ความใฝ่ฝันของนักวิ่งอย่างหนึ่งคือ ครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องผ่านมาราธอนให้ได้ มาราธอนคือ การวิ่งด้วยระยะ 42.195กิโลเมตร ซึ่งมันยากมาก ๆ กว่าจะก้าวผ่านมาถึงมาราธอนได้ เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ Sakanaj. เราเป็นอีกหนึ่งคนที่ตั้งใจไว้ว่า เราต้องผ่านมาราธอนให้ได้ ซึ่งสนามที่เราตั้งใจจะไปคือ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ กลุ่มเรามี 5คน 4คน ลง Full อีก 1คนลงHalf เรามีเวลาซ้อม 3เดือนก่อนลงสนามจริง จำได้ว่าช่วงที่ต้องซ้อมคือ ช่วงฝุ่น PM 2.5 เหมือนตอนนี้เลย เราซ้อม outdoor 2เดือน อีก 1เดือนฝุ่นลงจัดจนค่าฝุ่นเกิน 200 ดังนั้นเราต้องซ้อมวิ่งลู่แทน ซึ่งทำให้ความมั่นใจลดลงไปมาก ความกลัวในการลงสนามมีเพิ่มมากขึ้นอีก ตั้งเป้าไว้ต้องเข้าให้ถึงเส้นภายใน 6 ชั่วโมงน่าจะไม่ไหว ถึงเวลาต้องออกเดินทางแล้ว คืนก่อนลงสนามเรานอนกันเร็วมาก เพราะต้องตื่นกันตั้งแต่ตี1 เพื่อไปถึงสนามตี2 เพื่อนเรา 3คนอยู่บล็อค C ส่วนเราอยู่บล็อค D เราตื่นแต้นมาก พอแตรดังเริ่มปล่อยตัว เราวิ่งไปถึงแค่จุดปล่อยตัวเชือกผูกรองเท้าเราหลุด 1ข้าง ต้องแหวกทางเพื่อมาผูกเชือกรองเท้า พอวิ่งไปได้ประมาณ 2กิโล เชือกรองเท้าอีกข้างก็หลุดอีก เราท้อแล้ว เราหมดหวังแล้ว เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ Sakanaj. พอวิ่งไปได้ 5กิโล ก็หลุดจากสนามเซอร์กิต ด้วยความหมดหวัง เราก็แวะเข้าห้องน้ำแบบตามสบายพัก ในเมื่อไม่เห็นเพื่อนเราแล้ว เราก็เลยวิ่งไปเรื่อย ๆ เพราะไม่มีความกดดันแล้ว พอวิ่งเข้าไปทางหมู่บ้าน ไม่น่าเชื่อ ชาวบ้านอยู่เต็มข้างทางไปหมด นี่มันตี4 แต่ชาวบ้านมานั่งรอดูพวกเราวิ่ง ปรบมือ ส่งเสียงร้อง ร้องเพลง คือมันดีมาก มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ยิ่งพอเริ่มมีแสงสว่าง คนยิ่งเยอะ เราไม่เห็นว่าช่วงไหนของทางวิ่งจะไม่มีคนเชียร์เลย น้อง ๆ ที่ยืนเชียร์พวกเราส่งมือมาขอจับมือนักวิ่งด้วย เหมือนพวกเราเป็นนักกีฬาผู้มีเกียรติมาก เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ Sakanaj. ยิ่งพอเข้าในเมือง ทหาร ข้าราชการ นักเรียน ก็จะพากันเปิดเพลงเต้นตามไหล่ทางไปตลอด เราแวะเต้นกับพวกน้อง ๆ ด้วย มันส์มาก พอประมาณกิโลที่ 35 เราเห็นกลุ่มอีริคพากันเดินกลับกัน เราเข้าไปวิ่งขอจับมือเค้าด้วย ดีใจมาก แล้วเราก็วิ่งต่อไปจนเข้ากิโลที่ 38 ก็มีเสียงทัก “เฮ้ย! ไม่รอเลย” เราหันไปมอง เราตกใจมาก เพื่อนเราเอง ที่เราตกใจคือ ก็เราเสียเวลาตอนเริ่มวิ่งไปตั้งเยอะ แล้วเราก็ไม่เห็นเพื่อนแม้แต่คนเดียว แต่กลับกลายเป็นว่า เพื่อนคนที่วิ่งเร็วที่สุดในกลุ่ม ดันวิ่งตามหลังเรา เราบอกเพื่อนไปว่า ไปก่อนเลยไม่ต้องรอ ไม่ไหวแล้ว ก่อนเข้าเส้นชัยประมาณ 2กิโล มีพี่ผู้ชายมาทักเรา “น้อง ไปกัน เลิกเดินได้แล้ว” แล้วพี่เค้าก็ลากเราไป และก่อนเข้าเส้นชัยประมาณ 200เมตร เราฮึดสุดแรง เร่งแซงเพื่อนเรา และแล้วเราก็เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 5ชั่วโมง 15นาที เราเข้าเส้นชัยเป็นที่1 ของกลุ่ม เป็นครั้งแรกด้วย ดีใจสุด ภูมิใจสุด และที่ภูมิใจกว่านั้นคือ เราไม่บาดเจ็บเลย มีปวดขาบ้างแต่ก็สบาย ๆ เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ Sakanaj. นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเราซึ่งเป็นนักวิ่งสมัครเล่นที่สามารถผ่าน First Full Marathon ได้ด้วยเวลาไม่ถึง 6ชั่วโมง เราขอชมตัวเองแบบไม่อายใครเลยนะ เราว่า “เราเก่ง” เราอดทนวิ่งแบบไม่หยุดเลย 5ชั่วโมง และขอขอบคุณบรรยากาศของ บุรีรัมย์มาราธอน ที่ทำให้นักวิ่งคึกหนักมาก และเราสัญญากับตัวเองไว้ว่า ครั้งที่สองของ Full Marathon ต้องตามมาแน่นอน เครดิตภาพปก : เจ้าของบทความ Sakanaj.