บทความที่แล้วผู้เขียนได้พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์กันไปแล้ว ในบทความนี้ผู้เขียนจะพาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวจังหวัดและใกล้เคียงกันบ้าง เริ่มต้นจากสถานที่ที่ใครมาเที่ยวเมืองบุรีรัมย์แล้วต้องมาให้ได้ นั่นก็คือ สนามช้างอารีนา ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 24,000 ที่นั่ง ด้านหน้าสนามเป็นลานซีเมนต์กว้าง ภายในสนามมีจุดจำหน่ายตั๋วทั้ง 4 ทิศ เมื่อเข้าไปในสนามจะเห็นความใหญ่โตและความทันสมัยของสนามมีอัฒจรรย์ล้อมรอบทั้ง 4 ทิศ แบ่งเป็นโซน ๆ สำหรับแฟน ๆ สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ด้านหลังของสนามเป็นสถานที่สำหรับขาชิมและขาช้อป เพราะจะเป็นสถานที่ตั้ง Shop ของร้านอาหารดัง ๆ และร้านขายของที่ระลึก ด้านหลังของโซนนี้จะเป็นสวนหย่อมและปราสาทหินพนมรุ้งจำลองให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินกันแบบฟิน ๆ ไปเลย สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจอย่างมากกับสถานที่แห่งนี้ คือ การได้นั่งพักผ่อนแบบชิว ๆ ในช่วงเวลาเย็น ๆ ที่ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน หน้าสนาม มีน้ำพุผุดขึ้นมาเป็นระยะ มองรถราวิ่งผ่านไปมาหน้าสนาม นักวิ่งเพื่อสุขภาพใช้สถานที่แห่งนี้ในการออกกำลังกาย เนื่องจากสนามแห่งนี้เป็นพื้นที่โล่งกว้าง ในช่วงเย็น ๆ อากาศจึงเย็นสบาย หากหิว ๆ ก็จะมีทั้งตลาดโต้รุ่งที่อยู่ด้านข้างและด้านหลัง หากอยากกินขนมขบเคี้ยวร้านสะดวกซื้อก็อยู่ในบริเวณสนาม หรือหากอยากซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้านก็จะมีถนนคนเดินอยู่ด้านหลังสนาม เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว จากสนามช้างอารีนา ขับผ่านถนนบุรีรัมย์ประโคนชัย ไปไม่ไกลก็จะพบกับจุดเช็คอินจุดที่สองของบาทความนี้ นั่นก็คือ วนอุทยานเขากระโดง ตั้งอยู่ที่บ้านเขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว มีปากปล่องทะลุเห็นได้ชัดเจน รอบบริเวณแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ สิ่งที่ประทับใจในการเช็คอินจุดที่สองนี้ ก็คือ การที่เราจอดรถไว้ด้านล่างวนอุทยานแล้วเดินขึ้นบันไดไปทั้งหมด 297 ขั้น (สามารถนำรถขึ้นไปถึงด้านบนได้ แต่ถ้าใครอยากทดสอบความอดทนและกำลังขาของตนเองแล้วล่ะก็ แนะนำให้เดินขึ้นจ้า) การเดินขึ้นเขาด้วยจำนวนขั้นที่มากขนาดนี้ เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางด้านร่างกายได้ดีวิธีหนึ่งเลย เมื่อไปถึงด้านบนจะมีร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มแก่นักท่องเที่ยว เหนื่อย ๆ ก็อย่าลืมแวะเข้าไปอุดหนุนกันนะ ถือว่าเป็นการช่วยท้องถิ่น บนยอดเขากระโดงจะมีรอยพระพุทธบาทจำลองให้เราได้สักการะกัน หลายคนนำเหรียญบาทไปตั้งบนรอยพระพุทธบาทจำลองนี้ (เพื่ออะไรไม่ทราบแน่ชัด) มีจุดบูชาดอกไม้ ธูป เทียน ให้กับนักท่องเที่ยวใช้ในการกราบสักการะพระสุภัทรบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่ามองเห็นแต่ไกล ซึ่งพระสุภัทรบพิตร เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวบุรีรัมย์ เดินจากจุดนี้ลงไปยังด้านหลังพระพุทธรูปไม่ไกล เราจะพบกับปล่องภูเขาไฟกระโดง ซึ่งจุดนี้เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน แต่ปัจจุบันดับสนิทแล้ว จึงเป็นที่มาว่าบริเวณป่ารอบ ๆ เขากระโดงเป็นป่าที่อุมสมบูรณ์เพราะดินที่นี่เป็นดินภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุมาก ในช่วงหน้าฝนบริเวณเขากระโดงแห่งนี้จะมีเห็ดป่างอกจำนวนมาก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับชาวเมืองบุรีรัมย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และบริเวณที่เป็นปล่องภูเขาไฟ ปัจจุบันมีการสร้างสะพานแขวนให้นักท่องเที่ยวได้เดินดูธรรมชาติรอบ ๆ และเป็นจุดเช็คอินสำคัญอีกจุดหนึ่งของคนที่เดินทางมาเยือนเขากระโดงแห่งนี้ จุดเช็คอินจุดที่สามของบทความนี้ ขอพาออกนอกอำเภอเมืองไปไม่ไกล นั่นก็คือ วัดระหาน (เกาะแก้วธุดงคสถาน) อยู่ที่ ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ประมาณ 20 กิโลเมตร ติดถนนสายบุรีรัมย์ – มหาสารคาม ภายในวัดล้อมรอบด้วยหนองน้ำ ป่าต้นยางนาขนาดใหญ่ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สงบร่มรื่นเป็นอย่างมาก เมื่อขับรถเข้าไปยังตัววัด เราจะเห็นนกยูงอยู่ตลอดสองข้างทาง บางตัวรำแพนอวดความสวยงามของหาง ราวกับว่ามันกำลังต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความเต็มใจ เมื่อขับรถไปถึงด้านในสุดของวัด เราจะเห็น พระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายใน ด้านหน้าเจดีย์เป็นศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้สักการะ พระมหาธาตุรัตนเจดีย์ มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นที่ 1 ใช้ประโยชน์เป็นศาลาอเนกประสงค์ ปัจจุบันใช้เป็นที่ประดิษฐานสรีรสังขารของพระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัด ให้กับผู้ที่นับถือองค์หลวงปู่ได้เข้ามากราบไหว้สักการะ ชั้นที่ 2 เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของพระสงฆ์ ชั้นที่ 3 เป็นอุโบสถ พิพิธภัณฑ์และที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การได้มาเที่ยววัดแห่งนี้ นอกจากเราจะได้ทำบุญ กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว เรายังได้ซึมซับบรรยากาศภายในวัดที่มีความสะอาด สงบ และร่มรื่น ธรรมชาติของวัดแห่งนี้ยังคงอุดมสมบูรณ์สมกับที่เป็นเขตอภัยทาน เราสามารถมองเห็นนกยูงที่อยู่ตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยที่ไม่ต้องมองมันผ่านกรงเหล็ก บางตัวรำแพนอวดหางอันสวยงามให้เราชมฟรี ๆ กันเลย สถานที่ 3 แห่งที่ผู้เขียนพาไปเช็คอินในบทความนี้ เป็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น ยังมีจุดเช็คอินอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวที่ต้องมต์เสน่ห์ของจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ไปสัมผัส อย่าลืมมาเช็คอินที่บุรีรัมย์นะคะ ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน