ถ้าพูดถึงบุรีรัมย์ นักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยมาเยือนจังหวัดนี้ มากกว่าครึ่งต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง เพราะมนต์เสน่ห์เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีมากมายเหลือเกิน แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทำให้ผู้มาเยือนไม่มีเบื่อเลย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวกำเนิดใหม่ (แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น) ในบทความนี้ผู้เขียนจะพาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีมาอย่างยาวนานและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นั่นก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ เริ่มต้นกันที่ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมายาวนานของบุรีรัมย์ เป็นแหล่งประวัติศาสตร์และแหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งอารยธรรมขอมโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ประมาณ 77 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ การเดินทางสะดวกสบายมาก เพราะเป็นทางลาดยางขึ้นไปถึงยังตัวปราสาท เราสามารถเข้าไปได้สองทาง คือ ผ่านอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอประโคนชัย ทั้งสองทางจะต้องขับรถขึ้นเขา (หากเข้าทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติทางจะชันมากกว่าทางอำเภอประโคนชัย) เมื่อมาถึงจะมีลานจอดรถที่เป็นลานหินไว้บริการ เป็นลานกว้างสามารถรองรับรถยนต์ได้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมาถึงลานจอดรถแต่เราจะยังมองไม่เห็นตัวปราสาท เพราะตัวปราสาทจะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน เราต้องเดินผ่านร้านขายของที่ระลึก ผ่านที่ทำการของอุทยาน เพื่อไปยังจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชม อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท โดยบัตรรวมนี้ได้รวมค่าเข้าชม โบราณสถานปราสาทเมืองต่ำ ที่อำเภอประโคนชัยไว้ด้วย การเสียค่าเข้าชมถือว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ท่องเที่ยวไปในตัว เมื่อผ่านที่จำหน่ายบัตรเข้าชม ต้องเดินขึ้นบันไดหินที่สูงประมาณสองช่วงตัวขึ้นไป พอพ้นบันไดหินเราจะเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปยังอาณาจักรขอมสมัยโบราณกันเลยทีเดียว ก่อนจะขึ้นไปยังตัวปราสาท เราต้องเดินผ่านสะพานนาคราชที่มีความยาวเกือบ 100 เมตร (กะระยะด้วยสายตา) เมื่อมองไปยังตัวปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเราจะมองเห็นปราสาทมีขนาดเล็ก ๆ เพราะมองจากระยะไกล ต้องเดินผ่านสะพานนาคราชเข้าไป และขึ้นบันไดหินที่มีความชันมาก กว่าจะถึงตัวปราสาทใหญ่ หรือที่เรียกว่า ปราสาทประธาน ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ดูเด่นเป็นสง่า ด้านหน้าปราสาทจะมีสระบัวขนาดเล็ก ภายในตัวปราสาทเป็นปราสาทที่ทอดยาวมาก มีประตูผ่านตัวปราสาท 15 ช่อง ในแต่ช่องจะมีห้องโถงขนาดเล็กอยู่เป็นระยะ เราจะเห็นความมหัศจรรย์ของการก่อสร้างปราสาทหิน ที่แทบไม่น่าเชื่อว่าคนสมัยก่อนจะสามารถแบกหินขนาดใหญ่มาก่อสร้างเป็นปราสาทให้มีความวิจิตรงดงามได้เพียงนี้ มิหนำซ้ำภายในตัวปราสาทยังมีการแกะสลักหินเป็นรูปร่างและเรื่องราว หรือที่เราเรียกว่า ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ นั่นเอง บริเวณรอบ ๆ ปราสาท มีการปลูกหญ้าโดยรอบ เขียวขจีตัดกับสีของตัวปราสาทอย่างเด่นชัด เนื่องจากปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาอากาศของที่นี่จึงเย็นสบายตลอดทั้งปี ความร่มรื่นของที่นี่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาสามารถเดินชมความงดงามของตัวปราสาทและบริเวณโดยรอบได้อย่างไม่รีบร้อน ก่อนกลับยังสามารถเลือกซื้อสินค้า ที่เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของชาวบุรีรัมย์ติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย แหล่งท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่เมื่อมาบุรีรัมย์แล้วเราไม่ควรพลาด ก็คือ ปราสาทเมืองต่ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งที่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเพียง 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดปราสาทบูรพาราม ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทเมืองต่ำ เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น เพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือประจำชุมชน ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความร่มรื่นของต้นไม้ ด้านหน้าปราสาทติดหนองน้ำขนาดใหญ่ ก่อนถึงตัวปราสาทเราต้องเดินผ่านสวนที่มีความสะอาด สงบ และร่มรื่นมาก ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนภูเขา เพราะฉะนั้นผู้สูงอายุสามารถเดินเข้าไปชมได้ เมื่อเข้าไปภายในตัวปราสาทเราจะเห็น สระน้ำระเบียงคดจำนวน 4 สระ ล้อมรอบระเบียงคดไว้ บริเวณรอบ ๆ เป็นพื้นหญ้าเขียวขจี ตัดกับสีของปราสาทอย่างสวยงาม ตัวปราสาทมีทั้งหลังเล็กและหลังใหญ่ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์จากการบูรณปฏิสังขรณ์อยู่ตลอดเวลา หินก้อนขนาดใหญ่เป็นวัสดุเพียงชนิดเดียวที่ชาวขอมโบราณนำมาสร้างเป็นปราสาท ได้อย่างงดงาม จากโครงสร้างและความประณีตของปราสาท ทำให้นึกไปถึงว่า ชาวขอมโบราณที่ร่วมกันก่อสร้างปราสาทขึ้นมาต้องใช้ความพยายามและอดทน รวมทั้งพวกเขาต้องมีความรู้ด้านหลักวิศวกรรมอย่างมาก ถึงได้สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมเหล่านี้ขึ้นมาได้ หนำซ้ำสถาปัตยกรรมเหล่านี้ยังผ่านกาลเวลามาเป็นพัน ๆ ปี เพื่อให้เราเห็นถึงสิ่งที่งดงามเหล่านี้ สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจอย่างมากในการมาเที่ยว ปราสาททั้งสองแห่งนี้ คือ ผู้เขียนได้เห็นถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธา และความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมขอมสมัยโบราณที่ไม้แพ้อารยธรรมโบราณใด ๆ ในโลกนี้เลย หากผู้ที่ก่อสร้างปราสาททั้งสองแห่งนี้ได้รับรู้ว่า สิ่งที่พวกท่านสร้างสรรค์ไว้ ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน พวกท่านเหล่านั้นคงมีความภาคภูมิใจไม่น้อย ที่สิ่งก่อสร้างเหล่านี้สามารถเป็นแห่งเรียนรู้ให้กับชนรุ่นหลัง ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าปราสาทหินเหล่านี้สามารถผ่านกาลเวลามานับพัน ๆ ปี และอยู่มาถึงปัจจุบันให้เราได้ชื่นชม และหากเราช่วยกันอนุรักษ์ และเที่ยวแบบรู้คุณค่าของประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวทั้งสองแห่งนี้ จะสามารถคงอยู่ไปได้อีกเป็น พัน ๆ ปีข้างหน้าเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้สืบต่อ ๆ ไปเช่นเดียวกัน ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน