ตราดเป็นจังหวัดที่เงียบสงบสุดชายแดนตะวันออกที่มีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณอ่าวตราดยาวไปถึงอำเภอคลองใหญ่ เป็นแหล่งทำประมง มีท่าเรือหรือแพปลาขนาดใหญ่หลายแห่ง จึงเป็นแหล่งอาหารทะเลแสนอร่อยด้วย ร้านหาดพลอยแดงซีฟู๊ด ร้านอาหารทะเลเล็ก ๆ แบบเปิดโล่ง ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ตั้งอยู่ริมทะเลหาดพลอยแดง เส้นทางเมืองตราดไปอำเภอคลองใหญ่ เส้นทางที่มีแต่ต้นไม้ มีร้านรวงและบ้านเรือนตั้งอยู่ห่าง ๆ ดูไม่มีอะไรดึงดูดให้แวะพัก น้อยคนที่จะรู้ว่ามีร้านอาหารอร่อยซ่อนอยู่ ดังนั้น ผู้ที่จะเดินทางไปร้านนี้ต้องคอยสังเกตสักหน่อย เมื่อขับรถถึงบริเวณตำบลแหลมกลัดจะมีทางแยกขวาขวามือลงไปยังหาดพลอยแดง เข้าไปเพียง 500 เมตรก็จะถึง ร้านหาดพลอยแดงซีฟู๊ด ซึ่งอยู่ริมทะเลพอดี ๆ แต่สำหรับผู้ไม่คุ้นเส้นทาง แนะนำให้ตั้งจีพีเอสปักหมุดชื่อร้านเลยจะสะดวกกว่า หากจะถามว่าแนะนำอะไรดี ก็ตอบได้ยาก ให้ลองสั่งมาเลยเพราะอร่อยทุกอย่าง รสชาติแซ่บถึงใจแบบภาคตะวันออก ขออธิบายว่ารสชาติอาหารแบบภาคตะวันออกที่ผู้เขียนเน้น คือ รสชาติจัดจ้านครบรสแต่ออกหวานนำ ซึ่งจะสัมผัสถึงรสชาติแบบนี้ได้ตั้งแต่ชลบุรีจนถึงตราดนี่เลย อาหารบางชนิดก็เหมาะที่จะหวานนำและบางอย่างก็อาจหวานเกิน หรือหากคนไม่ชอบหวานก็พาลไม่ชอบไปเลย ส่วนผู้เขียนเป็นคนชอบหวานนำ แต่ไม่มากนัก เดิมที่ไม่ได้ชอบอาหารที่รสหวานนำ แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่ภาคตะวันออกยาวนานมากก็เริ่มชิน แต่ก็ใช่ว่าจะชอบทั้งหมด ผู้เขียนสังเกตรสชาติของอาหารแล้วพบว่ายิ่งข้ามไปฝั่งเกาะกงของกัมพูชา อาหารบางอย่างหวานมากและจืด ด้านความเผ็ดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จนต้องเรียกหาสวนพริกกันเลยทีเดียว ที่ร้านหาดพลอยแดงนี้ เจ้าของร้านซื้อปลาสด ๆ จากชาวประมง และเป็นพ่อครัวเอง หากวันไหนของไม่ดีปลาไม่สด ทำบางเมนูไม่ได้ แม้ลูกค้าจะสั่ง เจ้าของร้านก็จะไม่ยอมทำ เพราะเจ้าของร้านบอกว่าทำได้ก็ไม่อร่อย ไม่อร่อยก็จะเสียชื่อ แบบนี้มั่นใจได้เลยว่าทุกจานปรุงด้วยความใส่ใจ มุมขำ ๆ จากเจ้าของร้าน เมื่อครั้งหนึ่งคนในกลุ่มที่ไปด้วยขอสั่ง “ผัดผัดรวมมิตร” แล้วถามต่อว่ามีผักอะไรบ้าง เจ้าของร้านตอบตาขวางๆ แบบเคือง ๆ ว่า “..ก็ผักกรุงเทพฯ ถ้ามาถึงนี่ยังจะกินผักกรุงเทพฯ ก็ไม่ต้องกิน..