ชายหาดสวยงาม เกาะน้อยใหญ่เรียงราย ทำให้เมืองตราดน่าอยู่เสมอ แต่เมืองสุดชายทะเลแห่งภาคตะวันออกแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องพลอยแดง หรือที่คนสมัยก่อนตั้งฉายาเอาไว้ว่า "ทับทิมสยาม" อีกด้วย ทับทิมเมืองตราดเป็นที่ต้องการของคนมากมาย เป็นแหล่งผลิตพลอยแดงอันเลอค่าที่ถูกส่งออกไปทั่วประเทศ และทั่วโลก และแน่นอนว่าวิถีของภูมิปัญญาดั้งเดิมอย่างการร่อนพลอยแดงนั้นยังคงอยู่ จนสร้างความเป็นเมืองตราดให้เป็นหนึ่งในเมืองแห่งอัญมณีไทยอย่างแท้จริง คุณอุทัย เปรื่องเวช เป็นผู้เชี่ยวชาญในการร่อนพลอยแดง ซึ่งด้วยประสบการณ์มากมาย เลยอธิบายเรื่องการร่อนพลอยแดงไว้ว่า “จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่อากาศดีมาก ทรัพยากรเยอะมาก ในน้ำจะมีพลอยทุกสี แต่ที่เยอะสุดคือพลอยแดง จึงกลายเป็นคำขวัญของจังหวัดตราดของเรา” ความล้ำค่าของพลอยแดงเมืองตราด ทำให้คนนิยมเอาไปทำเป็นเครื่องประดับ “พลอยที่นี่น้ำดีมากเป็นพลอยสีแดงเลือดนก เวลาไปทำหัวแหวนจะสวยมาก” แหล่งร่อนพลอยของเมืองตราด เมื่อก่อนจะมีหลายที่ แต่ตอนนี้ที่อนุรักษ์กันเอาไว้ก็เป็นบ่อตรงบ้านช้างทูน ผู้ร่อนพลอยจะนำวัสดุอย่างไม้ไผ่หรือหวายมาทำเป็นตะแกรง ถ้าง่ายๆ ก็คว้ากระจาดไปร่อนกัน “สมัยก่อนจะขุดดินด้วยชะแลง ขุดเจาะลึกลงไปประมาณเอว เพื่อดูว่ามีแร่ มีพลอยหรือเปล่า บางทีก็อาจจะไม่มี หลังจากนั้นก็โกยขึ้น เพื่อหาพลอย วิธีการดูพลอย ก็ต้องดูว่า ถ้าเป็นพลอยก็จะเป็นสีแดง สีชมพู สีม่วง อันไหนที่มีแววระยิบขึ้นมา ก็จะเป็นพลอยถ้าเจอแล้วจะใส่ปากอมไว้ก่อนแล้วหลังจากนั้นจะนำไปใส่ขวดเก็บไว้” การร่อนพลอยต้องอาศัยทั้งประสบการณ์ จังหวะ และโชค ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เจอ และเป็นเรื่องแปลกมากๆว่ายิ่งโลภก็จะยิ่งไม่ได้ ทุกวันนี้การร่อนพลอยทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยากรค่อยๆหมดไป จนทำให้เสน่ห์แบบเดิมๆก็จางหายไปด้วย มากกว่านั้นสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปก็เป้นส่วนหนึ่งที่ทำให้การร่อนพลอยหาได้ยากขึ้น เพราะสิ่งทับถม หรือมลพิษก็ทำให้หินกรวดขุ่นมัว ไม่เป็นทับทิมสยาม อัญมณีที่สวยงามอย่างที่คนเขาว่ากัน แต่ลึกๆคุณอุทัยก็ยังรู้สึกยินดีที่ได้รักษาและอยู่กับภูมิปัญญานี้ “ภูมิใจที่ยังรักษาวัฒนธรรมนี้ให้ลูกหลานดูเพราะอีก 4-5 ปีมันก็จะหมดไปแล้ว และคงจะหมดไปจริงๆ”