วันว่างๆ ของสุดสัปดาห์ ที่บ้านต่างคิดว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี ที่นั่งรถไปไม่ไกล แล้วพี่ชายก็เสนอมาว่า ไปปราจีนบุรีดีกว่า เพราะมีทั้งหน้าผาและน้ำตก ที่พี่รู้เพราะเคยแอบไปคนเดียวมาแล้ว สงสัยอยากไปสำรวจก่อน และเราก็ตกลงนั่งรถไปกันทั้งครอบครัว มีพ่อ แม่ ฉัน และพี่ชาย เรานั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงจังหวัดปราจีนบุรี พี่ขับรถไปตาม GPS นำทาง พาขึ้นเขาอีโต้ ซึ่งเป็นป่าในเมือง และเป็นวนอุทยานด้วย บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้ป่าขึ้นหนาแน่น ตรงกลางเป็นทางลาดยางที่ขับรถมาได้อย่างสะดวกสบาย และแล้วก็มาถึงผาหินซ้อน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ด้านล่างมองเห็นตัวเมืองปราจีนบุรีเป็นจุดเล็กๆ บรรยากาศดี แม้แสงอาทิตย์จะแรงมากก็ตาม แต่ลมก็พัดเย็นชื่นใจ เราแวะกันไปถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อยู่แค่ประมาณ 2 กลุ่ม ซึ่งไม่เยอะมาก ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเพื่อชมวิวทิวทัศน์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยืนอยู่บนหน้าผา ความรู้สึกคือตื่นเต้น เพราะไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ส่วนความรู้สึกต่อมาก็คือเสียว เพราะมันสูงมาก แต่ก็คิดในใจว่ามาถึงแล้ว ต้องได้ยืนอยู่บนหน้าผา ไม่อย่างนั้นเสียดายแย่ แล้วครอบครัวเราก็ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ ผลัดกันไปยืนทำท่าต่างๆ ซึ่งก็สนุกสนานไปอีกแบบ หลังจากนั้นพี่ก็ขับรถพาไปน้ำตกใกล้ๆ แถวนั้นต่อ ชื่อว่าน้ำตกตะคร้อ ซึ่งความจริงแถวนั้นมีน้ำตกหลายที่มาก แต่ที่นี่มีน้ำตลอดปี ไม่เคยแห้งขอด ซึ่งรับรองความสวยงามได้เป็นอย่างดี ทางเข้าเห็นเป็นป้ายใหญ่ตระการตาที่เขียนว่า "เขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ" เนื่องจากน้ำตกแห่งนี้อยู่ในเขตเขาใหญ่นั่นเอง ซึ่งก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ฉันได้มาเหยียบผืนป่าอันล้ำค่าของประเทศไทย เราเดินกันเข้าไปข้างในซึ่งเป็นป่า แต่เจ้าหน้าที่เขาทำทางเดินตรงกลางไว้ให้ ซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง บรรยากาศลึกลับชวนน่าค้นหา เพราะตอนนั้นเงียบมาก ไม่ใช่ช่วงเทศกาล จึงไม่มีคนอื่นเลย เราใช้เวลาเดินไปประมาณ 10 นาที ก็ถึงบริเวณน้ำตก ฉันรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ เพราะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก เดินเข้าไปเป็นโขดหินยาวรูปทรงประหลาด พอได้เห็นน้ำที่ไหลเอื่อยๆ กับอากาศเย็นๆ และภาพที่อยู่ตรงหน้า ก็รู้สึกประทับใจมาก เพราะมันสวยเกินคำบรรยายจริงๆ ฉันจินตนาการว่าฤดูที่มีน้ำเยอะกว่านี้ คงจะสวยงามมากกว่าที่เห็นอยู่เป็นแน่ เสียงน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ชวนให้เอาเท้าแช่ลงไปในนั้น เสียดายที่ฉันใส่รองเท้าผ้าใบ เลยเอามือจุ่มน้ำแทน คงจะแปลกๆ อยู่ใช่ไหมคะ แต่ขอแค่ได้สัมผัสสักนิดก็รู้สึกดี ที่นี่สวยมาก ฉันคงจะจำภาพนี้ไว้อีกนาน ถ้ามีโอกาสคงได้มาเยี่ยมชมธรรมชาติที่ปราจีนบุรีแห่งนี้อีกครั้ง และเราก็พากันกลับบ้าน จบทริปสั้นๆ สำหรับจังหวัดปราจีนบุรี ที่เที่ยวฟรี แถมได้ไปอีก 2 ที่ ฟินๆ กันไปเลยค่ะ