ทริปอันแสนสั้น กับความทรงจำสุดพิเศษบนเกาะหมาก ทุกคนคงกำลังคิดในใจว่าเกาะหมาก ใคร ๆ เขารีวิวกันเยอะแล้ว แต่นี่เป็นรีวิวบ้าน ๆ ที่เขียนออกมาจากความรู้สึก เราอยากขอให้ทุกคนลองอ่านเรื่องราวทั้งหมดจนจบ ไม่แน่ว่าวันพรุ่งนี้คุณอาจจะอยากก้าวเท้าออกจากห้อง ออกมาหัดเที่ยว หัดถ่ายแบบเรา แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องราวดี ๆ ที่ทำให้คุณประทับใจรออยู่ในทุก ๆ ที่ค่ะ แค่คุณลองเปิดใจ และพร้อมจะสนุกไปกับมัน คุณพร้อมหรือยัง ที่จะออกมาทำอะไรเพื่อเป็นรางวัลให้แก่ตัวคุณเองบ้าง รางวัลสำหรับการทำงานหนักมาทั้งปี เปิดโอกาสให้ชีวิตได้เลือกเก็บเอาความทรงจำที่มีค่าเข้ามาเติมเต็ม และมิตรภาพดี ๆ จากคนแปลกหน้า ถ้าพร้อมแล้วเรามาออกเดินทางด้วยก้าวเล็ก ๆ ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ *(รีวิวนี้เขียนขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วตอนเรายังเป็นฟรีแลนซ์นะคะ ปัจจุบันเป็นพนง.ประจำที่ต้อง Work from home ค่ะ ในสถานการณ์ช่วงนี้ที่ไวรัสโคโรน่า หรือโรค COVID19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศไทย หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นก่อนนะคะ ผ่านช่วงนี้ไปได้แล้วเราค่อยออกเดินทางต่อค่ะ สู้ ๆ นะคะทุกคน❤️❤️)* เริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตฟรีแลนซ์จอมขี้เกียจ หลังจากห่างหายจากวงโคจรการพบปะสังสรรค์กับเหล่าเพื่อนคนสนิท จนเพื่อน ๆ ถามไถ่กันมามากมายว่า ‘ยังมีชีวิตอยู่ไหม’ เรายังไม่ตายหรอกค่ะ แต่แค่กำลังนั่งจมกองงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เราผู้ที่ขี้เกียจทำทุกอย่างยกเว้น ‘งาน แล้วก็งาน’ ถึงจะเป็นฟรีแลนซ์แต่ก็ยังทำงานหนักทุกวัน ตื่นมาก็เห็นแค่หน้าจอคอม กินข้าวก็นั่งกินหน้าจอคอม นานวันเข้าสุขภาพร่างกายและจิตใจก็เริ่มเสื่อมโทรมจนเกือบเข้าขั้นวิกฤต พอได้โอกาสจึงคิดว่าควรจะหยุดทำงานสักพัก แล้วกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด ประจวบเหมาะกับเพื่อนสนิทกลับมาจากต่างประเทศพอดี ทริปแรกของเราคือ ‘เกาะหมาก’ ค่ะ Let’s go ออกเดินทางได้ จากจังหวัดจันทบุรี มุ่งหน้าสู่จังหวัดตราด สุดดินแดนตะวันออกของประเทศไทย เราใช้เวลาเดินทางโดย Speed boat ทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นจากท่าเรือสะพานกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์(แหลมงอบ) นะคะ พอมาถึงก็นั่งเล่นบริเวณโซนต้อนรับของทางรีสอร์ทเพื่อรอเช็คอินห้องพักตอนเที่ยง ระหว่างทางเดินไปห้องพักใจลุ้นระทึกมากค่ะกลัวไม่ตรงปก บ้านพักที่เราจองอยู่เกือบสุดทางเดินเลยอาจไกลหน่อยแต่คุ้มมากค่ะ เพราะบ้านพักสวย สะอาดสะอ้าน และนอนสบายมาก ลักษณะบ้านพัก เป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ ชั้นสองมีระเบียงกว้าง ๆ ให้เราได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ บ้านด้วยค่ะ แต่ด้วยความที่เรารีบร้อนไปทานอาหารกลางวัน เลยลืมถ่ายวิวจากชั้นบนให้ดูกัน ชมวิวสวย ๆ หน้าบ้านพักไปก่อนนะคะ สำหรับที่พักของเราบนเกาะหมาก เพื่อนเราจองผ่านเว็บนี้ค่ะhttp://www.kohmakresort.com/accommodation3.php ซึ่งเป็นของทางเกาะหมากรีสอร์ทเลย ราคาตามเว็บนะคะเพราะในแต่ละช่วงฤดูกาลราคาไม่เท่ากันค่ะ พาเดินสำรวจบริเวณห้องพักกันต่อค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการเดินสำรวจที่รีบร้อนและรวดเร็วมาก เพราะพวกเราหิวข้าวกันตั้งแต่ตอนมาถึงเกาะแล้ว สังเกตได้ว่าในภาพคือเพื่อน ๆ วางกระเป๋าและออกไปยืนรอเราหน้าบ้านพักเรียบร้อยแล้ว เราถ่ายแต่บ้านหลังที่เราพักมานะคะซึ่งพักกันทั้งหมด 5 คน ส่วนบ้านพักอีกหลังของเพื่อนไม่ได้ถ่ายมาค่ะ พอดีเพื่อนสนิทเราพาเพื่อนคนจีนมาร่วมทริปด้วย 2 คนเลยต้องจองที่พักเพิ่มต่างหาก ภายในบ้านพักค่อนข้างสะดวกสบายเลยค่ะ อย่างที่เห็นคือมีเตียงนอนสำหรับ 4 คน และมีห้องนอนเตียงขนาดใหญ่นอนได้ 2 คนที่ชั้นสองของบ้านพัก มีเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ครบครัน มีแอร์ พัดลม ตู้เซฟเก็บของก็มีให้ค่ะ อีกทั้งยังมีตู้เย็นขนาดเล็ก โทรทัศน์ รวมถึงกาน้ำร้อนพร้อมเครื่องดื่มชงสำเร็จรูปที่เตรียมไว้ให้ตรงโซนด้านหน้าบ้านพัก มีโต๊ะ เก้าอี้ และชิงช้าไม้ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะนั่งดูโทรทัศน์จิบกาแฟในยามเช้าก็ย่อมได้ โดยจะมีบานประตูกระจกเลื่อนกั้นปิดไว้ให้ค่ะ ตอนไปทานอาหารกลางวันที่ Cabana ไม่ได้ถ่ายไว้นะคะ เพราะใจจดใจจ่อรอทานอาหาร 🙏 หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเราเดินไปซื้อตั๋วนั่งเรือข้ามฝากไปเที่ยวที่เกาะขามตรงโซนต้อนรับของรีสอร์ทค่ะ ราคาประมาณ 200 บาทต่อคนเพราะมีค่าขึ้นเกาะรวมด้วย หลังจากนั่งรออยู่สักพักพี่เจ้าหน้าที่ก็ตามไปขึ้นเรือค่ะ ตอนที่เรานั่งเรือข้ามฝากไปเกาะขามคือไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปเลยแม้แต่โทรศัพท์ เพราะคิดแค่ว่าจะไปเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ อย่างเดียว จึงไม่มีภาพบรรยากาศสวย ๆ มาฝาก ส่วนเพื่อนที่เอากล้องโกโปรไปก็เอาไว้ถ่ายเล่นเก็บภาพใต้น้ำ แต่การันตีว่าหาดสวย น้ำใส บรรยากาศดีมากจริง ๆ ค่ะ ตอนที่ไปเหมือนเขากำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างที่พักซึ่งยังไม่เสร็จดี ใครที่ไปพักบนเกาะต้องนอนเตนท์อย่างเดียวเลยค่ะ หางตั๋วขึ้นเรือเราสามารถนำมาแลกเครื่องดื่มได้นะคะ มีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ และแล้วก็ได้เวลากลับที่พักพวกเราเล่นน้ำกันสนุกสนานมาก จนได้กลับเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยค่ะ หลังจากนั่งเรือกลับมาจากเกาะขาม พอล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ เพื่อนก็ชวนว่ายน้ำเล่นที่สระว่ายน้ำเยื้องหน้าบ้านพักต่อ เราเลยถ่ายบรรยากาศยามเย็นบริเวณด้านข้างบ้านพักมาให้ชมค่ะ แอบเห็นบันไดขึ้นไปที่ชั้นสองด้วย ห้องนอนชั้นบนเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่นอนได้ 2 คน และสวยกว่าชั้นล่างเยอะเลยค่ะ แต่เราลืมถ่ายมาให้ดู ถ้าใครอยากเห็นภาพห้องพักสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บของ kohmakresort ตามลิงก์ด้านบนเลยนะคะรับรองว่าสวยเหมือนในรูปแน่นอนค่ะ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พวกเราก็ออกไปทานอาหารเย็นนอกรีสอร์ทกัน โดยใช้บริการรถสองแถวของทางเกาะหมากรีสอร์ท ค่ารถไป-กลับตกคนละประมาณ 10-15 บาทค่ะ พอดีตอนนั้นร้านที่ตั้งใจจะไปกินปิด พี่คนขับเลยพาวนให้เลือกเอง ถ้าอยากกินร้านไหนก็ให้เคาะกระจกบอกพี่เขา(พี่คนขับใจดีมาก ๆ เลยค่ะ) เราจำไม่ได้ว่าร้านที่ไปกินตอนนั้นชื่อว่าอะไร แต่พอเห็นจากหน้าร้านคือต้องให้พี่คนขับจอดเลย เพราะเขามีซุ้มทำอาหารแบบเปิดอยู่ด้านหน้า มีบาบีคิว อาหารทะเลปิ้งย่างน่าทานมากค่ะ พอเดินเขาไปภายในร้านบรรยากาศชิวมากค่ะ เปิดเพลงคลอเบา ๆ และที่สำคัญชาวต่างชาตินั่งกันแน่นร้านเลย แสดงว่าร้านนี้ต้องอร่อยชัวร์ เราถ่ายรูปมาได้พอประมาณ แต่พอกลับมาเช็คคือใช้ไม่ได้เลยสักรูป ด้วยแสงไฟในร้านมีน้อยมากแบบค่อนข้างมืดสลัว ร้านนี้มีข้อเสียอยู่หนึ่งอย่างคือยุงเยอะมาก แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ เพราะรอบข้างมีแต่ป่า แค่อาหารอร่อยเรายอมนั่งให้ยุ่งกัด ส่วนเรื่องราคาอาหารเฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 200-300 บาทต่อคนค่ะ เรื่องราคาคือทำใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว ว่าอาหารและเครื่องดื่มบนเกาะต้องราคาประมาณนี้ ด้วยความที่เกาะหมาก ณ ตอนนั้นความเจริญ หรือสะดวกสบายยังเข้าไม่ถึงมากนัก จะออกแนวประมาณเกาะช้างสมัยหลายสิบปีก่อนเลยค่ะ คือยังคงความธรรมชาติ มีป่ารกข้างทางและมืดมากเนื่องจากไม่มีแสงไฟนอกจากบริเวณร้านอาหาร หรือรีสอร์ทเท่านั้น หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเราส่วนหนึ่งชักชวนกันไปแถวบาร์ของรีสอร์ทเพราะยังไม่ง่วง แต่ก็จะมีเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่สันทัดกับการนอนเอกขเนกเล่นเกมอยู่ที่ห้องมากกว่า ส่วนเรานั้นบอกเลยว่าไม่นอนอยู่ห้องเฉย ๆ แน่นอนค่ะ เรามาเที่ยวพักผ่อนทั้งทีก็ต้องไปนั่งผ่อนคลายจิบเบียร์เย็น ๆ ริมทะเลกันสักหน่อยจะได้หลับสบาย หลังจากเดินไปทานอาหารที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราก็ขอแวะเดินถ่ายรูปเล่นริมชายหาดก่อนกลับเสียหน่อย เราไปพักบนเกาะแค่ 2 วัน 1 คืนนะคะ ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จริง ๆ ถือว่าน้อยมากสำหรับคนไม่ค่อยไปเที่ยวไหนอย่างเรา แต่ด้วยความที่เพื่อน ๆ หลายคนไม่สะดวก ต้องกลับไปทำงานในเช้าวันจันทร์ที่จะมาถึง