สวัสดีครับผม ช่วงนีัอากาศตอนกลางวันแถวบ้านผู้เขียนเนี่ยค่อนข้างจะร้อนมากเลย แต่ว่าร้อน ๆ แบบนี้เนี่ยเป็นผลดีอย่างนึงคือจะทำให้ผักกูดแดงในบึงใกล้ ๆ บ้าน พากันออกยอดอ่อนมารับกับแสงแดดกันงามมาก และวันนี้ผู้เขียนจะพาไปดูและรู้จักกับเจ้าผักชนิดนี้กันว่ามันมีรูปร่างแบบไหนยังไง พร้อมแล้วไปกันเลย ผักกูดแดง หรือ ลำเท็ง จัดเป็นพืชตระกูลเฟิร์นและมอส จะชอบเกิดอยู่ตามบึงหรือลำห้วยที่มีน้ำขังเจิ่งนองตลอดทั้งปี ลักษณะของต้นจะเป็นเถาวัลย์ขึ้นเกาะอยู่ตามต้นไม้ในบึงและพื้นดินเป็นกอ ๆ ยอดอ่อนจะมีสีเขียวบ้าง สีเขียวปนแดงบ้าง มีรสชาติจืดและรสสัมผัสที่กรอบ สามารถนำมาทำอาหารได้หลายชนิดเลย แต่ที่ผู้เขียนจะมาเก็บเอาในวันนี้ ตั้งใจจะเอาไปให้แม่แกงใส่ปลาแห้ง ซึ่งเป็นเมนูโปรดของผู้เขียน การจะลงไปเก็บผักกูดแดงนั้น เราต้องระวังกันนิดนึงเพราะต้องเดินแช่ขาอยู่ในบึงที่มีน้ำขังตลอดเวลา จึงต้องใส่ถุงเท้าขายาวและกางเกงขาวยาวให้มิดชิด เพื่อกันอันตรายจากหญ้า กิ่งไม้ และสัตว์มีพิษต่าง ๆ ซึ่งปรกติเวลาไปในบึงเนี่ย มีความเสี่ยงที่จะเจอกับปลิงด้วยนะ แต่ในป่าผักกูดที่ผู้เขียนไปวันนี้นี่ไม่เจอเลย ถือว่าโชคดีไป เมื่อเข้าไปในป่าผักกูดก็จะเห็นยอดอ่อนที่พึ่งแตกยอดออกมาใหม่โผล่โชว์ขึ้นมาให้เห็น สายตาคนเก็บก็ต้องดีและคอยสังเกตนิดนึง เพราะบางทีบรรดายอดอ่อนทั้งหลายก็ชอบอยู่แอบตามใบรก ๆ หากมองแบบผิวเผินจะไม่ค่อยเห็น การเลือกเก็บนั้น จะนิยมเลือกเก็บเอาเฉพาะยอดอ่อนที่มีลักษณะงอและอวบ เพราะจะได้รสชาติที่กรอบอร่อย แต่ก็ต้องใช้เวลาในการหาเอายอดแบบนี้ค่อนข้างนาน ผู้เขียนจึงเก็บเอายอดอ่อนที่มันกำลังจะโตเป็นใบ แต่ยังอ่อนและกรอบไม่ต่างกันมาด้วย ค่อยเอามาเด็ดและคัดยอดตอนจะทำอาหารอีกที เพราะหากปล่อยทิ้งเอาไว้ให้โตเป็นใบแก่คงเสียดายแย่ และไม่ต้องกังวลว่าถ้าเด็ดไปแล้วอีกเมื่อมาไหร่ถึงจะเก็บได้อีก เพราะผักกูดแดงออกยอดไวมาก เรียกได้ว่ามาเก็บเอาวันต่อวันก็ยังได้ พอได้มาแล้วก็นำมาให้แม่เตรียมเอามาทำอาหาร โดยจะเอาผักกูดแดงทั้งหมดไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วทำการเด็ดคัดเอาแต่ยอดอ่อน หากยอดไหนแก่ไป หรือส่วนไหนที่แข็งไปก็จะเด็ดทิ้งไป เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมจะนำไปทำอาหารได้เลย จะแกงใส่ปลาแห้งก็อร่อย ลวกใว้จิ้มกับน้ำพริกก็เด็ดมาก และหากเอามาอาหารไม่หมดก็สามารถที่จะเก็บใส่ถุงพลาสติกแช่เอาไว้ในตู้เย็น เอาไว้ทำอาหารกินในวันอื่นได้อีก ผักกูดแดง นั้นแถวบ้านผู้เขียนจะขึ้นอยู่แต่เฉพาะในบึงเท่านั้น ไม่สามารถถูกนำมาปลูกไว้ตามบ้านได้เลย เพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างแห้งแล้ง หากมีน้ำไม่เพียงพอผักกูดแดงก็จะตาย และในบึงนั้นก็มีป่าผักกูดแดงเป็นจำนวนมากมายหลายสิบไร่ คนในหมู่บ้านจึงสามารถที่จะมาเก็บเอาไปทำอาหารหรือเอาไปขายกันได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการหวงห้ามแต่อย่างใด ถือเป็นแหล่งอาหารอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญกับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของคนชุมชนเสมอมา รูปภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียน