ในปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งส่งผลต่อสภาพสังคมในด้านต่าง ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษานั้นส่งผลกระทบโดยตรง เนื่องจากต้องพัฒนาทักษะ และกระบวนการต่าง ๆของนักเรียน ให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่กำลังเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปัจจุบัน แต่หากเรามองภาพตามความเป็นจริงนั้น การที่จะพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการขยายตัวของสังคมดิจิทัลนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่จะพัฒนานักเรียนทุกคนให้สามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองจนมีทักษะที่พึงประสงค์เนื่องจากความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะความต่างของโรงเรียนซึ่งเราจะเห็นได้ชัดว่าโรงเรียนขนาดใหญ่กับโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขนาใหญ่มีข้อได้เปรียบในการให้นักเรียนเข้าถึงและได้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆอย่างเพียงพอ แต่ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กนั้นขนาดแคลนทั้งอุปกรณ์และบุคลากรที่เชี่ยวชาญประการที่สองคือความพร้อมของนักเรียน สภาพครอบครัวของนักเรียนที่แต่ละครอบครัวมีสภาพที่แตกต่างกัน เช่นเด็กที่ครอบครัวมีฐานะปานกลางจนไปถึงดีเด็ก ๆเหล่านี้มีโอกาศที่จะได้ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆจากที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้เด็กเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง แต่เด็กที่ครอบครัวมีฐานะยากจนโอกาศที่เขาจะได้จับต้องสิ่งเหล่านี้ นั้นเป็นไปได้ยาก บางครอบครัวอาจจะมีมือถือแต่เป็นรุ่นเก่าที่โทรได้เพียงอย่างเดียวแต่ไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ จากปัญหาทั้งสองข้อในข้างต้นเราจะเห็นได้ว่าการพัฒนาการศึกษาให้เท่าทันเทคโนโลยีนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่ ทั้งด้านความพร้อม ด้านสภาพทางครอบครัวดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น เป็นปัญหาที่เราทุกคนต่างมองเห็น แต่ปัญหาไม่ได้มีเพียงเท่านี้ยังมีในส่วนอื่น ๆที่เรายังไม่ได้พูดถึงแต่หากเราเป็นบุคลากรทางการศึกษาแล้วเราจะแก้ไข ปัญหาเหล่านี้อย่างไร เพื่อให้เกิดการจัดการศึกษาที่มีความเท่าเทียม เท่าทัน ในสังคมดิจิทัลต่อไป เรื่องโดย : Andriosหมายเหตุ : ภาพที่ใช้ในงานเขียนทั้งหมดผู้เขียนได้ทำการถ่าย จัดทำขึ้นใหม่ ตลอดจนออกแบบภาพต่าง ๆ ขึ้นมา ไม่ได้ใช้ภาพจากแหล่งอื่น ๆ