สามปี ที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่โรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ถ้าหากเอ่ยชื่อ โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง เชื่อว่า หลายๆคน ก็คงพอจะรู้จักและพอได้ยินชื่อเสียงของโรงเรียนนี้กันมาบ้าง อย่างน้อยก็คงเคยได้ดูคลิปวีดีโอ เด็กน้อยน่ารักหลายๆคน พากันร้องรำทำเพลง เล่นดนตรี กันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางธรรมชาติ ของป่า เขา และ ทุ่งนา ซึ่งมียอดวิว ที่สูงมากในระดับล้านวิวอะไรทำให้ เด็ก ๆ เหล่านั้น เล่นดนตรี กันได้อย่างมีความสุข และสนุกสนาน ขนาดนั้น? นั่นคือคำถาม ที่เกิดขึ้นในใจของผม หลังจากชมคลิปวีดีโอ จบ บ้านถาวร ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลออกไปจาก ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จว.สุรินทร์ บ้านพักของเรามากนัก ราว70-80 กิโลเมตร โดยประมาณ ใช้แอพลิเคชั่น GooglesMaps ค้นหาสถานที่ คำนวนระยะเวลาเดินทางไป ใช้เวลาไม่นานนัก จึงตัดสินใจ พาใบพรู (ลูกสาว ) น้องปลาย และ นีน่า สมาชิกวงดนตรี บานาน่า โมเดล ลองเข้าไปศึกษาดูงาน ณ สถานที่โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง แห่งนี้ โดยมิได้ นัดหมาย หรือแจ้งกับเจ้าของสถานที่ (ครูลี่ ) ซึ่งมิเคยได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว มาก่อน ผมคิดเอง เออเอง เอาว่าการไปเยี่ยม ให้กำลังใจซึ่งกันและกันในฐานะคนที่ทำงานเล่นดนตรีกับเด็กด้วยกันแบบเราน่าจะพอคุยกันได้ง่ายๆ เข้าใจกันไม่ยากนัก ขับรถไปตามเส้นทางที่ ระบบGPS นำทางลัดเลาะเลี้ยว เข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ จนบางครั้ง ก็ชักเริ่มไม่มั่นใจนัก ว่ามันจะถูก GPS หลอกเหมือนหลายๆครั้งที่เคยโดนหรือไม่ ใช้เวลาเดินทางไปตามถนนทางหลวงแผ่นดิน สาย 24 โชคชัย- เดชอุดม ก่อนจะเลี้ยวซ้ายตรงแยกตะโก อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.บุรีรัมย์ และให้เลี้ยวไปมาตาม GPS บอก ราวชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปถึงที่หมาย โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง อย่างภาคภูมิใจสาวสาว ใบพรู ปลาย นี่น่า สมาชิกวงบานาน่าโมเดล ไม่ลืมที่จะหิ้วกล้วยน้ำว้า ผลิตผลจากโครงการ ผักสวนครัวหลังบ้านติดไม้ติดมือ ลงไปฝากเพื่อนๆ อีกด้วย ท้นทีที่ ได้เดินก้าวเข้าไป ในรั้วโรงเรียน ก็มีผู้หญิง คนนึงหน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส เดินเข้ามาสวัสดี ทราบภายหลัง ว่าเธอชื่อไก่ เป็นแม่ของนักเรียน คนนึงในโรงเรียน ไม่ใช่ ภรรยา ของครูลี่ อย่างที่ผมคิด ครูลี่ ยังโสด ครับ (สำหรับชีวประวัติของครูลี่ ศึกษาได้ที่ คลิปรายการ คนค้นคน นะครับ)พวกเรา ยกมือไหว้ สวัสดีทักทาย กันพอหอมปาก หอมคอ ก่อนที่เจ้าบ้านจะมีการเชื้อเชิญ ให้เข้าไปนั่ง พักผ่อน ในศาลากระท่อม ซึ่งอากาศร่มรื่น เย็นสบาย ชักชวน ดื่มน้ำ รับประทานอาหาร ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดเตรียมไว้แล้ว สำหรับการลงแขก ซึ่งไม่ได้ให้เห็นกันบ่อยๆ แล้วในยุคสมัยปัจจุบันนี้ รู้สึกโชคดีเหลือเกิน เมื่อรู้ว่า วันนั้น เป็นวันที่มีการลงแขกดำนา และโบกดินสร้างผนังอาคารบ้านดิน เพื่อเป็นสถานที่จัดเก็บเครื่องดนตรีและสื่อการเรียน การสอน ของโรงเรียน จังหวะพอดีที่ วันนั้นมีรายการโทรทัศน์อย่างช่องเจ็ดสี ทีวีเพื่อคุณ มาถ่ายทำบันทึกรายการข่าวครูลี่ ซึ่งดูกำลัง วุ่นๆ สาละวน อยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ต่างๆ สำหรับเตรียมงาน สละเวลา อันมีค่า เดินเข้ามาหา สวัสดีทักทาย พวกเราแขกซึ่งมิได้นัดหมาย จากการ ได้สนทนากัน แม้ระยะเวลา อาจจะไม่นานมากนัก ก็เกิดความรู้สึก ปิติ ดีใจ ที่ได้เดินทางมาที่นี่ คิดไม่ผิด จริงๆ ครับ ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าหากทุกคนได้ติดตามประวัติความเป็นมาและวิธีคิดการดำเนินการสร้างโรงเรียนนี้ขึ้นมา จากรายการโทรทัศน์ ต่างๆ ก็คงพอจะเข้าได้ ถึงวัตถุประสงค์ของโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่า ความสุข ของเด็กๆ ในการเรียนรู้ ครูลี่ หรือ นาย คีตา วารินบุรี ซึ่งเคยบอกกับใครๆ ว่าเขาเบื่อและเกลียดการเรียนหนังสือเป็นที่สุด แต่วันนี้ เขากลับกลายเป็น ครูใหญ่ใจดี ของโรงเรียนที่มีนักเรียนที่มีความสุขในสุดในโลกนี้ -ได้อย่างไรกัน? ผมใช้เวลาสอบถาม เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ จากครูลี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปลูกผัก เป็นใบสมัครในการเข้าเรียน เรื่องกิจกรรม นั่งสมาธิเดินจงกรม สร้างเสริมบุญสร้างกุศลเด็กๆ พากันไปร่วมกิจกรรมปั้นดินเป็นโรงเรียนและช่วยกันดำนา ตามประสาลูกชาวนา แต่ไม่ค่อยได้ช่วยพ่อแม่ทำนา มาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต สามสาวของเรา ดูมีความสุข และสนุกกันดี นะครับ เป็นเวลา1วันที่มีความรู้สึก เห็นคุณค่าของธรรมชาติ ที่ให้เรามา มากมายเลยก่อนจะร่ำลากัน ก็ได้รับประทานอาหาร ทั้งเมนู ส้มตำ ผัดหมี่ และอีกมากมาย ตามที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ให้อย่างเอร็ดอร่อย ครูลี่มอบเสื้อโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง และร่วมกันถ่ายภาพไว้ให้เป็นที่ระลึก และกล่าวเชื้อเชิญ พวกเราให้กลับมาสนุกสนาร่วมกิจกรรมด้วยกันอีก ผมตกปาก รับคำยินดีเสมอ ที่จะพาเด็กๆ ร่วมกิจกรรม กับทางโรงเรียนบ่อยๆ ไม่มีเหตุผลใดๆ เลย ที่ปฏิเสธโอกาส และคำเชื้อเชิญดีๆ แบบนี้ ตั้งใจไว้ว่าเดือนมกราคม ปีหน้า จะกลับไปเยี่ยม โรงเรียนแห่งนี้ แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง ครับว่า โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง เขาเปิดและขยายหลักสูตรไปถึงไหน กันแล้ว ขอบคุณที่อ่าน ครับ ด.ต.วิมุต ชุมแก่น CR.ภาพถ่าย :วิมุต ชุมแก่น