"เมื่อใจมันเซทะเลคือจุดหมาย" วลีเด็ดเสมือนคำคมประจำชาติของชาวอกหัก เมื่อเกิดสภาวะใจเซ จุดหมายทะเลก็ต้องมาแล้วป่ะ แต่จะไปเที่ยวทะเลทั้งที ไปง่ายๆ โลกก็จะไม่จำน่ะสิ ปฏิบัติการตามหาเกาะลับ เกาะแปลกจึงได้เริ่มขึ้น ..................................................................................................... ไปเที่ยวเกาะหวายนะ ห๊ะ เกาะอะไรนะ อยู่ตรงไหนหว่า เมื่อพูดชื่อเกาะหวายเพื่อนทุกคนเป็นทำหน้างงกันทุกราย ถึงกับต้องกาง Google map ชี้พิกัดให้ทุกคนดู ..................................................................................................... ถ้าหากเราพูดว่าเราไปทะเลที่ตราด ทุกคนจะต้องนึกภาพของเกาะช้าง เกาะกูด เกาะขามกันล่ะสิวันนี้จะเราจะพาทุกคนไปใช้ชีวิตติดเกาะบนเกาะเล็กๆลับๆ ที่แอบแฝงตัวเองประหนึ่งลูกเมียน้อยที่เราได้ขุดค้นพบเหมือนเจอสมบัติ ...................................................................................................... สำหรับใครที่ต้องการความสงบ และเป็นคนที่มีความอดทน ย้ำว่าต้องมีความอดทน!!! เราขอแนะนำเกาะนี้เลยเพราะคุณจะซื้อโลกอีกใบนึงได้ด้วยเงิน สามพันกว่าบาท โลกที่คุณจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น โลกที่คุณจะมีความสุขกับตัวเอง การเดินทาง กทม-ตราด มีทั้งรถตู้ และรถทัวร์ แนะนำให้นั่งรถทัวร์เพราะสามารถนอนหงายเหงือกหงายคาง และเหยีดแข้งเหยียดขาได้เต็มที่จ้า รถทัวร์มีของ บขส. กับเชิดทัวร์ ไปเลือกรอบเอาตามสะดวกกันเองน้า เรือ ขึ้นที่แหลมงอบ-เกาะหวาย ของบริษัท seatales เบอร์ติดต่อ 087-7441677 ....................................................................................................... เราจะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้รูปสุดท้ายเน้อ ข้อมูลอื่นๆ อ่านได้จากด้านล่างแต่ละภาพเลยนะ *ภาพทุกภาพถ่ายด้วยครีเอเตอร์เอง* ปล.ถ้าคุณไม่ใช่คนชอบความลำบาก ไม่ชอบการแอดเวนเจอร์ข้ามเกาะนี้ไปเลยนะจ้ะ ปล.1 ถ้าอ่านเอาฮา ก็จะถือว่าเราเป็นเพื่อนแก้เหงา พาคุณท่องเที่ยวผ่านตัวหนังสือ ถ้าอ่านแล้วทำให้อยากไปลองใช้ชีวิตติดเกาะเดินตามรอย ก็ขอขอบพระคุณยิ่ง จะรู้สึกดีใจมากๆ ปล.2 ขออภัย พยายามคุมโทนแล้ว แต่คุมไปคุมมาเหมือนจะคุมสติไม่ได้ DAY 1 หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งมาเป็นเวลา 6 ชม. เท้าก็ได้สัมผัสพื้นน้ำทะเลสักที บนเกาะหวายมีที่พักอยู่ 5 ที่พักถ้วน 1.Good felling (กับข้าวอร่อย เจ้าของใจดี ทรายนุ่มนิ่ม) 2.