สวัสดีนักอ่านและนักเขียนทุกคนค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์อีกที่หนึ่งนั่นก็คือ “ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้” โดยตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของเราเองค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าตั้งแต่เรียนที่นี่มาเราก็เพิ่งเข้ามาดูในศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ ความรู้สึกแรกที่เข้ามาคือไม่คิดว่าในมหาวิทยาลัยเล็กๆนี้จะมีสถานที่ที่เก็บรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอีสานใต้มากขนาดนี้โดยศูนย์แห่งนี้มีอาคาร 2 หลัง หลังแรกเป็นหอประชุม หลังที่สองจะเป็นอาคารสองชั้นซึ่งเก็บรวบรวมและแสดงตัวอย่างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยชั้นล่างจะจัดนิทรรศการภูมิศาสตร์ แสดงสภาพภูมิศาสตร์ของบริเวณอีสานใต้และบุรีรัมย์ นิทรรศการโครงกระดูกช้างที่มาจากบ้านหนองบัวเจ้า อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ห้องสมุดวัฒนธรรมและศูนย์ข้อมูลท้องถิ่น ฯลฯ แต่โดยส่วนใหญ่ชั้นล่างจะจัดแสดงเกี่ยวกับโบราณวัตถุและวัตถุทางวัฒนธรรม นอกจากนั้นแล้วยังมีห้องขายของที่ระลึกซึ่งราคาไม่แพง สามารถจับต้องได้ ต่อมาจะเป็นชั้นสองจากที่เราดูแล้วนั้นชั้นนี้จะมีความสวยงามมากกว่าชั้นแรกเพราะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงให้เห็นถึงประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอีสานใต้นั่นก็คือประเพณีเดือนสิบสองหรือฮีตสิบสองที่เรารู้จักกันนั่นเองค่ะ ซึ่งชั้นบนนี้แบ่งเป็นห้องๆ โดยแต่ละห้องจะจัดแสดงแตกต่างกัน เราจะมาพูดถึงห้องแรกเลยก็แล้วกัน ห้องนี้เป็นห้องที่จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีกลุ่มชาติพันธ์ 4 เผ่าพื้นเมืองซึ่งประกอบไปด้วย ไทยลาว ไทยส่วย ไทยเขมร และไทยโคราชถัดจากนั้นจะเป็นห้องที่แสดงประวัติศาสตร์บุรีรัมย์ ตั้งแต่บุรีรัมย์ก่อนประวัติศาสตร์และการก่อตั้งบุรีรัมย์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1ถัดมาอีกห้องเป็นห้องแสดงนิทรรศการผ้าและวิถีชีวิต ซึ่งเป็นงานฝีมือของคนในชุมชน โดยผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ก็คือ ผ้าซิ่นตีนแดง นอกจากนั้นแล้วยังมีห้องที่จัดแสดงนิทรรศการศาสนาและความเชื่อ นิทรรศการเครื่องมือล่าดักจับสัตว์ และนิทรรศการช้างกับส่วยที่แสดงให้เห็นถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับช้างป่า เครื่องประกอบพิธีกรรมของหมอช้าง อย่างเช่น ศาลปะกำ หนังปะกำ เป็นต้นสำหรับเราแล้วเราคิดว่าสถานที่นี้เป็นอีกที่หนึ่งที่สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ตลอดเพราะเปิดให้เข้าชมทุกวันและที่สำคัญกว่านั้นคือเข้าชมฟรีค่ะ