อื่นๆ

เรื่องสยอง : ศพหาย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องสยอง : ศพหาย

เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่ผมยังเป็นหนุ่ม ในเวลานั้นผมได้บวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน มันเป็นวัดที่เงียบสงบที่สมัยนี้แทบจะหาวัดบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้แล้ว วัดนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างเคร่งในการปฏิบัติ ผมจึงต้องนุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่นี่ก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ผมบวชกับเพื่อนพร้อมกัน 3 คน จึงไม่ค่อยกลัวและคิดเรื่องผีสางเท่าไหร่ ท่านเจ้าอาวาสให้พวกผมพักกันที่กุฎิ ซึ่งอยู่หลังเมรุพอดิบพอดี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เรากลัวเลยสักนิด

Photo by ahmed adly from PexelsPhoto by ahmed adly from Pexels

ผมและเพื่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าที่มาบวชนี้ ก็เพื่อทำตามคำขอของพ่อแม่ ที่หวังว่าลูกชายคนเดียวจะได้บวชห่มผ้าเหลือง เราก็อยู่กันไปอย่างนั้น จนกระทั่งถึงเวลาอีกประมาณ 3 วันจะบวช ไอ้แก้วเพื่อนของผมมันก็คิดขึ้นมาได้ว่า ไหนๆจะบวชแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะสึกเมื่อไหร่ เราสามคนออกไปเที่ยวกันดีกว่า ตามภาษาวัยรุ่นคึกคะนอง ไอ้แก้วกับไอ้ชัยเห็นพ้องต้องกันว่าในคืนนี้เราควรจะหนีออกไปเที่ยว กว่าจะเช้าเราก็กลับมาถึงแล้ว ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ ผมเป็นคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับพวกมัน แต่จนแล้วจนรอด มันก็ชวนผมออกไปด้วยจนได้

Advertisement

Advertisement

ในตอนนั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะเอาเงินจากไหนไปกัน ในเมื่อเงินติดตัวผมก็ไม่มีสักบาท แต่ไอ้แก้วมันก็บอกกับผมว่าไม่ต้องเป็นห่วง มันพอจะมีอยู่บ้าง เราจึงตัดสินใจกันว่าจะไปนั่งดื่มที่คาราโอเกะแห่งนึงใกล้ๆ  พอเสร็จแล้วตี 1 ตี 2 ก็จะกลับ ไอ้แก้วก็เลยให้น้องชายมัน ขี่รถมอเตอร์ไซค์มารับเราสามคน

เมื่อผมไปถึงที่ร้านคาราโอเกะ ความรู้สึกผิดก็พรั่งพรูเข้ามา ไอ้ชัยและไอ้แก้วไม่รีรอที่จะสั่งเหล้ามาดื่ม พร้อมกับ เรียกผู้หญิงหากินมานั่งด้วย ไอ้ผมที่รู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ปฏิเสธที่จะดื่มเหล้ากับพวกมัน และพยายามออกหน้าออกตาให้รู้ว่าผมต้องการจะกลับวัด

พวกเรานั่งดื่มกันจนถึงดึก ผมที่ไม่ได้ดื่มกับพวกมันด้วย เซ้าซี้ที่จะให้พากลับวัดหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไอ้ชัยและไอ้แก้ว จะกลับด้วยเลย ดูเวลาเป็นเวลาประมาณ 01:30 น ไอ้ชัยไอ้แก้วหลังจากเดินกลับมากันจากห้องน้ำ มันก็ไถ่ถามราคาให้บริการของผู้หญิงหากินเหล่านั้น ตกลงกันได้ ผู้หญิงบริการชักชวนไอ้แก้วและไอ้ชัยไปที่ห้องของเธอ ด้วยเหตุผลว่าจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าห้อง ไอ้แก้วไอ้ชัยก็ตอบตกลงในทันที

Advertisement

Advertisement

ผมที่นั่งงงอยู่ตรงนั้น ก็เลยบอกกับพวกมันว่า "ไอ้แก้วเดี๋ยวกูให้น้องมึงไปส่งกูก่อนนะ" พวกมันตอบตกลง จากนั้นเราก็แยกย้ายกัน

ผมกลับมานอนที่กุฏิด้วยความง่วงมาก พร้อมกับปมที่รู้สึกผิดในใจ นอนไปไม่ได้เท่าไหร่ผมก็หลับไป สะดุ้งตื่นมาอีกที ก็ได้ยินเสียงระฆังวัดตีลั่น ผมลุกขึ้นมองซ้ายมองขวาเพื่อหา ไอ้แก้วและไอ้ชัยแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของพวกมันกลับมาเลย ผมลนลานไปหมด ไม่รู้จะแก้ตัวให้พวกมันยังไง แต่เมื่อยื้อเวลาไม่ได้แล้วผมจึงรีบวิ่งไปทำวัดที่ศาลา ก็พบว่าพระทุกรูปอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและกำลังทำวัดอยู่จึงยังไม่มีใครถามอะไร

Photo by Wouter de Jong from PexelsPhoto by Wouter de Jong from Pexels

หลังจากทำวัตรเสร็จ ท่านเจ้าอาวาสก็มาถามผมว่า ทำไมไม่ตามไอ้แก้วชัยมาด้วย เมื่อท่านเจ้าอาวาสซักไซ้ไปเรื่อยๆ ผมก็ไม่กล้าโกหกพระ ในที่สุดก็ต้องบอกความจริงกับท่าน

Advertisement

Advertisement

ถึงเวลาฉันเพลเสร็จเรียบร้อย ก็ยังไม่มีวี่แววของไอ้แก้วและไอ้ชัยกลับมาเลย จนกระทั่งตอนบ่าย ครอบครัวไอ้แก้วและไอ้ชัยก็ร้องห่มร้องไห้กันมาที่วัด สอบถามกันไปมาจึงได้ความว่า เมื่อคืนนั้น หลังจากที่ไอ้แก้วไอ้ชายออกไปกับหญิงบริการ ในขณะขับรถกลับประมาณ 6 โมง มัน 2 คนเมามาก รวมถึงน้องไอ้แก้วด้วย ทั้ง 3 คนประสานงาเข้ากับรถบรรทุก 10 ล้อ เสียชีวิตในทันที พ่อแม่ของไอ้แก้วและไอ้ชัย ซักไซ้ผมกันยกใหญ่ เนื่องจากผมเป็นคนที่อยู่กับมัน 3 คนเป็นคนสุดท้าย

จากงานบวชก็ต้องเปลี่ยนเป็นงานศพ  เหลือผมเพียงคนเดียวที่ได้บวช  พ่อแม่ของไอชัยไอแก้วก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ผม และ แวะเวียนมาทำบุญเรื่อยๆ

ผมบวชได้ 3 พรรษา ก็ยังไม่ได้สึก พอถึงฤกษ์ยามที่กำหนดสึกก็จะมีเรื่องให้ไม่ได้สึกทุกที ตอนก่อนบวช กำหนดไว้แค่ 1 พรรษา ก็รู้สึกนานแล้ว แต่จนมาถึงตอนนี้ปาเข้าไป 3 พรรษา แต่กลับรู้สึกเหมือนพึ่งก้มกราบต่อหน้าอุปัชฌาย์เมื่อวาน เวลาผ่านไปโดยที่ผมเคร่งปฎิบัติเป็นอย่างมาก หวังแค่ว่าไอแก้วกับไอชัยจะได้บุญบ้าง วัดยังคงเงียบสงบ จนกระทั่งเกิดเรื่อง ศพหาย

Photo by Pixabay from PexelsPhoto by Pixabay from Pexels

ศพในป่าช้าหลังวัดมีลักษณะของการถูกขุดเพื่อนำออกไป เรื่องไปถึงหูชาวบ้าน ก็มาโวยวายกันยกใหญ่ หลายวันผ่านไปโดยที่ยังมีศพหายไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นภาคอีสานและติดกับเขมร เรื่องราวของคนเล่นของ มนต์ดำจึงมีเยอะ ในตอนนั้นทุกคนเชื่อว่ามีพวกหมอผี มาขุดศพไปทำพิธี เจ้าอาวาสจึงตกลงกับผู้ใหญ่บ้านว่าจะซุ้มดูกันในคืนนี้

ผม และ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าอาวาส พระในวัด ซุ้มกันอยู่แถวป่าช้าจนเวลาประมาณเที่ยงคืน ก็ยังไม่มีวี่แววของพวกหมอผีมา เรารอกันจนถึงตี 2 ก็ตกลงจะแยกย้ายกันกลับ

ทันใดนั้นเองเสียงของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาจนแสบแก้วหู มันเป็นเสียงแหลมสูง ทำพวกเราทุกคนหยุดชะงัก  ไม่นานนักพวกเราก็สังเกตุเห็นร่างของอะไรบางอย่างสองร่าง สูงราวยอดเมรุ สีผิวขาวซีด ผมแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น เกือบจะวิ่งแต่ท่านเจ้าอาวาสคว้าแขนไว้ ผู้ใหญ่บ้านตาค้างตกตะลึงแทบจะเป็นลม เจ้าอาวาสกระซิบเบาๆข้างๆหูผมว่า "เปรต"

เปรตสองตัวนั้นเดินมาหยุดที่บริเวณป่าช้า ก่อนจะค่อยๆขุดหลุมศพทีะหลุมๆ และ หยิบโครงกระดูกขึ้นมากินทีละนิดๆ เรายังแอบมองไม่ละสายตา จนกระทั่งเจ้าเปรตสองตัวขุดหลุมๆหนึ่งขึ้นมา มันคือหลุมที่โบกปูนด้านบน ซึ่งผมจำได้อย่างดีว่า มันคือหลุมของไอชัยและไอแก้ว เปรตสองตนนั้นแน่นิ่งไปเพียงคู่

Photo by Mitja Juraja from PexelsPhoto by Mitja Juraja from Pexels

ก่อนจะแสดงกิริยาอะไรบางอย่างออกมา แทนที่พวกมันจะกินเหมือนศพอื่นๆ  แต่กลับยกโครงกระดูกนั้นมากอด เสียงหวีดของมันดังครวญครางไปทั่วบริเวณ เหมื่อคนร้องไห้ แล้วเจ้าอาวาสก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "ไอแก้ว ไอชัย" ผมเข้าใจที่เจ้าอาวาสพูดในทันที ก่อนศพสองตนนั้นจะลุกขึ้นเดินหายไปในความมืด

พอเช้าเรามาประชุมกันถึงเรื่องนี้ เจ้าอาวาสบอกผมว่า วันที่ไอแก้วไอชัยและผมออกไปเที่ยวกัน เงินในตู้บริจาคหายไปเกือบหมด คงจะเป็นไอแก้วไอชัยนี้แหละที่เอาไป พอพวกมันตายแต่ไม่รู้ตัวว่าตาย แล้วก็กลายเป็นเปรต เพราะทำผิดต่อพุทธศาสนา พวกมันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆกลายเป็นเปรต จนมาเจอศพตัวเองเค้า ขณะมาหาศพกินเมื่อคืน

ผมได้ยินก็แทบลมจับ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พวกเราตกลงกับญาติโยมของไอชัยว่าเราจะจัดงานทำบุญใหญ่ให้พวกมันสองคน หลังจากนั้นก็ไม่มีศพหายอีกเลย ผมยังคงเคร่งปฎิบัติเพื่ออุทิศให้มันสองคน จนกระทั่ง 7 พรรษา ผมจึงสึกออกมาดูแลธุรกิจที่บ้านหลังจากปู่ผมเสีย


คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์