โรงเรียนมีชัยพัฒนา ภาพถ่าย โดย ผู้เขียนข้อมูลทั่วไป โรงเรียนมีชัยพัฒนาเป็นโรงเรียนที่มีโดมไม้ไผ่ที่ใหญ่ที่สุด อาคารเรียน หอพักนักเรียน สร้างด้วยไม้ไผ่ มีการใช้สี (brain-based learning) ในการจัดสิ่งแวดล้อม มีนักเรียนที่มาศึกษาที่โรงเรียนมีชัยพัฒนามาจาก 18 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมทั้งชาวต่างชาติ อาทิ ลาว เวียดนาม กัมพูชา และมีครูชาวต่างชาติ ซึ่งมาสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน นอกเหนือจากการสอนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน และมีการเพิ่มภาษาลาว ภาษาเขมร และภาษาเวียดนาม โรงเรียนจะมีคณะมนตรีของโรงเรียน ซึ่งเปรียบได้กับสภานักเรียน และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการโรงเรียน แบ่งออกเป็น 10 คณะ เช่น คณะจัดซื้อ คณะตรวจสอบตรวจรับของโรงเรียนมีชัยพัฒนาเป็นโรงเรียนประจำ 100 % การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ด้วยการสัมภาษณ์จากรุ่นพี่ การรับครูเข้ามาสอนในโรงเรียนมีชัยพัฒนา ครูไม่จำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพ โดยนักเรียนจะเป็นคนสัมภาษณ์ครู ครูต้องสาธิตวิธีการสอนให้นักเรียนดูประกอบการตัดสินใจของนักเรียน ใน 1 สัปดาห์จะมีชั่วโมงแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น อภิปรายร่วมกันระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน การรับนักเรียนผู้ปกครองจะต้องจ่ายค่าเทอมด้วยรูปแบบการทำความดีและการปลูกต้นไม้ โดยค่าเทอมจะไม่ได้จ่ายเป็นตัวเงิน ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียนมาจากหลายส่วน เช่น งบจากภายนอก นอกจากนี้นักเรียนและผู้ปกครองยังมีส่วนร่วมในการเสนอกิจกรรมเพื่อพัฒนาโรงเรียน การใช้สี (brain-based learning) ในการจัดสิ่งแวดล้อม ภาพถ่าย โดย ผู้เขียน โรงเรียนเปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ห้องละไม่เกิน 30 คน ชั้นละ 1 ห้อง โรงเรียนมีนักเรียนที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปแล้ว 5 รุ่น รุ่นที่จบไปจะไม่เรียกเป็นศิษย์เก่า แต่จะเรียกว่า พี่ ม. 7, ม. 8, ม. 9 ไปเรื่อย ๆ นักเรียนจะได้มีโอกาสไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนนานาชาติที่พัทยา และการเรียนการสอนภายในโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการกลุ่มและมีการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยครูจะทำหน้าที่เป็นโค้ชในการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจะเป็นผู้ทำโครงการเองทั้งหมด นักเรียนจะเป็นผู้ออกแบบการจัดห้องเรียนด้วยตนเอง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีการส่งนักเรียนไปแข่งทักษะทางวิชาการศิลปะหัตถกรรม เช่น ทำอาหาร เป็นต้น นโยบายของโรงเรียนอย่างหนึ่งคือจะให้นักเรียนอดอาหารเย็น เพื่อฝึกความอดทนและให้รู้จักความอดอยาก และนักเรียนสามารถใช้โทรศัพท์ด้วย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยที่ต้องแลกด้วยการเขียนจดหมาย 3 ฉบับ ในการเคารพธงชาติจะเข้าแถวตอนบ่ายสามโมง เพราะตอนเช้าสมองของนักเรียนพร้อมที่จะได้รับการเรียนรู้เลยให้เข้าชั้นเรียนก่อน ธงชาตินอกจากธงชาติของประเทศไทยแล้ว ยังมีธงชาติของนักเรียนต่างชาติด้วย เพื่อให้นักเรียนรู้สึกว่าโรงเรียนให้ความสำคัญกับเขา การจัดการพื้นที่โรงเรียนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ด้านหน้า ตรงกลางจะเป็นห้องเรียน ส่วนด้านหลังจะเป็นแปลงเกษตรและหอพักนักเรียน ในโรงเรียนไม่มีสหกรณ์ร้านค้า แต่จะเป็นธุรกิจของนักเรียนเอง เช่น ลูกชิ้น ขนมปัง ชานมไข่มุก น้ำผลไม้ปั่น เป็นต้น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้รับการยกย่องจากกองทุนประชาชากรแห่งประชาชาติ ว่าเป็น โรงเรียนที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกการจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนของนักเรียนจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. เรียนในห้องเรียน เป็นการเรียนเหมือนโรงเรียนทั่วไป ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 15.00 น. 2. เรียนนอกห้องเรียน ตั้งแต่เวลา 15.00 เป็นต้นไป โดยเรียนในสิ่งที่ผู้เรียนอยากเรียนเป็นวิชาการทำธุรกิจตามความสนใจกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะเน้นบูรนาการ เช่น กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี จะมีการส่งนักเรียนไปร่วมกิจกรรมค่ายกับโรงเรียนเครือข่าย แต่ในโรงเรียนไม่มีการจัดการเรียนการสอนที่เป็นกิจจะลักษณะ ซึ่งโรงเรียนจัดตั้งอยู่ในป่าอยู่แล้วก็จะใช้การบูรณาการโดยเน้นทักษะ ในส่วนของชมรม ชุมนุมจะประเมินที่ทักษะ เช่น หน้าที่พลเมือง เป็นต้น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะประกอบไปด้วย กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. กิจกรรมแนะแนวกิจกรรมแนะแนวจะมีกิจกรรมเตรียมอนาคต เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักตนเอง และได้เห็นความสามารถและความถนัดของตนเอง 2. กิจกรรมชุมนุมชมรมที่มีในโรงเรียนที่เป็นรูปธรรม เช่น ว่ายน้ำ ดนตรี 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ซึ่งได้แก่กิจกรรม School Bird คือ ให้นักเรียนไปลงโรงเรียนรอบนอกและชุมชน เป็นการทำประโยชน์ เช่นกิจกรรมสอนว่ายน้ำให้เด็กในชุมชนกิจกรรมจัดแต่งแปลงเกษตรให้น้องในโรงเรียนประถมกิจกรรมจัดตั้งเงินกู้ผู้สูงอายุกิจกรรมอบรมการปลูกผักให้กับชุมชนกิจกรรมทำแปลงเกษตรในโรงเรียนประถมและโรงเรียนเครือข่ายกิจกรรมพี่สอนน้องในโรงเรียนเครือข่าย เช่น สอนเรื่องเพศศึกษา (ให้นักเรียนเป่าถุงยางอนามัย เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยให้รอบรู้เกี่ยวกับถุงยางอนามัย)กิจกรรมจัดตั้งบริษัทในกับโรงเรียนประถมกิจกรรมเยี่ยมผู้ป่วย 1 สัปดาห์จะไป 1 โรงพยาบาล โดยการไปเยี่ยม มอบอาหาร เล่นดนตรีบำบัดกิจกรรมดูแลการปลูกผักของตนเอง นักเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการในทุกขั้นตอน และนักเรียนในแต่ละระดับชั้นจะได้รับผิดชอบผักผลไม้แต่ละชนิดภาพถ่าย โดย ผู้เขียนกิจกรรมแปลงเกษตรวิวแชร์ นักเรียนจะเป็นผู้เข้าไปจัดตั้งแปลงเกษตรเพื่อขจัดความยากจนให้กับผู้มีความมีความบกพร่องทางด้านร่างกาย นักเรียนแต่ละคนจะได้นักรถเข็ญหรือวิวแชร์และปิดตาเดินเดือนละ 1 วัน เพื่อให้รู้ว่าเราทุกคนสามารถทำอะไรได้เหมือนกันกับผู้อื่นแม้ร่างกายจะไม่พร้อมเหมือนคนปกติทั่วใจ เป็นการให้นักเรียนเข้าใจนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย นักเรียนทุกคนจะได้เรียนรู้ภาษามือและอักษรเบลอีกด้วยกิจกรรมธุรกิจนักเรียน เป็นกิจกรรมในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้นักเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง ตามความสนใจ เช่นธุรกิจไอศกรีมธุรกิจวงบ่อปูนธุรกิจปลูกผักในตะกร้าธุรกิจผลิตท่อพีวีซีธุรกิจปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ธุรกิจปลูกเมล่อนในถุงภาพถ่าย โดย ผู้เขียนจุดเด่นของโรงเรียนมีชัยพัฒนาด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน “โรงเรียนมีชัยพัฒนา” หรือ “โรงเรียนไม้ไผ่” จากอาจารย์มีชัย วีระไวทยะ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโรงเรียนทางเลือกในเครือของมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ และสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ซึ่งได้เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดี มีวินัย มีความซื่อสัตย์ มีจิตสาธารณะ สามารถคิดนอกกรอบและค้นคว้าหาคำตอบ พร้อมที่จะเป็นผู้ประกอบการการเกษตรและธุรกิจเพื่อ สังคมและเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนในอนาคต รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง และคนในชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน สำหรับโรงเรียนมีชัยพัฒนา นักเรียนไม่ต้องจ่ายค่าเทอมด้วยเงิน แต่จ่ายด้วยการทำความดี 400 ชั่วโมง และปลูกต้นไม้ 400 ต้นในแต่ละปีการศึกษา ฝึกให้เด็ก “คิดเองได้ ทำเองเป็น” ไม่ใช่การ เรียนการสอนที่ครูใช้ไม้จิ้มกระดานแล้วให้เด็กอ่านตามเหมือนในอดีต เป้าหมายหลักของโรงเรียนคือ ตั้งใจ ให้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของทุกคนในชุมชน เป็นศูนย์กลางการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่รอบโรงเรียน อีกทั้งยังสร้างนักเรียนให้เป็นคนดีของสังคม มีทักษะชีวิต และทักษะอาชีพติดตัวไปตามหลักปรัชญาของโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับ “การลดความเหลื่อมล้ำ” เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสที่เท่าเทียมกันในการพัฒนาชีวิตของตนเอง ซึ่งถือว่าโรงเรียนมีชัยพัฒนามี จุดเด่นหลายด้านที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง ปัจจุบันโรงเรียนมีชัยพัฒนา ได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่การพัฒนาและช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็กของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีนักเรียนตั้งแต่ 50 ถึง 250 คน โรงเรียนสำหรับผู้ด้อยโอกาส และหมู่บ้านยากจนในชนบท โดยได้เปิดดำเนินการไปแล้วใน 79 โรงเรียนและ 146 หมู่บ้าน รวมถึงนักเรียนด้อยโอกาสในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนศรีสังวาลย์ที่เป็นโรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหว และโรงเรียนโสตศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาในการได้ยิน ภายใต้การดำเนินงานโครงการพัฒนาชนบท มีชื่อว่า “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง” หรือ “School-Based Integrated Rural Development Project (School-BIRD)”โดยได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากภาคเอกชนและความร่วมมืออื่น ๆ จากสถาบันอุดมศึกษา ปัจจุบันมีโรงเรียนชุมชนของรัฐกว่า 150 แห่ง ได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยพัฒนาโรงเรียนของตนเอง ให้มีลักษณะคล้ายกับโรงเรียนมีชัยพัฒนาในด้านการพัฒนาธุรกิจการเกษตร นอกจากนี้ โรงเรียนมีชัยพัฒนายังได้ให้ความช่วยเหลือโรงเรียนที่มีนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ตามชายแดน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานจากภาคธุรกิจเอกชน เงินงบประมาณส่วนใหญ่จะจัดสรรให้ใช้ในการก่อสร้างแปลงเกษตรเพื่อขจัดความยากจน และจัดตั้งเงินกองทุนเพื่อทำธุรกิจสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง และสมาชิกในชุมชนที่ยากจนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงเรียนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน และการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนรอบโรงเรียน 2. การฝึกอบรมด้านธุรกิจการเกษตรและจัดตั้งแปลงเกษตรเพื่อขจัดความยากจนในลักษณะของวิสาหกิจเพื่อสังคมประจำโรงเรียน 3. การอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของครู นักเรียน ผู้ปกครองและสมาชิกในชุมชน 4. การจัดตั้งกองทุนเงินกู้และเงินออมเพื่อทำธุรกิจสำหรับนักเรียนและครอบครัวที่ยากจน 5. การดูแลสุขภาพ ปรับปรุงสุขาภิบาล