มานี่ต้องกินอาหารทะเล” พวกเราไม่โกรธนะ แต่ขำในคำตอบด้วย ชอบก็ตรง “ผักกรุงเทพ” นี่แหล่ะ ดังนั้น ก่อนอื่นถ้าคิดอะไรไม่ออกให้สั่ง “ส้มตำไทย หรือส้มตำปูม้า” จานละ 60 บาทเท่านั้น มาเรียกน้ำย่อยก่อนก็ได้ ถ้าไปหลายคนให้สั่งมาเลยทีเดียวสองจาน เพราะส้มตำจานเล็กสักหน่อย และรสแซ่บเผลอแป๊บเดียวหมดจาน เมนูอาหารทะเลมีให้เลือกทั้งหมึก กุ้ง กั้ง ปู ปลา ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักของปู ผู้เขียนแนะนำให้สั่งปูม้านึ่ง (หรือเมนูปูม้าอื่น ๆ ก็ได้) เพราะย่านตำบลแหลมกลัด ถึงอำเภอคลองใหญ่ เป็นแหล่งทำประมงปูม้าที่สำคัญของจังหวัดตราด จึงมั่นใจได้ถึงความสดใหม่ของปูม้า กุ้งลายเสือเผา (800 บาทต่อกิโลกรัม) สำหรับผู้ที่ชอบอาหารรสจัดคงชอบแกงป่าปลา (120 บาท) และจานที่ต้องมาคู่กับแกงป่า ต้องไข่เจียวเลย มาถึงทะเลก็ต้องไข่เจียวเนื้อปู (แต่เมนูนี้จำราคาไม่ได้) หรืออาหารจานทอดอย่างปลาอาจเป็นปลาเก๋าปลากระพงปลากระบอก ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่าร้านมีปลาอะไรสด (ราคาอยู่ในช่วง 250 ถึง 400 บาท) เมื่อรู้สึกว่ารับประทานจนอิ่มอืดมากเกินไปแล้วก็ลงไปเดินเล่นบริเวณชายหาดที่หน้าร้านก็ได้ ชายหาดบริเวณนี้น้ำตื้นเดินเล่นได้ไม่อันตราย แต่ไม่มีผู้คนนิยมมาเล่นน้ำ จึงเงียบสงบเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การพักผ่อนจริง ๆ ร้านหาดพลอยแดง เหมาะสำหรับมื้อเที่ยงและเย็น ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-19.30 น. แต่ช่วงเย็นบางฤดูอาจมียุงเยอะสักหน่อย เพราะแถบชายฝั่งจากแหลมกลัดถึงคลองใหญ่ มีป่าชายเลน ป่าชายหาดและป่าบก พวกยุงแมลงจึงเยอะ ลูกค้าประจำร้านนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในจังหวัดตราด และผู้เขียนทราบจากเจ้าของร้านว่ามีลูกค้าที่มารับประทานอาหารส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าที่พักอยู่โรงแรมเซนทารา ชานทะเล เพราะโรงแรมฯ ตั้งอยู่ห่างจากร้านราว 2 กิโลเมตร ด้วยที่ตั้งของร้านไม่โดดเด่นสะดุดตา ลูกค้าจึงเป็นคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวที่มาจากคำแนะนำบอกต่อ ผู้เขียนเองก็ได้รับคำแนะนำมาจากคนท้องถิ่นจนกลายเป็นร้านประจำในดวงใจอีกร้านหนึ่งเมื่อมาเมืองตราดเลยและก็อยากบอกต่อให้ผู้อ่านได้ไปลิ้มลอง... ขณะที่เขียนเรื่องนี้ก็เที่ยงพอดีเขียนไปหิวไปด้วย คิดอยากไป ร้านหาดพลอยแดงซีฟู๊ด ขึ้นมาทันทีเลย ภาพประกอบโดยนักเขียน