เกาะหวายบีช รีสอร์ท(หาดทรายสีแปลกตา มีมุมถ่ายรูปเยอะ ) 3.เกาะหวายประการัง (เป็นที่พักที่เดียวที่มีแอร์ และอยู่ไกลจากที่พักอื่นมากๆ จนมีท่าเรือเป็นของตัวเอง) 4.กระท่อมยายมา (บ้านพักเป็นก็คือกระท่อม มีหาดเล็กๆหลายหาด แต่ละหาดคือสวย มีหาดโรแมนติกอยู่ที่นี่ด้วย) ปล.บนเกาะนี้ คุณจะมีไฟใช้แค่ตอน18.00-22.30น.เท่านั้น ยกเว้น เกาะหวายประการังที่มีพักทั้งวันนะจ้ะ ชาตแบตหรือเล่นกับไฟอะไรให้เต็มที่ ก่อนที่จะได้ทดลองเป็นคนตาบอด ปล.1 ถ้าใครซวยมาช่วงที่น้ำจืดมีให้ใช้จำกัด เค้าจะเปิดให้ใช้น้ำแค่วันละรอบเน้อ ดีนะฉันยังมีแต้มบุญ 5.เกาะหวายพาราไดซ์ (ฉันพักที่นี่ มีหาดกว้างที่สุด มีทางขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดิน และมีที่พักเยอะที่สุด ที่พักตามรูปบนนี้คือบ้านหลังที่สวยที่สุด แต่ไม่ได้สบายที่สุด เพราะมันมีแค่เตียงกับมุ้งเท่านั้น คนขี้ร้อนคือเอาตัวเองมาฆ่าตัวตายเลยนะคะ และอยู่ติดหน้าหาดมากที่สุด มากจนคิดว่านอนๆอยู่น้ำมันจะท่วมขึ้นมาป่าวน้า ที่สำคัญ น้องไม่มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำรวมก็นะ ผ่านมาหลายสิบปี อดทน ใครไม่ชอบก็ทิชชู่เปียกยาวๆไป ใครจะอาบน้ำก็ไปอาบตอนมีไฟ คงไม่อยากใช้ไฟฉายเดินสุ่มๆไปใช่ไหมล่ะ ราคาเริ่มต้นที่ห้องละ500บาท นอนได้มากสุด3คน แต่อย่าเลย อย่าเบียดกัน มันต้องมี1ใน3คนเป็นลมแน่ ส่วนหลังที่เห็นนี้ ฉันได้มาในราคาที่แพงที่สุดคือ 700 บาท แพงสุด เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ 555 จริงๆเพราะวิวนางดี มีออพชั่นเสริมตรงมีมีระเบียงชั้นสอง ซึ่งไม่รู้ว่าเอามาทำไม ฉันเสียเงินเพิ่มทำไมกันนะ แต่ก็นั่นแหละ มีแค่มุ้งกับเตียง จริงๆจะเปรียบเทียบเหมือนมันก็คือเต๊นท์ที่แข็งแรงขึ้นมานิดนึง อ่ะ พูดมาก อธิบายที่พักเยอะไปหน่อย ตอนนี้วางกระเป๋าเรียบร้อย ด้วยความที่ว่าวันนี้กว่าจะถึงเกาะก็เวลา3 โมงเข้าให้ละ จะเล่นน้ำก็คือยังไม่พร้อม ได้ยินว่าเกาะนี้มีหลายมุม วันนี้เลยคิดว่าเราจะเดินสำรวจฝั่งที่พักของเราก่อน Let's go!!! เดินมาเรื่อยๆจนน่าจะถึงท้ายเกาะ เรียกว่าสุดที่จะให้เดิน ถ้าจะให้เดินอีกก็คือเดินลงไปในน้ำ ที่ตรงนี้เป็นที่ๆเอาไว้ดูพระอาทิตย์ขึ้นแบบแสงรำไร มา 4 โมง แสงแดดก็ฟาดหน้าเข้าให้น่ะสิ ส่วนไอ้ที่เห็นบนพื้นไม่ใช่ขยะนะโว้ย มันคือเศษประการังชิ้นเล็กๆน้อยๆ นั่งโง่ๆดูน้องเสียเวลาไป 5 นาที เพลินไปหน่อย มีสถานที่ๆเค้าบอกว่ามาที่เกาะหวายที่ต้องมาคือ การเดินขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ตก มาค่ะ แค่ขึ้นเขามันจะขนาดไหนเชียว พระเจ้า ในภาพแค่เริ่มต้น เพราะคุณต้องใช้วิชาลูกเสือในการเดินป่า ป่าที่ไม่มีป้ายบอกทางใดๆทั้งสิ้น ใช้สัญชาตญาณล้วนๆจ้า ปล.ใครแข้งขาไม่ดี นั่งเปิดรูปดูในGoogle เอาเด้อ เชื่อฉัน เชื่อเถ้อะ ปล.1 ใครจะขึ้นไป ควรพากันไปมากกว่าสามคนนะ อย่าโง่เหมือนฉัน ผู้หญิงสองคน กลัวหลงแทบตาย หน้าเพื่อนเหมือนจะเป็นลม ต่อหน้าฉันต้องยิ้มสู้ ละบอกตามมา ชั้นเป็นคนความจำดี จริงๆ คือมั่วล้วนๆ ปล.2 ทายากันยุงไปด้วย อย่าท้าท้ายอำนาจยุง มันดุจริงๆ มันฝากรอยแผลเอาไว้กับฉันมาสองอาทิตย์แล้ว ใช้เวลา15 นาที ที่ยาวแสนยาวนาน ห้อยโหนต้นไม้ต้นนี้ไปต้นนู้น คิดว่าตัวเองกำลังเป็นทาร์ซานอยู่ ทักษะปีนหน้าผาที่เคยดูจากทีวีงัดออกมาใช้ให้หมด พอขึ้นมาถึง โอเคสบายใจ ประหนึ่งพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรส วิวมันดีมาก อยากให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาของตัวเอง อากาศดีจริมๆ เสียดายขึ้นมาถึงก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกก่อนเกือบๆชม.จะให้รอก็กลัว ยุงจะหามข้าพเจ้าก่อน ก่อนจะไป เค้าบอกมาอีกแล้วว่าถ้าเราขึ้นมาถึง ต้องหาก้อนหินมาวางเรียงซ้อนๆ จากนั้นค่อยอธิษฐาน พูดเลยว่า คำอธิฐานแรกคือ ขอให้หนูลงไปถึงข้างล่างอย่างปลอดภัย ไม่หลงในป่าด้วยนะคะ แค่นี้ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้น10เปอร์เซ็นต์ ลงไปถึงข้างล่างได้ พูดกับตัวเองได้คำเดียวว่า เก่งว่ะ ภูมิใจในตัวเองจริมๆ หมดภารกิจวันแรก DAY 2 อย่าถามว่าหลับสบายไหม 55555 เปียกค่าาา คอเปียก หลังเปียก ฝนที่ตกตอนกลางคืนไม่ช่วยอะไรฉันเลย แต่พอให้อภัยได้ เพราะตื่นเช้าเปิดประตูมา ก็มีวิวที่ดีที่สุด ต้อนรับเช้าอันสดใส ลมทะเลปะทะหน้า แล้วกระซิบบอกว่า ไปค่ะ ไปอาบน้ำ ล้างหน้าได้แล้ว นังเน่า ภารกิจในวันนี้รอเธออยู่อย่างแน่นเอี๊ยดจ้าา หลังจากที่เมื่อวานเดินไปเที่ยวฝั่งที่พักของตัวเอง วันนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะเดินไปให้ถึงกระท่อมยายมา ที่หาดโรแมนติก(ชื่อหาดนะ ไม่ใช่อารมณ์ของฉัน ณ ขณะนี้) ลุยค่ะ เดินบนเกาะนี้ เดินและก็เดินและก็เดิน เดินรวมๆอาจจะมากกว่าเดินมาทั้งชีวิตก็เป็นได้ ฉันเดินมาถึงหาดของที่พัก Good felling หาดทรายมีเอกลักษณ์ ขาวสะอาด นุ่ม แต่แคบไปหน่อย เดินมาครึ่งชม.ฝนตกจ้า ไม่มีที่ให้หยุด ทำได้แค่เดินต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างทางไปต่างจากเดินขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ ดีแค่เป็นทางที่ไม่ต้องขึ้นเขา แต่อันนี้ต้องเดินลงไปทะเลแทน ที่เห็นสีส้มๆลิบๆนั่น เคยเป็นศูนย์แสดงประการัง อยู่หน้าที่พักของ เกาะหวายประการัง ส่วนหาดโรแมนติก เค้าบอกว่าพ้นมุมซ้ายสุดของภาพนั้นอีกนิดหน่อยก็ถึง (กล้าจะใช้คำว่าหน่อย) เดินจนมาถึงหน้าที่พักเกาะหวายประการัง ตรงนี้วิวดีมาก ท้องฟ้าตัดกันกับทะเลคือดีย์ต่อใจมากกก สะพานตรงนี้น่าจะเชื่อมกับที่แสดงประการัง แต่พอไม่มีการแสดง เค้าก็น่าจะไม่ซ่อม ปล่อยให้ขาดไป เอาจริงๆกว่าจะเดินถึงตรงนี้ก็1ชม. ฉันยังไม่เห็นวี่แววของหาดโรแมนติกเลยสักนิด ถามทางคนมาบอกนิดเดียว สัก1-2 โลเอง บ้าบอ กิโลแม้วแน่ๆ แมวทะเล เจ้าที่แรง หน้าตาไม่รับแขกสุดๆ บนเกาะนี้มีแมวเยอะมากกกกกก แมวที่เป็นเฉพาะพันธุ์เปอร์เซียก็11ตัว แมวทั่วไปอีกแบบนับไม่ถ้วน ฉันยอมแพ้ให้กับหาดโรแมนติก มันช่างไกลเกินกำลังขาเล็กๆของฉัน ปลอบใจตัวเองว่าไม่ได้มากับแฟนไม่ต้องไปก็ได้มั้ง เปลี่ยนๆ เรามาพายเรือคายัคกันดีกว่า เช่าชั่วโมงละ150 บาทถ้าเช่าทั้งวันก็ 500 บาท เอาจริงๆชั่วโมงเดียวก็หมดแรงละค่ะ ใครเค้าเอามาพายเรือกัน เค้าเอามาถ่ายรูปทั้งนั้นแหละ แฮร่ ล้อเล่งน่า พายแรกๆก็นั่นแหละค่ะ ตามสุภาษิต ภายเรือในอ่าง คือวนอยู่ที่เดิม ถามลุงเจ้าของว่าพายยังไงคะ ลุงบอก ก็แค่พายๆไป พายไปทางเดียวกัน ลุงงงง พูดง่ายมากกก กว่าจะสามัคคีกับเพื่อนได้ หมดไปเกือบยี่สิบนาที หลังจากนั้นก็พายคล่อง พายไปรอบๆเกาะ พายไปดูประการังใกล้ๆแหกปากโวยวายกันตลอดทาง สนุกมาก แต่ก็ดำมากเช่นกันค่าา เห็นสีม่วงๆนั่นไหม ประการังจ้า จริงๆกิจกรรมที่ต้องทำอีกอย่างหนึ่งคือ การดำน้ำดูประการัง แต่เพื่อนร่วมชะตากรรมของฉันดันเป็นวันนั้นของเดือน ไอ้เราจะลงดำคนเดียวก็กลัวเพื่อนจะเสียใจ ไม่ใช่อะไร กลัวน้ำลึก ว่ายน้ำไม่แข็ง 55555 ที่สำคัญน้องหอยเม่นนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆประการังเต็มไปหมดด อ่ะ โชคดีที่น้ำใสมากกกกกกก จนทำให้เราแค่พายเรือไปรอบๆเกาะ ก็สามารถดูประการังได้ด้วยตาเปล่า มีแบบสีฟ้า สีม่วง แบบที่เป็นดอกๆ หรือแบบที่เป็นรูปสมองก็มีนะ แถมมีปลานีโม่ ใช่เปล่านะ ที่มันคล้ายๆในการ์ตูนอ่ะ อันนั้นแหละ พายไปได้ไม่นานก้มดูประการังมากไปหน่อย อิฉันเกิดความสำออย เมาเรืออ รีบขึ้นฝั่งแทบไม่ทันจ้าา ชื่อภาพ "หน้าเท่ากับหลัง" พายเรือคายัคเสร็จ ก็มานั่งโง่ๆริมทะเล (เมาเรือก็พูดไป ทำมาเป็นแกล้งนั่งโง่ๆดูไปดูมานึกว่านั่งสมาธิซะอีก) ถ่ายรูปชิลๆสักหน่อยสิ พักแขนแปป ก่อนจะไปทำภารกิจสุดท้ายของวันนี้กันจ้า ขอใช้ชื่อภาพว่า "เรือน้อยไม่ควรออกจากฝั่ง" สาเหตุอยู่ที่ใบพัด แต่ถ่ายมาไม่ติด ใบพัดจิ๋วมากก