สิ่งแวดล้อมและน้ำดื่มน้ำใช้สำหรับนักเรียนธุรกิจนักเรียน โรงเรียนมีชัยพัฒนาจัดสรรเงินงบประมาณใช้ในการก่อสร้างแปลงเกษตรเพื่อขจัดความยากจน และจัดตั้งเงินกองทุนประจำโรงเรียนเพื่อสนับสนุนเงินลงทุนในการทำธุรกิจ รวมถึงการฝึกให้ผู้ที่นั่งรถเข็นสามารถทำการเกษตรได้ นักเรียนสามารถกู้ยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจเป็นกลุ่ม และสามารถกู้ยืมไปลงทุนทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวและผู้สูงอายุ เพราะเชื่อว่าโรงเรียนที่ดีจะต้องช่วยเหลือผู้ปกครองให้หลุดพ้นจากความยากจนแร้นแค้นด้วย นอกเหนือจากการฝึกอบรมนักเรียนในด้านธุรกิจและการเกษตรแล้ว โรงเรียนยังได้จัดการอบรมในด้านต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกและผู้สูงอายุในชุมชนรอบโรงเรียน โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกิจและการเกษตรแบบใหม่ ด้านแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม บัญชีครัวเรือน ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และด้านสุขภาพอนามัย ซึ่งสามารถแบ่งธุรกิจนักเรียนออกได้ ดังนี้ 1. วิสาหกิจของกลุ่มนักเรียน เป็นธุรกิจที่นักเรียนร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าในโรงเรียนให้นักเรียนได้ซื้อรับประทาน เนื่องด้วยโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนไม่สามารถออกนอกบริเวณ จึงไม่มีโอกาสออกไปใช้จ่ายข้างนอก จึงเป็นเหตุผลของการจัดตั้งวิสาหกิจของกลุ่มนักเรียน 2. ธุรกิจด้านการเกษตร โรงเรียนต้องการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านการเกษตร เพื่อนำไปใช้ต่อยอดในการสร้างอาชีพของตนเองในอนาคต รวมถึงปลูกฝังให้นักเรียนนำองค์ความรู้และทักษะไปถ่ายทอดสู่ชุมชน ทั้งยังเกิดการขยายผลการเรียนรู้อีกด้วย ซึ่งนักเรียนโรงเรียนมีชัยพัฒนาได้รับการถ่ายทอดทักษะนวัตกรรมการเกษตร ทั้งการสร้างระบบปลูกผักไร้ดิน (Hydroponics) ปลูกผักข้างรั้วในขวดน้ำที่ใช้แล้ว สวนผักเพื่อบกพร่องทางร่างกาย โรงเห็ดและธุรกิจผึ้ง เป็นต้น ธุรกิจด้านการเกษตรของโรงเรียนมีชัยพัฒนาที่นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้และเป็นผู้รับผิดชอบยังมีนอกเหนือจากธุรกิจหลักด้านการเกษตรของโรงเรียนอย่างหลากหลาย ดังนี้ - วงบ่อปูน - ผลิตท่อพีวีซีเพื่อปลูกผัก - เพาะปลูก - ปลูกผักไฮโรดรโปรนนิกส์ - ปลูกผักในตะกร้า - การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อการเกษตร - ปลูกเมล่อนในถุง - จัดแต่งแปลงเกษตรให้น้องในโรงเรียนประถมภาพถ่าย โดย ผู้เขียนภาพถ่าย โดย ผู้เขียนภาพถ่าย โดย ผู้เขียนชุมนุม/ชมรม โรงเรียนมีชัยพัฒนา ได้เห็นถึงความสำคัญของประสบการณ์ และความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ของผู้เรียน ทางโรงเรียนจึงได้จัดกิจกรรมเตรียมอนาคตขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาหาความรู้และได้ลงมือปฏิบัติในสิ่งที่สนใจ โดยมีกิจกรรมดังต่อไปนี้ - กิจกรรมเตรียมอนาคต - ว่ายน้ำ - ดนตรี - เกษตรการพัฒนาชุมชนและสาธารณประโยชน์ นักเรียนของโรงเรียนมีชัยพัฒนาทุกคนต้องมีส่วนช่วยเหลือชุมชนภายนอกโรงเรียนในทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน เพื่อไปให้ความรู้แก่ชุมชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงทำความดีกับชุมชน เช่น กิจกรรมปลูกต้นไม้ร่วมกับผู้ปกครองจำนวน 400 ต้นต่อปีเพื่อเป็นค่าเทอม กิจกรรมพี่สอนน้องโดยการลงไปให้ความรู้ในโรงเรียนตามหมู่บ้าน ร่วมทำความสะอาดหมู่บ้าน โรงเรียนและวัด แบ่งปันสอนว่ายน้ำให้นักเรียนจากโรงเรียนอื่น ๆ กิจกรรมนำความรู้ไปสร้างรายได้ให้ครอบครัวและชุมชน รวมถึงกิจกรรมฝึกประสบการณ์การทำงานภาพบรรยากาศภายในโรงเรียน โดย ผู้เขียน