แม้จะเป็นเพียงแค่ 1 คืนเราก็รู้สึกเหมือนได้เติมพลังให้กับตัวเองอีกครั้ง การได้ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตแล้วค่ะ เช้านี้เราตกลงกันว่าจะไปพายเรือคายัคกันก่อนกลับ แต่ดันมีคนตื่นสายเลยทำให้แผนเป็นอันล่มไป หลาย ๆ คนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบเราใช่ไหมคะ 'อะไรที่วางแผนกับเพื่อนไว้อย่างดิบดี มันมักไม่เป็นไปตามนั้น' พอใกล้เที่ยงก็ได้เวลาต้องเก็บกระเป๋าเดินทางกลับกันแล้วค่ะ แผนที่ของ kohmakresort บ้านพักของเราคือ Family Deluxe Beach front เดินออกมาจากที่พักซ้ายมือจะเป็น Swimming pool ส่วนขวามือเป็นบ้านพัก Comfort Beach front ที่เพื่อนเราพักอยู่ค่ะซึ่งใกล้กันมาก แต่ค่อนข้างไกลจากโซน Reception และ Restaurant & Bar เลยทีเดียว ช่วงที่เราไปเที่ยวพักผ่อนร้านอาหารตรงโซนต้อนรับของรีสอร์ทปิด ส่วนบาร์จะเปิดตอนช่วงเย็น ๆ พวกเราเลยต้องไปทานข้าวกลางวันที่ Cabana แทน สาเหตุที่ปิดชั่วคราวเป็นเพราะ 'ชาวต่างชาติชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเคยเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหมากอยู่หลายครั้ง ตัดสินใจจัดพิธีงานแต่งงานแสนเรียบง่ายแต่อบอุ่น' ท่ามกลางเครือญาติและเพื่อนฝูงมากมายที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักครั้งนี้ ณ เกาะแห่งนี้ เพราะพวกเขาตกหลุมรักในบรรยากาศ ธรรมชาติที่สวยงาม และความเป็นมืออาชีพของพนักงานทุกคนที่เกาะหมากรีสอร์ทค่ะ ต้องขอโทษทุกคนอีกครั้งนะคะ ที่เราไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ในปาร์ตี้งานแต่งมาให้ชมกัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัว หรือห้ามถ่ายแต่อย่างใดนะคะ แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่าไม่ควรถ่าย เพราะแค่เจ้าสาวให้เกียรติมาชวนเรากับเพื่อน ๆ ให้ไปร่วมสนุกในงานปาร์ตี้ด้วยตัวเองก็รู้สึกดี และขอบคุณมากแล้วค่ะ ในตอนนั้นคือเรารู้สึกยินดีไปกับเขาด้วยจริง ๆ ถึงจะเป็นแค่คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกัน แต่งานปาร์ตี้ในคืนนั้นทำให้บรรยากาศริมทะเลที่แสนเงียบเหงา กลับมาสนุกสนานครึกครื้นอีกครั้ง เราหวังว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีความสุขจนถึงตอนนี้และตลอดไปค่ะ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมสนุกในงานปาร์ตี้หลังงานแต่งครั้งแรกสำหรับเราเลยนะ ขอบคุณมิตรภาพ และความทรงจำที่แสนมีค่าในทุกครั้งที่ได้ออกเดินทาง และความประทับใจครั้งนี้จะคงอยู่ในความทรงจำของฟรีแลนซ์จอมขี้เกียจ 'BETTER A' คนนี้ตลอดไปค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ แล้วเจอกันครั้งหน้ากับประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้ทุกคนตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กันค่ะ 🙏🙏🙏