ขนาดประมาณคอปเตอร์ไม้ไผ่ของโดเรม่อน เคลื่อนที่เร็วสุดไม่เกิน20กม./ชม. ถ้าเดินก็คือแซงไปนู้นนไม่ต้องสืบ ละเรือนี่คุณคือผู้ถูกเลือกให้นั่งไปทำภารกิจเสี่ยงชีวิต กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ นั่นก็คือการตกหมึกนั่นเอง ไม่รู้ว่าตกหมึกับตกเรือสิ่งไหนจะเกิดก่อนกันฉันผู้นั่งสวดมนต์พร้อมกับพยายามปลอบใจตัวเองตลอดทาง ถามว่าทำเป็นไหม โนวจ้า เมื่อยแขนจากพายเรือคายัค ยั๊งงง ยังไม่พอ มาเมื่อยแขนกันกับการกระตุกเบ็ด แกล้งแสดงว่าตัวเองเป็นปลา เพื่อล่อหมึกไปอี๊กก เมื่อยยยยย พูดชัดๆนะ เมื่อยยยย อิน้องเมื่อยขนาด นี่คือภาพในตาที่ฉันเห็นซ้ำๆ ทั้งหมด2ชม. ครึ่งชม.แรกสนุกจ้า หลังจากนั้นคือ เอาช้านนออกไปจากตรงเน้!!! อ้วกไปทั้งหมด 3 ครั้ง ใครเมารถ ขอเลยจ้า อย่าขึ้นมันเด็ดขาด นอนนิ่งๆโง่ๆบนหาดไปเถ้อะ เชื่อฉัน พอขึ้นไปบนบก พูดเลยว่าหลอนทั้งคืน คิดว่าตัวเองอยู่บนเรือทั้งคืนจ้า ในขณะที่เพื่อนตกหมึกได้แล้วได้อีก รอยินดีกับเพื่อนไป เพื่อนสนุกเราก็ดีใจ ส่วนอิฉันสำออยอีกแล้วจ้า นั่งเมาเรือ พะอืดพะอม แปปนะ อ้วกแปป ฉันเป็นคนทำบาปไม่ขึ้นสินะ สองชม.เกี่ยวได้แต่เชือกฟาง หรือว่าปลาหมึกมันรู้ว่ะ มันได้กลิ่นปลาหมึกผัดกระเทียมจากของฉันกันนะ น้องปลาหมึกตัวแรก ก่อนตายน้องกระอักหมึกสีดำออกมา ส่วนอิฉันหลังจากได้กลิ่นหมึกจากน้อง ก็กระอักอ้วกออกมาอีก1ที อ่ะ สรุปๆ วันนี้เราได้หมึกมาทั้งหมด 6 ตัว มื้อเย็นเราก็ได้เมนูซาชิมิปลาหมึก กับต้มยำปลาหมึกน้ำข้นจ้าา ขอบอกว่าเนื้อปลาหมึก หวานฝุดๆไปเล๊ยยยย กลับจากตกหมึก นั่งเรือผ่านหน้าที่พักของกระท่อมยายมา มีแนวต้นมะพร้าวขึ้นเป็นทางยาว ตรงนี้ในความคิด คิดว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดของเกาะหวาย แต่เดินมาไม่ไหวจ้า ขาน้องจิแตกก ลืมถ่ายหาดโรแมนติกมา ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่ไม่ได้เดินมาถึง เพราะมันไม่ได้สวยขนาดนั้น มันเป็นหาดกว้างแค่ 100 เมตรเอง ทรายละเอียดที่สุดบนเกาะ และที่สำคัญไกลมากกก ไกลขนาดที่ว่า ถ้าเดินมาถึงคงต้องนอนนค้างตรงนี้สักคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเดินกลับดีไหม หมดแรง บรรยากาศที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มันสวยมาก เรานั่งอยู่บนเรือลำเล็กๆ รอบตัวเรามีแต่น้ำทะเล วินาทีนั้นคิดขึ้นมานี่คือภาพที่จะต้องไม่มีวันลืม ใช้คำว่า best part เลยก็ได้ มันทำให้คิดได้ว่าชีวิตเรามันอาจจะแค่นี้แหละ แค่นี้แหละก็มีความสุขแล้ว DAY 3 เหมือนเดิม อย่าถามว่านอนสบายไหม ไม่จ้าาา แต่ไม่เป็นไร