เพียงเเต่กับเรื่องธุรกิจนะครับเเต่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเป้าหมายเลยที่เพื่อน ๆ ต้องการจะกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำสามารถไปเคล็ดลับการตั้งคำถามที่ผมได้เสนอไปเมื่อสักครู่นี้ไปลองใช้ดูได้เลยครับ

เเละบางทีเมื่อเราได้ลองลงมือทำตามเป้าหมายของเราไปเเล้ว เราอาจจะพบกับสิ่งสำคัญหลายอย่างระหว่างการลงมือทำ ความสนุกในการลองผิดลองถูก ความตื่นเต้นในการวางแผนเเละจินตนาการถึงผลลัพธ์ของความสำเร็จประสบการณ์เหล่านี้ผมว่าเป็นอะไรที่มีคุณค่าเเละน่าจดจำทั้งสิ้น เเม้ว่าอาจจะไม่สำเร็จบ้าง ผิดพลาดไปบ้าง ถ้าหากเรายังไม่ยอมเเพ้เเละมุ่งมั่นลงมือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ค่อย ๆ แก้ไปเรื่อย ๆ จนมันได้ผลหรือสำเร็จ ประสบการณ์ความล้มเหลวนั้นจะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้ชีวิตของเราดูมีสีสันเเละน่าสนใจขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียวผมเคยได้ยินคำหนึ่งที่บอกว่า ประสบการณ์ระหว่างการเดินทางนั้นสำคัญกว่าจุดหมาย หากจะเปรียบก็คงเป็นเหมือนการเดินทางไปทัศนะศึกษากับเพื่อนสมัยเด็ก ๆ ที่ความสนุกจริง ๆ คือการได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ บนรถระหว่างเดินทางไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือเล่นเกมร่วมกันบนรถมากกว่าจุดหมายของการท่องเที่ยว ผมว่าคำนี้เป็นจริงเเม้เเต่ในตอนที่ผมโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เเละไม่ได้เดินทางทัศนะศึกษา เเต่ความสนุกระหว่างการลงมือทำอะไรบางอย่าง ความตื่นเต้นว่าที่ทำอยู่มันจะได้ผลหรือไม่ความรู้สึกเหล่านี้ก็ยังอยู่ระหว่างการเดินทางไปยังเป้าหมายเหมือนตอนสมัยเด็กของผมเหมือนเดิมหรือเเท้จริงเเล้วปัญหานั้นคือสีสันของชีวิต ชีวิตที่ไม่มีปัญหาคือชีวิตที่ขาดสีสัน ? เเละเรื่องเล่ามันจะสนุกได้ยังไงหากการเดินทางของผู้กล้าในเทพนิยายไม่มีเเม้เเต่มังกรจริงไหมครับ ^^

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์