เพื่อนรุ่นพี่

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริง 100 % ของผมที่ได้ประสบพบเจอ  กับสิ่งที่เรียกเรียกว่าวิญญาณโลกหลังความตาย เรื่องเกิดเมื่อ 18 ปี ที่แล้ว ที่จังหวัดติดชายแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย อาชีพของผมในขณะนั้นคือเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือกับภรรยาอยู่ในตัวจังหวัดแห่งนี้ ลูกค้าผมมีทั้งขาประจำและขาจรมากหน้าหลายตา ช่วงนั้นผมเปิดร้านขายเกี๋ยวเตี๋ยวทุกวัน หากจะหยุดก็เนื่องจากมีธุระสำคัญหรือป่วยเท่านั้น

จนมาถึงวันหนึ่งช่วงกลางคืนผมและภรรยาหลังจากทำความสะอาดเก็บกวาดร้าน อาบน้ำ ทานข้าว เสร็จเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมหลักของเราคือการดูทีวีกันสองคนในร้าน คือผมจะบอกว่าร้านของผมเป็นร้านโครงสร้างแบบมุงหลังคาด้วยหญ้าคาทั้งหลัง ภายในร้านจะทำเป็นที่พักสำหรับอยู่พักศัยและห้องเก็บอุปกรณ์ขายก๋วยเตี๋ยวเรือด้วย ส่วนห้องน้ำจะทำแยกออกอยู่ด้านนอกร้าน ในคืนนั้นเองระหว่างนั่งดูทีวีกัน ก็ได้มีเสียงเคาะเรียกที่ประตู และเรียกชื่อผม ผมก็ตอบไปว่าใครครับ แล้วผมก็ได้รับรับคำตอบ "พี่เองๆ" ในที่นี้ผมจะขอเอยชื่อพี่คนนี้เป็นอักษรย่อนะครับ ชื่อพี่ "ย"  พี่ "ย" คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่คบกันมาหลายปี ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกับอาของผม พี่ "ย" มาชวนผมดื่มเบียร์เป็นเพื่อนโดยพี่ "ย" ให้เงินผมมาจำนวนหนึ่งเพื่อไปซื้อเบียร์มา 3 ขวด ผมก็ได้ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มกัน เราดื่มกันและดูทีวีกันไปด้วย คุยเรื่องการค้าขายของแต่ละคนไปด้วย

กระท่อมนี้เป็นกระท่อมที่อาผมสร้างไว้เพื่อใช้เป็นที่สังสรรค์ เพราะมันอยู่กลางทุ่งนา มักจะไม่ค่อยมีคนมาวุ่นวาย และอีกอย่างมันเป็นที่ดินของอาผมด้วย พี่ "ย" เลยบอกกับพี่ "ม" ว่าอย่าพึ่งรีบเดี๋ยวขอดื่มกับน้องให้หมดขวดนี้ก่อน แล้วพี่ "ย" ก็ยื่นแก้วที่มีเบียร์เต็มแก้วให้พี่ "ม" พี่ "ม" ยกแก้วดื่มจนหมดแก้วภายในไม่กี่วินาที พอหมดเบียร์ขวดสุดท้าย พี่ "ม" ก็เร่งพี่ "ย" ให้ไปกระท่อมกลางทุ่งนาแบบด่วนมากๆ ผมก็บอกพี่ "ย" ไปว่า "พี่รีบไปเถอะ สงสัยอาผมคงรอแล้ว" เพราะนึกอยู่แล้วว่าอาของผมคงจะให้พี่ "ม" มาตามไปที่กระท่อมแน่ๆ แต่ก่อนไป พี่ "ย" ก็ได้เอ่ยชวนผมว่า "ไปด้วยกันไหม ไปกินเบียร์กับพี่กัน" คำที่พี่ "ย" ชวนย้ำๆ กับผมหลายครั้ง แต่ผมปฏิเสธแบบลังเลเหมือนกัน ในใจก็อยากไป แต่ติดตรงที่ภรรยาอยู่คนเดียว เลยไม่ไปดีกว่า หลังจากพี่ "ย" และ พี่ "ม" ไปกันแล้ว ผมก็นั่งคุยกับแฟนว่า วันนี้พี่ "ย" ดูแปลกๆ ใบหน้าดูเศร้าๆ หน้าคล้ำๆ ดำๆ ยังไงไม่รู้ ภรรยาผมก็ยังพูดกับผมเหมือนกันว่าพี่ "ย" ดูเหมือนคนสิ้นหวัง หดหู่ หน้าหมองเศร้า หลังจากคุยกันสักพักผมกับภรรยาก็เข้านอนเพราะตอนเช้าต้องเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว

เช้าวันถัดมาทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมดผมกับภรรยาต่างทำหน้าที่ของตัวเองคือผมเป็นคนปรุงทำก๋วยเตี๋ยวเรือ ส่วนภรรยาเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า พอช่วงประมาณ 09.45 ผมเห็นรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งวิ่งออกมาจากซอยทางที่ไปกระท่อมของอาด้วยความเร็ว คนที่ขับไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ พี่ "ย" นั่นเอง พี่ "ย" ขี่รถพร้อมเร่งเครื่องด้วยความเร็วเหมือนโมโหใครสักคน ผ่านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวผมไปแล้ววิ่งขึ้นถนนใหญ่ไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มองใคร  ขับไปจนลับตาผม ผมก็แปลกใจว่าพี่ "ย" เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมรีบจัง สักพักแฟนของพี่ "ย" ก็ขี่มอเตอร์ไซต์ตามออกมาจากซอยทางไปกระท่อมของอาผมเช่นกัน พร้อมกับบ่นและด่าพี่ "ย" และเพื่อนทุกคนของพี่ "ย" ด้วย แล้วก็ขี่ขึ้นถนนใหญ่ตามไป สักพักผมได้ยินเสียงคนตะโกนอยู่ริมถนนใหญ่ว่า "มีรถชนกันๆ" ผมเลยวิ่งออกมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น  พอออกมาดูผมก็เห็นคนมุงดูกันเต็มไปหมด จะวิ่งไปดูมันก็ไกลมาก  ประมาณ 500 เมตรได้ แต่รางสังหรณ์ผมรู้ได้เลยว่าต้องเป็นรถพี่ "ย" แน่ๆ เพราะเห็นแฟนของพี่ "ย" ร้องระงมดังมาก ขนาดว่าอยู่ไกลยังได้ยินเสียงของแฟนพี่ "ย" ผมเลยบอกภรรยาให้ดูลูกค้าที่ร้านก่อนเดี๋ยวจะไปตามเพื่อนแกที่อยู่กระท่อมว่าอาจจะเป็นพี่ "ย" ขับรถชนอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะไม่เห็นมีรถคู่กรณี เห็นแต่เพียงเสาไฟบนฟุตบาตเอียงเยอะพอสมควร พอไปตามเพื่อนของพี่ "ย" ทุกคนต่างรีบออกไปดูกันหมดทุกคนรวมถึงอาของผมด้วย แต่ออกมาก็ไม่ทันแล้วเพราะมูลนิธินำร่างของพี่ "ย" ไปยังโรงพยาบาลแล้ว เพื่อนของพี่ "ย" ก็ตามไปที่โรงพยาบาลกันหมด มีแต่เพียงผมไม่ได้ไปเพราะต้องขายก๋วยเตี๋ยว

ประมาณห้าโมงเย็นผมก็ได้ทราบข่าวว่าพี่ "ย" ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ผมกับแฟนถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เพราะว่าเมื่อคืนก่อนยังนั่งคุยกันอยู่เลย คืนถัดมาผมก็ได้ไปงานศพของพี่ "ย" ที่วัด เพื่อไปฟังพระสวดอภิธรรม และก็ได้มีโอกาสคุยกับเรื่องราวความเป็นมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ทราบความจริงจากพี่ๆ ที่เป็นเพื่อนของพี่ "ย" ว่า แฟนของพี่ "ย" เข้าไปตามพี่ "ย" ที่กระท่อม แล้วชี้หน้าด่าพี่ "ย" รวมถึงเพื่อนๆ ของพี่ "ย" ว่าไม่รู้จักทำมาหากิน มานั่งดื่มเหล้าสังสรรค์กันทุกวันอยู่ได้ จึงทำให้พี่ "ย" ทนไม่ไหวด้วยความเมาและโมโห และเป็นคนที่ไม่อยากทะเลาะกับแฟน (เพราะพี่ "ย" เป็นคนกลัวเมียอยู่แล้ว) จึงเดินออกมาจากกระท่อมจับรถมอเตอร์ไซต์ที่แฟนพี่ "ย" ขี่มา  ขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว จนมาชนกับเสาไฟเกาะกลางถนนทำให้เสียชีวิตคาที่ตรงจุดนั้นทันที

