อื่นๆ

ยายน้อยปากแดง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ยายน้อยปากแดง

ยายน้อยปากแดง

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของผมพอจะจำได้ในตอนเด็ก​  ปิดเทอมผมมีโอกาสไปอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัดในภาคอีสานเป็นเวลา​ 3​ เดือน​ช่วงปิดเทอม​ ช่วงนั้นผมก็ใช้ชีวิตทั่วไปตามประสาเด็กบ้านนอก​ ไม่ได้มีความหวือหวาอะไร​ เรื่องราวที่จะเล่านี้เกิดขึ้นจริงเมื่อ​ 10​ ปีที่แล้ว​ ความเชื่อทางภาคอีสานที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นคือเรื่องของปอบ​ จะเห็นได้โดยทั่วไปคือ​ มีเสื้อแดงแขวนไว้หน้าบ้าน​ ติดป้ายไว้ว่าบ้านนี้ไม่มีคนเกิดวันพุธอะไรทำนองนี้เป็นเสียส่วนมาก​ ตอนนั้นผมก็คิดว่าเป็นเพียงเรื่องราวหลอกเด็กเท่านั้นแหละ

ในระแวกบ้านที่ผมไปอยู่เป็นหมู่บ้านที่มีบ้านติด​ ๆ​ กันทั้งหมู่บ้าน​ ทำให้รู้จักคนทั้งหมู่บ้านเลยเชียว​ ตรงข้ามหน้าบ้านแม่ของผมเป็นบ้านของยายลี​ ซึ่งแกอยู่คนเดียวไม่มีลูกเต้าที่ไหน​ เท่าที่จำได้คือแกเป็นคนจิตใจดี​ บางวันก็ทำกับข้าวมาแบ่งผมกับแม่บ้างตามวิถีชีวิต​คนบ้านนอก​ เดือนแรกที่ผมไปอยู่ก็ราบรื่นดีไม่มีอะไรผิดสังเกต​ พอเข้าเดือนที่สองผมพบกับเหตุการณ์​น่าสนใจ​ ในยามโพล้เพล้​จะมีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวสีสันฉูดฉาดหน้าขาววอก​ ทาลิปสีแดงสด​ จัดจ้านในย่านนี้มาก​ ผู้หญิงคนนั้นดูทรงก็ราว​ ๆ​ ป้า​ แกมายืนมองชะเง้อชะแง้​หาอะไรสักอย่างอยู่หน้าบ้านยายลีมาระยะหนึ่ง​ บางทีก็หลบ​ ๆ​ ซ่อน​ ๆ​ ผมนึกว่าแกสองคนคงมีธุระอะไรกันแน่เลย​ เลยไม่ได้ติดใจอะไร​ แต่นานวันเข้ามันก็ยังเป็นอยู่แบบนั้น​ ประกอบกับพักหลังมานี้ไม่เห็นยายลีเลย​ แม่จึงกลายเป็นผู้คลายความสงสัยได้ดีที่สุด​และผมก็ได้คลายปมไปหนึ่งปมคือ​ ยายลีแกป่วยนอนอยู่ในบ้านลุกไปไหนไม่ได้​ คนที่ดูแลก็เป็นญาติห่าง​ ๆ​ ของแก​ ด้วยความเป็นเด็กผมก็คิดไปว่า​ อ๋อ!! ยายคนปากแดง​ ๆ​ คงเป็นห่วงยายลี

Advertisement

Advertisement

เย็นวันหนึ่งเมื่อตะวันใกล้ตกดิน​ ผมนั่งเล่นหน้าบ้านกับแม่พอดี​ เลยถามแม่ว่าทำไมยายคนนั้นเขาไม่เข้าไปในบ้านยายสักทีล่ะ​  แม่ผมหันไปมองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ​ว่ายายน้อยน่ะเหรอ​ ผมเลยบอกไปว่าคนปากแดง​ ๆ​ แม่พยักหน้าแต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ​ ตกดึกผมถามแม่แต่แม่ก็ไม่ยอมพูดออกมาแต่อย่างใด​ จนกระทั่งอยู่ในความเงียบ แม่พูดขึ้นมาว่า​ ยายน้อยแกน่าจะมาดูว่ายายลีใกล้ตายหรือยัง​ คนแถวนี้เขารู้กันหมดแหละว่ายายน้อยแกไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเรา​ ๆ​ แต่เขาไม่พูดกัน​ ผมเกิดความสงสัยในใจ-แล้วยายน้อยเป็นอะไร​  แม่พูดขึ้นแม่อีกว่าแต่ก่อนยายน้อยแกเป็นผีฟ้า​รักษาคนป่วย​ ต้องถือศีลถือกฎอะไรมากมาย​ แต่พอยายน้อยแกไปทำผิดกฎของผีฟ้า​ ของแกเลยเสื่อม​ ปอบเลยกินแกไปหมด​ จนตอนนี้ใคร​ ๆ​ ก็รู้ว่าแกเป็นปอบ​ ดีไม่ดีใครที่โดนของแกแล้วอาจเป็นอันเจ็บไข้ได้ป่วยไปหมด​ ของแบบนี้รักษาจะให้หายก็ยาก​ ผมถามแม่ต่อว่า​ ของ​ คืออะไรหรอแม่​ ทำไมมันไม่ดี​ ภาษาไทยเขาเรียกว่าพวกคุณไสยหรือมนตร์ดำอะไรพวกนั้น-แม่ตอบ​ แม่ก็พูดต่อไปว่ายายลีอาจจะโดนของยายน้อยก็ได้นะ​ อยู่ดี​ ๆ​ แกก็ล้มป่วยไปเลยแล้วยายน้อยก็โผล่มาหน้าบ้านยายลีทุกวัน​ แล้วแม่ผมก็ตัดบทไปให้นอนและหลังจากนั้นผมก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้อีก​เพราะกลัว

Advertisement

Advertisement

ตลอดครึ่งเดือนให้หลังที่ผมจะอยู่ที่นี่ผมก็เห็นยายน้อยแกมาจ้อง​ ๆ​ มอง​ ๆ​ หน้าบ้านยายลีตลอด​ จนวันที่ผมใกล้กลับโรงเรียนประจำ​ ยายลีตาย​ ผมก็ไม่เห็นยายน้อยปากแดงมางานศพยายลีเลย​ จนกระทั่งวันเผา​ ผมอยากรู้ว่ายายน้อยจะมางานไหม​ จึงเป็นนักสำรวจคนมางานตลอดเวลา​ แล้วมีคนมาสะกิดผม​ เป็นยายแก่เคี้ยวหมากพูดกับผมว่า​ 'มองหาใครระวังโดนดีนะไอ่นาย...'​ แล้วแกก็เดินยักแย่ยักยัน​ออกไป​ เสียงแผ่ว​ ๆ​ ของแกทำผมขนลุกซู่ไปหมด​ ผมไม่อยากอยู่แล้ว​ รบเร้าแม่ให้กลับบ้านทันที

ปิดเทอมครั้งนี้ผมไม่เคยลืม

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์