สวัสดีทุกคนครับ พอดีว่าผมได้มีโอกาสไปที่จังหวัดนครพนมเพื่อร่วมทำกิจกรรมสร้างวัด และเมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้วก็ยังมีเวลาอีก 1 วันก่อนกลับกรุงเทพฯ ผมเลยคิดว่าไหน ๆ ก็มาแล้วเลยลองค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวดูว่ามีที่ไหนที่น่าไปบ้าง พิกัดที่ผมอยู่ตอนนั้นจะอยู่ที่จังหวัดนครพนมแต่อีกนิดเดียวก็จะข้ามเข้าเขตจังหวัดบึงกาฬแล้ว ผมเลยค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬด้วย และผมก็ได้เจอกับวัดภูทอก ซึ่งจะเป็นการดีเลยถ้าได้เที่ยวแล้วยังได้ทำบุญไหว้พระไปด้วยวันรุ่งขึ้นผมก็เดินทางออกจากที่พัก เพื่อไปที่วัดภูทอกตั้งแต่เช้า ๆ เส้นทางไปวัดภูทอกนั้นค่อนข้างจะเป็นชนบทมาก ๆ ถนนไม่ใหญ่ เงียบสงบสุด ๆ และยังได้ขับรถผ่านเหมือนจะเป็นบึงน้ำที่มีขนาดใหญ่และยาวมาก ๆ ซึ่งบึงน้ำที่ว่านี้คนที่บึงกาฬเค้าเรียกว่า หาดคำสมบูรณ์ ที่เปรียบเสมือนเป็นทะเลของชาวบึงกาฬเลยครับ เมื่อขับรถไปอีกสักพักผมก็มาถึง วัดภูทอก โดยจะมีป้ายชื่อวัดใหญ่ ๆ บริเวณทางเข้าวัด ให้เห็นเลยครับที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)วัดภูทอก จะมีชื่อเต็ม ๆ คือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ซึ่งวัดภูทอกจะตั้งอยู่ที่ ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ โดยมีผู้ก่อตั้งคือ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เมื่อขับรถเข้าไปภายในวัดที่สังเกตคือวัดมีความร่มรื่น และมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ มีการตกแต่งต้นไม้อย่างสวยงาม แต่จุดที่ทำให้วัดภูทอกนั้นกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนมากมายนั่นก็คือ สะพานไม้และบันไดไม้ที่เราสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ บนภูทอกได้ โดยสะพานไม้จะสร้างวนรอบภูทอกทำให้สามารถเดินชมวิว ชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกได้แบบ 360 องศาเลยครับ ซึ่งภูทอกจะมีการแบ่งเป็นชั้น ๆ ให้เดินขึ้นไป โดยมีทั้งหมด 7 ชั้นที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ไหน ๆ ก็มาถึงที่วัดภูทอกแล้ว ผมก็คงจะไม่พลาดที่จะขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนสะพานไม้อย่างแน่นอนครับ ว่าแล้วก็เริ่มขึ้นเลยครับ บริเวณทางเข้าก่อนที่จะขึ้นไปจะมีป้ายติดบอกในเรื่องของการแต่งกายให้สุภาพ และบอกว่าที่แห่งนี้เป็นสถานปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ ให้เยี่ยมชมด้วยความเคารพ ดังนั้นการที่จะขึ้นไปเยี่ยมชมจึงต้องระมัดระวังเรื่องของคำพูดคำจากันด้วยนะครับที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ทางเดินขึ้นในช่วงแรก จะเป็นบันไดหินเดินขึ้นไป ซึ่งสามารถเดินขึ้นได้แบบไม่ลำบากไม่ต้องปีนป่าย คนเถ้าคนแก่ก็สามารถเดินขึ้นได้ครับ เมื่อเดินไปสักพักจากบันไดหินก็จะเริ่มกลายเป็นบันไดไม้แทนแล้วครับ ถ้าเดินมาถึงส่วนที่เป็นบันไดไม้แล้ว ลองมองไปที่ด้านล่างจะเห็นว่าเราเดินขึ้นมาสูงระดับนึงแล้วครับ ระหว่างทางเดินนั้นจะมีป้ายชี้บอกทางว่าให้เดินไปทางไหน ทางไหนไปไหนแล้วระยะทางอีกกี่เมตร ดังนั้นไม่ต้องกลัวหลงทางนะครับ ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ในการเดินขึ้นไปไม่ใช่ว่าจะต้องเดินขึ้นบันไดตลอดทางนะครับ เพราะจะมีทางลาดให้เดินเป็นช่วง ๆ ซึ่งทางลาดจะเป็นเหมือนการเดินป่า แต่ไม่ใช่เป็นป่ารกนะครับ แค่บรรยากาศเหมือนกับการเดินป่าซึ่งทางเดินนั้นจะสะดวกสบายมากครับ เมื่อเดินขึ้นไปสูงขึ้นไปอีก ก็จะเจอกับทางบันไดไม้ที่จะให้เดินเข้าไปในช่องเขา ทำให้ได้บรรยากาศและความรู้สึกคล้าย ๆ กับการเดินเข้าถ้ำไปอีกแบบนึงครับที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)เมื่อพ้นช่วงนี้ไปก็จะพบกับบริเวณคล้าย ๆ กับห้องโถง ซึ่งมีพื้นที่ราบเรียบ ดูแล้วเหมือนเป็นที่สำหรับการประชุมหรือเป็นลานสวดมนต์ที่สามารถให้คนมารวมกันตรงนี้ได้หลายคนมาก ๆที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)เมื่อเดินขึ้นไปอีกก็จะถึงจุดที่ไหว้พระครับ บนนี้จะเป็นเหมือนชั้นที่เป็นพื้นราบกว้างมาก ๆ มีการเทปูนให้ราบเรียบและยังมีจุดให้ไปยืนชมวิวกันด้วย ขึ้นมาถึงชั้นนี้ก็ต้องไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแด่ตัวเอง บนนี้จะมีลมพัดที่เย็นตลอดเวลา สามารถนั่งพักจากการเดินขึ้นมาเหนื่อย ๆ ได้ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)หลังจากที่นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วคราวนี้ก็จะถึงจุดที่ตั้งใจจะเดินขึ้นมานั่นก็คือ บริเวณสะพานไม้ที่อยู่รอบ ๆ ของภูทอก ซึ่งจากจุดที่ไหว้พระเดินขึ้นไปอีกไม่ไกลก็จะถึง เมื่อถึงสะพานไม้ที่เป็นทางเดินต้องบอกเลยว่า ภาพที่ได้เห็นนั้นสวยงามมากจริง ๆ และเป็นที่แรกที่ผมได้เห็นอะไรแบบนี้ด้วย การเดินไปตามสะพานไม้นั้นจะได้เพลินเพลินกับทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่สำหรับคนที่กลัวความสูงอาจจะทำใจลำบากนิดนึงนะครับ เพราะมันค่อนข้างจะเสียวมาก ๆ ถ้ามองลงมาที่เท้าของตัวเองจะเห็นตามร่องสะพานที่สามารถมองเห็นไปถึงพื้นล่างได้ซึ่งน่ากลัวและหวาดเสียวพอสมควรครับ ในบางจุดก็เหมือนสะพานดูไม่ค่อยแข็งแรง ดังนั้นการเดินต้องเดินอย่างระมัดระวังมาก ๆ ห้ามวิ่งห้ามกระโดดอย่างเด็ดขาด ตัวผมเองนั้นก็เดินไปได้สักระยะนึงก็ต้องเดินกลับเพราะรู้สึกว่าไม้มันยุบ ๆ อยู่บ้าง หรืออาจจะเป็นเพราะผมกลัวไปเองรึป่าวอันนี้ไม่แน่ใจ แต่เพียงเท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้วครับที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)ที่มาภาพ Tae Rattawat (ผู้เขียน)สำหรับการมาที่วัดภูทอก บึงกาฬ ในครั้งนี้ถือว่าได้ทั้งทำบุญ และได้ท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งการได้เดินบนสะพานไม้ที่อยู่บนหน้าผาที่มีความสูง ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยได้ทำที่ไหนมาก่อนด้วย ไหนจะยังได้เดินสัมผัสกับธรรมชาติไปตลอดทางอีก เรียกได้ว่าการมาที่ วัดภูทอก นั้นได้อะไรมากมายหลายอย่างจริง ๆ ครับ ใครที่มีโอกาสไปที่จังหวัดบึงกาฬ ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ ที่มาภาพปก Tae Rattawat (ผู้เขียน)