“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 หนุ่ม-สุทน ขอนำเสนอโปรแกรมสำหรับเดินทางไปเที่ยวจังหวัดตราดสุดแผ่นดินตะวันออก แน่นอนครับเป็นข้อมูลจากบันทึกการเดินทางของผมเช่นเคยครับ เพราะการเดินทางไม่มีที่สิ้นสุดครับแต่ต้องหยุดเพราะเชื้อโควิด-19 เป็นการชั่วคราวเท่านั้นครับ เมื่อหมดเชื้อก็เดินทางกันต่อได้ครับ “ทริปเที่ยวตราดแสนสุขใจ” ขอเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ไปจังหวัดตราดระยะทางประมาณ 318 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางแบบสบาย ๆ 5 ชั่วโมง พอถึงจังหวัดตราด เข้าเส้นทางอำเภอแหลมงอบ จุดแรก แวะชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว “2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม” คือชาวพุทธและชาวมุสลิม ส่วน 3 วัฒนธรรมคือวัฒนธรรมชาวจีน ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม กิจกรรมท่องเที่ยวมีล่องเรือออกทะเลงมหอย จับปู จับปลา หรือเดินศึกษาป่าไม้ กินอาหารท้องถิ่น เสร็จแล้วออกเดินทางมาจุดที่สอง ศึกษาเรียนรู้หาดทรายดำหนึ่งเดียวในประเทศไทยและมี 5 แห่งในโลกคือ 1.ไต้หวัน 2.มาเลเซีย 3.แคลิฟอร์เนีย 4.ฮาวายและ 5.ประเทศไทย นักท่องเที่ยวเดินสะพานเชื่อมแนวทางป่าชายเลนร่มรื่นไปสุดหาดทรายดำวิวทิวทัศน์บริเวณหาดทรายดำสวยงามหรือกิจกรรมหมกตัวในเม็ดทรายดำประมาณ 25 นาทีให้เลือดหมุนเวียนในร่างกาย จุดที่สาม กลับเข้ามาชุมชนคลองบางพระในตัวเมืองตราดพักผ่อน 1 คืน ชมบ้านเรือนเก่า ๆ ริมคลองบางพระที่เคยเป็นย่านการค้าสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จุดที่สี่ ยามค่ำ ๆ มาถนนคนเดินบริเวณเขื่อนริมแม่น้ำตราดเรียกว่า บ้านท่าเรือจ้าง นั่งกินอาหารริมแม่น้ำตราด ได้เวลาพอสมควรกลับเข้าที่พัก ตื่นนอนยามเช้าสบาย ๆ ไม่ต้องรีบเร่ง กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวไปจุดที่ห้ากันต่อครับ จุดที่ห้า พลาดโอกาสไม่ได้ต้องแวะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดแต่เดิมเป็นศาลไม้เล็ก ๆ ครั้งนั้นพระเจ้าตากสินหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางรวมจิตใจชาวเมืองตราดแล้วช่วยกันกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกองทัพพม่าล้อมเกาะกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2309 สำหรับทุกวันนี้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด ชาวเมืองตราดได้รวมใจกันสร้างศาลเป็นศิลปะศาลเจ้าแบบชาวจีนประดิษฐานเสาหลักเมือง 2 เสาและเทพเจ้าหลักเมืองที่ชาวบ้านชาวเมืองตราดเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ เสร็จแล้วออกเดินทางไป จุดที่หกกันต่อเลยครับ วัดบุปผาราม วัดเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดบุปผารามเป็นวัดตัวอย่างที่จัดสร้างเสนาสนะได้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมาะสมมาก ๆ สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาวัดบุปผารามคือ 1. ศาลาประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อโห ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน ผู้สร้างความเจริญให้วัดนี้ นอกจากนี้ยังมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประดิษฐานอยู่ด้วย 2. เข้ากราบบูชาขอพรองค์หลวงพ่อโต พระประธานในอุโบสถและแปลกตรงนิ้วมือมีเล็บ ส่วนพระบาทนั้นดูโตมาก 3. วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ 4. หมู่กุฏิพระสงฆ์แบบทรงไทยเล็ก ๆ สำหรับภิกษุสามเณรปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เสร็จแล้วได้เวลาพอดีเดินทางกลับจากจังหวัดตราดเข้าเส้นทางอำเภอแหลมสิงห์จังหวัดจันทบุรี แวะได้สถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทางสายนี้ จนกว่าจะถึงกรุงเทพฯ ค่ำ ๆ สำหรับโปรแกรมนี้ก็น่าสนใจครับ แฟนเพจน่าจะหาเวลาสัก 3 วัน 2 คืน หรือหากมีเวลาน้อยก็ 2 วัน 1 คืนครับ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเขตจังหวัดตราดมีอีกมากโดยเฉพาะเกาะต่าง ๆ ของทะเลอ่าวไทยจังหวัดตราดครับ เขียนเล่าเรื่องการเดินทางจบแล้ว ไว้พบกันใหม่นะครับชาวแฟนเพจนักอ่านทุกท่าน ขอบคุณและสวัสดี เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #ตะลอนชิมกาแฟทั่วไทย #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm #ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน