เกาะกูด หรือ อำเภอ เกาะกูด ตั้งอยู่ที่ จ.ตราด ประเทศไทย เป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกไทย เดิมเกาะกูดเป็นหมู่บ้านขึ้นกับตำบลเกาะหมาก ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลเกาะกูด ในปี พ.ศ. 2523 เเละที่สำคัญ เกาะกูดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร เเละอ่าวที่ได้เดินทางไปก็คือ "อ่าวพร้าว" เป็นหาดที่มีทรายขาวสวยงามน้ำทะเลใส มีสะพานไม้ถอดยาว เเละได้ถ่ายรูปกับบรรยากาศที่สวยงาม มีกิจกรรมให้ทำเยอะเเยะมากมาย เเละวันนี้ดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวเกาะกูด อ่าวพร้าว กันค่ะ ประสบการณ์การไปเที่ยวเกาะกูดกับทางทัวร์ เป็นระยะเวลา 2 วัน 1 คืน นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือเพื่อที่จะไปยังเกาะเป็นเวลา 45 นาที จากนั้นพอไปถึงต้องนั่งรถสองเเถว เพือที่จะไปอ่าวพร้าว ประมาณ 30 นาทีค่ะ เป็นเวลานานมากเพราะไม่คิดว่าจะอยู่ลึกขนาดนี้ เส้นทางค่อนข้างที่จะไม่ค่อยสะดวกนัก ไม่ได้เป็นทางเรียบ ใช้เวลานานพอสมควรค่ะ เเละนี่คือที่พักของพวกเราค่ะ Ao Phrao Beach Resort บรรยากาศอบอุ่นมาก เป็นรีสอร์ทเล็กๆ เเต่ละหลังตกแต่งได้สวยงามมาก เเต่ยุงค่อนข้างเยอะ เพราะบริเวณรีสอร์ทมีต้นไม้เยอะมากค่ะ อากาศร้อนชื้น เเต่รีสอร์ทอยู่ไม่ไกลจากชายหาดเลย เดินไปแปปเดียวก็ถึงเเล้วค่ะ พวกเราเข้าพักในห้อง 5 คน พร้อมเตียงเสริมอีก 1 เตียง ราคาประมาณ 1,000 บาทค่ะ พอมาถึงที่พัก พวกเราก็รีบขนของเข้าห้อง จัดของต่างๆเเละเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปเล่นน้ำเลยค่ะ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก พอเห็นวิวเเละน้ำทะเลเเล้วประทับใจมาก เพราะไม่เคยเห็นชายหาดที่ไหนน้ำใสขนาดนี้มาก่อน มีทั้งหาดทรายสีขาวนวลน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาด น่าเล่นมากค่ะ เเถมทางรีสอร์ทยังมีให้เช่า เสื้อชูชีพ เรือเเคนู ไม้พาย เเละ เเว่นตาดำน้ำด้วยค่ะ มีครบเครื่องเลยจริงๆ อยากให้ทุกๆคนได้มาเที่ยวกันค่ะ จากนั้นพวกเราก็ไปรับประทานอาหารเที่ยงกันค่ะ อาหารทะเลเเน่นอนว่าสดมากๆ พวกเรามาจากภาคเหนือได้กินอาหารทะเลสดๆเเล้วปลื้มปริ่ม มากเลยค่ะ เเน่นอนว่าอาหารทุกมื้อต้องเป็นซีฟู้ดเพราะมาเที่ยวทะเลทั้งทีต้องจัดให้คุ้ม ทำเอาน้ำหนักขึ้นไปหลายกิโลเลยล่ะค่ะ เเละในช่วงค่ำพวกเราไปดูการเเสดงคนเล่นไฟ ที่ชายหาดเลยค่ะ เป็นครั้งเเรกเลยที่ได้ดูกับตาเพราะปกติเห็นเเต่ในโทรทัศน์ Amazing มากเลยค่ะ ตอนเเรกๆก็แอบกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรรึป่าว เเต่คนเเสดงเขามีความชำนาญอยู่เเล้วล่ะค่ะ ประทับใจมาก เข้าใจเเล้วว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึงชอบมาดูกันมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีจริงๆเลยค่ะ ในวันถัดไปพวกเราตื่นเช้ากันมากเพื่อที่จะไปถ่ายรูปที่ชายหาดในตอนเช้าช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น เป็น mood ที่ดีมากเลยค่ะ พวกเราเป็นคนเหนือก็เห็นเเต่วิวภูเขาสีเขียวๆ พอได้มาเห็นน้ำทะเลใสๆสีฟ้าเเล้ว มันแปลกตาเเละสวยงามมากเลยค่ะ ต้องมาดูกับตาตัวเองจริงๆ เเละช่วงสายๆพวกเราจะไป ดำน้ำดูประการังกันค่ะ โดยเฉพาะดิฉันที่ตื่นเต้นมากๆเพราะเป็นการดำน้ำดูประการังครั้งเเรกในชีวิต มีความคาดหวังว่าจะออกมาเหมือนในโทรทัศน์ ที่เราดูในสารคดีบ่อยๆ เเต่อีกใจนึงก็กลัวๆเพราะใช้เเว่นตาดำน้ำกับท่อที่หายใจทางปากไม่เป็นค่ะ เเต่พอลองใส่เเล้ว พี่ที่นำทัวร์ก็มาช่วยสอนให้ว่าต้องหายใจยังไง ทำอะไรบ้าง ก็ได้เรียนรู้เเละไม่มีความรู้สึกกลัวอีกเลยค่ะ ด้วยความที่เรามือใหม่พึ่งเคยทำครั้งเเรก เราก็จับเชือกและห่วงยางของไกด์ที่พาเราดำน้ำค่ะ มันสนุกมากจริงๆ ดูเเล้วไม่อยากขึ้นเลย มีทั้งปลาการ์ตูน หอยเม่นที่เยอะมากๆ ปะการังที่มีสีสันเต็มไปหมด ส่วนตัวตอนเเรก ไม่คิดว่าน้ำจะลึกขนาดนี้เลยค่ะ เเต่พอได้ดำน้ำไปพร้อมๆกันหลายคนก็ไม่รู้สึกกลัวเลย เป็นประสบการณ์การดำน้ำดูปะการังครั้งเเรกในชีวิตที่ ประทับใจมากเเละจะไม่ลืมเลยค่ะ เเละอยากจะฝากทุกๆคนให้ช่วยกันอนุรักษ์เเละรักษาสิ่งเเวดล้อมกันนะคะ ไม่ทิ้งขยะลงในเเม่น้ำ ไม่ไปทำลาย หรือรบกวนปะการัง ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ดูกันค่ะ ว่าทะเลไทยสวยงามไม่เเพ้ชาติใดในโลก ภาพถ่ายทั้งหมดโดย : นักเขียน