ทุ่งกะมัง หรือทีมีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว" อยู่ใกล้ ๆ กับเขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เรียกว่าถ้าจะไปเขื่อนจุฬาภรณ์ ต้องผ่านทุ่งกะมังไปก่อน ซึ่งผู้เขียนเองได้ขับรถผ่านเพราะไปเที่ยวเขื่อนจุฬาภรณ์หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสเข้าไปที่ทุ่งกะมังเลยสักครั้ง และแล้วฤกษ์งามยามดีก็มาถึง เมื่อถึงวันหยุดยาวที่มีโอกาสได้พร้อมหน้าครอบครัว หลังจากเสร็จภาระกิจอาหารมื้อกลางวันแล้วเราก็คุยกันว่าอยากพาคนแก่ไปเที่ยวใกล้ ๆ ตอนแรกตั้งใจจะไปเขื่อนจุฬาภรณ์ โดยใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 12 ขอนแก่น-หล่มสัก และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกคอนสารไปยังถนนหมายเลข 2055 ใช้ถนนคอนสารเขื่อนจุฬาภรณ์ ขับไปเรื่อย ๆ แล้วก็จอดจุดชมวิวชี้ชวนกันให้ดูภูหอซึ่งอยู่ฝั่งน้ำหนาว แล้วอยู่ ๆ คนในคณะท่องเที่ยวก็พูดขึ้นว่า “อยากแวะทุ่งกะมัง” ทุกคนเริ่มเลิกลั่กหละ อยู่ไสหว่าทุ่งกะมัง โชคดีที่เรายังขับรถไม่ได้ผ่านทางเข้าทุ่งกะมัง เมื่อเลยจุดชมวิวไปแล้ว ทุ่งกะมังจะอยู่ซ้ายมือของเรา ซึ่งเราต้องชำระค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาท และต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่โดยเจ้าหน้าที่จะเอาบัตรผู้เข้าชมขนาดเอสี่ให้เราใส่หน้ารถ เราขับรถเลียบถนนไปเรื่อย ๆ ด้วยช่วงฤดูที่เข้าไปนั้นเป็นช่วงฤดูฝน และวันที่ไปฝนก็ตกริน ๆ ตลอดทาง ทำให้บรรยากาศสงบ เย็นสบาย มองฝนรินและหมอกไหลผ่านยอดไม้ในป่าที่สมกับความเป็นเขตอนุรักษ์พันธ์ุสัตว์ป่า และเมื่อเข้าไปถึงสำนักงานด้านใน มีกวางสองสามตัวเดินไปมาแบบไม่กลัวผู้คน เราแวะขอเข้าห้องน้ำของสำนักงานแล้วก็ออกมาดูแผนผังซึ่งจัดทำเป็นโมเดลโชว์อยู่ ก็ทราบเพิ่มเติมว่าพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่ราว 9 แสนกว่าไร่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าต่าง ๆ เช่น ช้าง เสือ หมี กระทิง เลียงผา และนกต่าง ๆ ดูจากสภาพแวดล้อมในนี้แล้วก็น่าเชื่อว่าคงจะมีสัตว์ป่าที่ว่าจริง ๆ ส่วนเราที่เข้าไปในวันนั้นเจอแต่ตัวเงินตัวทองกับกวางฝูงใหญ่ ออกจากสำนักงานแล้ว เราก็ขับรถตามถนนไปเรื่อย ๆ ตอนเห็นกวางสองสามตัวที่สำนักงานว่าตื่นเต้นแล้ว แต่พอขับรถผ่านอ่างเก็บน้ำ และน่าจะเป็นส่วนบ้านพักเจ้าหน้าที่หรือเรือนรับรองอย่างไรไม่ทราบ ก็เห็นกวางอีกฝูงใหญ่ เด็กและคนแก่พากันตื่นเต้นเพราะกวางทั้งหลายไม่ได้กลัวคนอย่างที่คิด ต่างและเล็มกินหญ้ากันสบายฉ่ำ ที่นี่บรรยากาศน่าพักมาก ๆ สำหรับคนรักและอยากสัมผัสชีวิตธรรมชาติ เราเห็นมีคนกลุ่มนึงน่าจะมาเข้าค่ายดูนกเพราะเห็นเขาใช้กล้องส่องทางไกลดูตามยอดไม้ ส่วนเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวชั่วคราวที่แค่แวะพาลูกหลานเข้ามาสัมผัสธรรมชาติเท่านั้น หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์กันเต็มปอดแล้ว เราก็เดินทางกลับ สัญญากับตัวเองไว้ว่าเมื่อไรที่มีโอกาสจะต้องหาทางกลับมาที่นี่ และนอนดูดาวสักคืนให้ได้ และสำหรับใครอยากจะมาพักที่นี่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า 7 วัน โดยผู้ที่ประสงค์จะเข้าพักต้องโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดว่าสะดวกหรือไม่ ที่หมายเลข 097-002-7290 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจของสำนักงาน เรื่องและภาพ โดยผู้เขียน