ศพของพี่ "ย" ตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ 7 วัน ในคืนวันสุดท้ายวันก่อนเผาผมก็ได้แวะไปที่งานศพเพื่อไปฟังสวนพระอภิธรรมคืนสุดท้าย แล้วก็กลับบ้าน อาบน้ำ กินข้าว ดูทีวี แล้วก็เข้านอนตามปกติทั่วไป คืนนี้ผมมีความรู้สึกว่าอากาศมันหนาวๆ ยังไงชอบกล แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรภรรยาผมก็นอนอยู่ข้างๆ นอนหลับไปในช่วงกลางดึกผมมีความรู้สึกว่าตัวผมขยับไม่ได้เหมือนอยู่ในภวัง กึ่งหลับกึ่งตื่น  พยายามจะพลิกตัวไปอีกข้างก็พลิกไม่ได้ ร่างกายทุกส่วนของผมขยับไม่ได้เลยจะเรียกภรรยาที่อยู่ข้างๆ ภรรยาก็ไม่ได้ยินไม่ยอมตื่น ผมพยายามเอี้ยวตัวเพื่อพลิกตัวไปอีกทางหนึ่งจนพลิกตัวได้ แต่แล้วผมก็ตาเบิกโพลงทันที่เมื่อได้เห็นเงาดำทะมึน ดูจากรูปร่างลักษณะเป็นผู้ชายร่างท้วมๆ ผมเกรียน ผมเห็นผมรู้แน่ชัดเลยว่าเป็นพี่โยแน่ๆ ในใจคิด "เอาแล้วพี่ "ย" มาหลอกกูแล้ว" ผมก็สวดมนต์และแผ่เมตตาให้กับพี่ "ย" แต่พี่ "ย" แกก็ไม่ยอมไป จนผมโมโหทำไม่ต้องมาหลอกหลอนและมาแกล้งกันด้วย ตัวผมจึงรุกไปหยิบมีดหมอที่เหน็บแขวนไว้ตรงข้างฝาบ้านและประคำของหลวงพ่อรูปหนึ่งมีชื่อเสียงของโคราชที่ผมนับถือ จ้วงฟันและกวัดแกว่งประคำไปยังเงานั้น แล้วเงาดำของพี่ "ย" ก็หายวับไป หลังจากเงาดำหายไปแล้ว  ตัวผมสันไปทั้วตัวยืนอยู่สักครู่ใหญ่ๆ ผมก็หันมาเพื่อล้มตัวไปนอน เห็นร่างของตัวเองนอนอยู่ผมถึงกับตกใจทำไมตัวเองยังนอนอยู่ แต่สักพักอยู่ดีๆ ตัวเองถึงกับสะดุ้งตื่นเหงื่อเต็มตัวไปหมด หันไปสะกิดภรรยา บอกกับภรรยาว่าพี่ "ย" มาหา ภรรยาถึงกับตกใจ พร้อมกับบอกผมว่า เธอฝันเห็นพี่ "ย" ในที่ๆ หนึ่งเหมือนกัน ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งไม่ค่อยมีคนเดิน เห็นพี่ "ย" ยืนอยู่ที่ร้านของเขา มีผ้าก็อทพันหัวและตาข้างหนึ่งข้างซ้ายของพี่ "ย" พันด้วยผ้าก็อทเลือดเต็มไปหมด เสื้อผ้าก็มีแต่เลือด แล้วก็สะดุ้งตื่นเพราะผมมาปลุกภรรยาพอดี

เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันเผาของพี่ "ย" วันนั้นผมขายของกับภรรยาจนถึงบ่ายสองโมงเย็น แล้วผมก็บอกภรรยาว่าจะไปเผาศพพี่ "ย" นะ แฟนบอกไปเถอะเดี๋ยวเก็บร้านเอง ไปถึงงานผมก็เล่าเรื่องความฝันให้เพื่อนๆ ของพี่ "ย" รวมถึงอาผมด้วย ส่วนเพื่อนสนิทบางคนก็บวชหน้าไฟให้พี่ "ย" ด้วย เนื่องจากเป็นเพื่อนรักกันเขาเลยบวชให้ เพื่อนๆ ของพี่ "ย" ก็เล่าเรื่องของพวกเขาเหมือนกันว่าพี่ "ย" มาหาเกือบทุกคน เมื่อทำพิธิเสร็จเตรียมเผาบนเมรุ สัปเหร่อก็ได้ทำการเปิดโลงศพของพี่ "ย" เพื่อเตรียมเข้าเตาเผา แล้วให้ภรรยา ญาติพี่น้อง เพื่อน ไปร่ำลาร่างไร้วิญญาณครั้งสุดท้าย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าไปดูศพของพี่ "ย" ครั้งสุดท้าย เพื่อบอกอโหสิกรรม แต่แล้วผมถึงกับตะลึงภาพที่ได้เห็นคือ บริเวณหัวของพี่ "ย" มีผ้าก็อทพันที่หัวและมีพันที่ตาข้างหนึ่ง ซึ่งตรงกับความฝันของภรรยาเล่าให้ฟังอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอะไรที่บังเอิญมันก็ไม่ใช่ มันคือเรื่องจริง หลังจากงานเผาศพของพี่ "ย" เสร็จสิ้น ผมก็มาเล่าให้ภรรยาฟังว่าตอนเปิดโลงศพเห็นลักษณะต่างบนร่างของพี่ "ย" ตรงตามที่ภรรยาได้บอกไว้หมดว่ามีผ้าก็อทพันที่หัวและตรงตาข้างซ้ายพันด้วยผ้าก็อท ก็แปลได้ว่าคืนที่ประสบพบเจอคืนนั้นคือพี่ "ย" ได้มารำลาเป็นครั้งสุดท้ายกับเราสองสามีภรรยาแน่ๆ

Cr : แหล่งรูปภาพจาก Ampoljane.com , pantip.com , homesweethomegame.com , kapook.com