เศร้าอยู่ ให้อภัยก็ได้ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่บนเกาะ นี่เป็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยสุดในชีวิตของเราเลยก็ว่าได้ มีความรู้สึกไม่อยากกลับ อยากใช้ชีวิตติดเกาะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ (แต่ขอแบบมีพัดลมและห้องน้ำดีๆอะนะ) เกาะนี้ให้อะไรหลายๆอย่างกับตัวเรา ทำให้เราลืมเรื่องบางอย่าง ใครอยากรู้สึกตัดขาดจากโลกภายนอก อยากได้เพื่อนใหม่ๆ อยากทำอะไรแปลกๆ อยากท่องโลกกว้าง อยากผจญภัย เราขอแนะนำเกาะหวายนี้ ไว้ในตัวเลือกของพวกคุณด้วยน้าา คุณจะได้พูดคำนี้กับตัวเองแน่นอนว่า เราเก่งขึ้นแล้วว่ะ และนี้คือหน้าตาอาหาร ไม่ทั้งหมด เพราะบางมื้อก็หิวเหมือนแร้งลง ไม่มีแรงยกมือขึ้นมาถ่ายรูปหรอกนะ รู้แค่ว่าต้องฟาดอาหารตรงหน้าให้เรียบ สำหรับอาหารเราไปกินมา2ร้าน 1.ร้านแรกก็คือที่ร้านจากที่พักของเราเอง เกาะหวายพาราไดซ์ เป็นมื้อแรกที่ย่างกรายลงมาถึงเกาะ เนื่องจากรสชาติขนาดหิวมากมันยังไม่ถูกปาก ก็เนาะเป็นอันข้ามไป ราคาเริ่มต้นที่120 บาทขึ้นไปทุกเมนูนะจ้ะ 2.ร้านอาหารของที่พักGood felling ฉันแค่เดินสุ่มๆ สุ่มในความมืด มาก็เจอร้านนี้ เป็นร้านที่ฝากท้องไว้ถึง 4 มื้อ พี่เจ้าของร้าน ขอโทษที่ต้องพูดว่า หนูคิดว่าพี่เป็นโจรนะคะ แต่รสชาติอาหารสวนทางกับหน้าตาเน้อบอกเลย อร่อยยย อร่อยทุกเมนู แถมพี่เค้ายังใจดีมากๆ อยากทำอะไรก็ทำได้ในร้านเค้า เดินเข้าไปช่วยทำน้ำส้มคั้นถึงในครัวยังได้เลย ราคาเริ่มต้น 90 บาท อร่อยแถมถูกกว่าด้วย ปล. ปลาหมึกที่ไปตกมา ก็ได้ร้านพี่เค้าช่วยทำต้มยำน้ำข้นกับแล่เป็นซาชิมิให้เน้อ สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด - ที่พัก 700 - เรือไป-กลับ 900 DAY 1 - รถทัวร์ 299 - รถสองแถว 80 - ข้าวกลางวัน 120 - ข้าวเย็น 185 DAY 2 - ข้าวเช้า 155 บาท - ตกหมึก 100 บาท - ข้าวเย็น 270 บาท เรือคายัค 150 บาท น้ำดื่ม 20 บาท DAY 3 ข้าวเช้า 135 บาท รถสองแถว 80 บาท รถกลับ 270 บาท รวมราคาต่อคน แล้ว 3464 บาท *ภาพทุกภาพถ่ายด้วยครีเอเตอร์เอง* ปล.ค่าอาหารแล้วแต่คนเน้อ ใครกินเยอะก็เพิ่มขึ้นตามนั้น ทริปนี้เราค่อนข้างกินหรู อยู่(ไม่ค่อย)สบายจ้า ไปทะเลที่เกาะหวายได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ไม่ได้ไปนั่งโง่ๆอยุ่ริมทะเลอย่างเดียวแน่นอน พบกันใหม่ที่เที่ยวหน้า เราจะเวลาพาตัวเองออกไปท่องโลกกว้างอีกแน่นอนน สวัสดีนักเดินทางทุกคนค่าาา คอนเทนต์เด็ด ๆ ปัง ๆ จะท่องเที่ยว คาเฟ่ กีฬา ข่าวสาร มัดรวมก่อนใครไว้ที่นี่แล้ว App TrueID โหลดเลย !