"เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา" ประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศทั้งมี ภูเขา เป็นที่ราบ แอ่งกระทะ โดยรวมสภาพพื้นที่น้ำท่วมถึงอุดมสมบูรณ์พร้อมกับภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ทำให้พืชพันธุ์ธรรมชาติสมบูรณ์สวยงาม และรอยเลื่อนของประเทศไทยก็มีหลายรอยเลื่อนเช่น รอยเลื่อนปัว รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ และอื่นๆ ทำให้พื้นที่ก่อนที่จะเป็นประเทศไทยเคยมีการประทุของภูเขาไฟ แต่ปัจจุบันก็ดับสนิทแล้วทุกที่ ฉะนั้น วันนี้ผมเลยจะพาทุกคนไปพบกับ หนึ่งในภูเขาไฟของประเทศไทยที่ดับสนิทแล้ว พร้อมทั้งชื่นชมธรรมชาติและสักการะองค์พระประจำจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมแล้วไปชมกันเลย... "วนอุทยานเขากระโดง" เป็นวนอุทยานที่มีการเปิดให้ชมร่องรอยของปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว และมีอายุน้อยที่สุดของภูเขาไฟในประเทศไทย อายุราว 3-9 แสนปี วนอุทยานแห่งนี้จัดตั้งเมื่อ 22 มีนาคม 2521 ทางขึ้นไปชมสามารถขึ้นไปสองทางคือ "เดินขึ้นบันไดนาคราชทั้งหมด 297 ขั้น" บอกเลยว่าเหนื่อยมากครับแต่ขึ้นไปถึง คุ้มกับที่เหนื่อยแน่นอนครับ ทางที่สองคือ "ขึ้นรถสองแถวไป" ข้างบนเขาก็จะมีองค์พระสุภัทรบพิตรให้กราบสักการะ ขอพร ต้นโยนีปีศาจ ใครมาต้องได้มาเจอเพราะเป็นตำนานพื้นบ้านของชาวบุรีรัมย์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือปากปล่องภูเขาไฟที่มีปากปล่องที่สมบูรณ์ที่สุด เรามาดูกันเลยครับว่าเป็นยังไงบ้าง... รถสองแถวสำหรับขึ้นไปเที่ยวชมวนอุทยาน ไป-กลับ 30 บาท องค์พระสุภัทรบพิตรที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ก่อนตั้งอุทยานอีกครับ ผมได้มีโอกาสไปกราบไหว้ รู้สึกดีและสงบมากครับ ปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ด้านบนจะเป็นสะพานลาวาหรือสะพานแขวน สำหรับชมปากปล่องภูเขาไฟ พร้อมกับชมความงามของธรรมชาติบนภูเขารอบๆข้าง กระรอกเยอะมากเลยครับในป่าไม้ข้างๆ และสุดท้ายครับ ต้นโยนีปีศาจหรือต้นมะกอกโคก ต้นไม้ที่ได้ชื่อจากตำนานพื้นบ้านอย่าง ตำนานของปาจิตกับอรพิมพนั่นเองครับ เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับ "วนอุทยานเขากระโดง" แห่งนี้ ถ้ามีโอกาสหรือผ่านไปผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ก็อย่าลืม ไปเที่ยวชมปากปล่องภูเขาไฟ ชื่นชมธรรมชาติ แล้วก็สักการะองค์พระสุภัทรบพิตรกันได้นะครับ รับรองว่าต้องประทับใจที่ได้มาแน่นอนครับ... ที่ตั้ง : ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. ค่าเข้าชม : ฟรี Tel. 044 637 349