อื่นๆ

อาถรรพ์ชั้นมอหก ปีจบการศึกษา

1.3k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อาถรรพ์ชั้นมอหก ปีจบการศึกษา


เคยได้ยินความเชื่อโบราณเรื่องเนื้อหอมไหม เช่น คนกำลังจะแต่งงาน คนกำลังจะบวช หรือคนที่กำลังจะเรียนจบ ประมาณว่าเป็นช่วงชีวิตที่เรื่องไม่ดีจะมาหาเยอะกว่าปรกติ ควรงดเว้นสิ่งที่ปรกติไม่ทำ เช่น เดินทางไกลหรือเดินทางไปในที่ที่ไม่คุ้นเคย เเละคอยระวังเคราะห์ภัย หมั่นทำบุญทำทานเพื่อเลี่ยงอาถรรพ์

เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในตอนที่ผู้เล่ากำลังจะจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก ตอนนั้นผู้เล่าเเละเพื่อนๆสอบเสร็จเกือบจะครบทุกวิชาเเล้ว เหลือเเค่หนึ่งอาทิตย์ พวกเราก็จะจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เเละจะเเยกย้ายกันไปเรียนต่อตามมหาวิทยาลัยต่างๆ

ในสมัยนั้น ก่อนจะจบการศึกษาพวกเราจะมีสมุดเล่มหนึ่งที่เอาไว้เขียนข้อความอำลา หรือเเปะรูปให้เพื่อนๆไว้เป็นที่ระลึก สมุดนั้นเรียกว่า เฟรนด์ชิพ ซึ่งเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับสมุดนี้ด้วย โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าของวันสอบก่อนปิดภาคเรียน จู่ๆ อาจารย์ก็มาเเจ้งว่า นักเรียนหญิงห้อง 5 ที่ชื่อกระเเต ถูกยิงเสียชีวิต โดยอาจารย์ก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเพื่อนๆก็ตกใจกันมาก ตอนนั้นผู้เล่าเรียนอยู่ห้อง 3 ซึ่งไม่ไกลจากห้อง 5 นัก ผู้เล่าจำเสียงร้องไห้ของเพื่อนห้อง 5 ได้อยู่เลย อาจารย์เเจ้งพวกเราว่า พรุ่งนี้ให้นักเรียนที่สอบเสร็จเเล้ว สามารถไปช่วยงานศพที่วัดได้ ด้วยความที่ผู้เล่าก็รู้จักมักคุ้นกับกระเเตอยู่เหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่เพื่อนสนิทเเต่ผู้เล่าก็อยากที่จะไปช่วยงานเพื่อนคนนี้ จึงลงชื่อขอไปด้วย

Advertisement

Advertisement

ปืน วันต่อมา เมื่อพวกเราสอบเสร็จ อาจารย์จึงพาพวกเราเกือบๆ 50 ชีวิต ไปที่วัดที่เป็นสถานที่ตั้งศพของกระเเต เมื่อเราไปถึงก็เจอกับพ่อของกระเเต เเกดูเหนื่อยเเละเศร้ามาก เเล้วเเกก็เล่าสาเหตุเเละการตายของกระเเตให้พวกเราฟัง

พ่อของกระเเตเล่าว่าเเกมีลูกทั้งหมดสามคน คือกระเเต เเละ พี่ชายอีกสองคน คนโตนั้นวันที่เกิดเหตุออกไปทำงาน ส่วนพี่คนรองค่อนข้างเกเร เป็นนักเลงเเละเสพยา วันนั้นกระเเตอยู่บ้านกับพี่ชายคนรอง ส่วนตัวพ่อออกไปประชุมอาสาชาวบ้านอยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านไป เพียงไม่กี่ร้อยเมตร เเล้วเเกก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด  เสียงปืนที่ว่าดังมาจากทางบ้านของเเก เเกจึงรีบวิ่งกลับบ้าน

พอเเกกลับมาถึง เเกก็เห็นกระเเตนอนชักจมกองเลือดอยู่ ข้างๆกันเป็นพี่ชายคนรองกำลังนั่งร้องไห้อยู่ข้างศพน้องสาว เเกรีบเข้าไปประคองกระเเตที่ตอนนั้นกำลังจะหมดลมหายใจ พี่ชายที่ยิงน้องบอกกับเเกว่าไม่ได้ตั้งใจจะยิงน้อง เเต่ทะเลาะกันเรื่องเเฟนของกระเเต เพราะพี่ชายกับเเฟนของกระเเตไม่ถูกกัน ทะเลาะกันเเรงมาก กระเเตเอ่ยปากท้าทายพี่ชาย ด้วยความโกรธ พี่ชายจึงชักปืนลูกซองออกมาจ่อที่หัวของน้อง เเละปืนเกิดลั่นจนทำให้กระเเตเสียชีวิต เเกยังบอกอีกว่ากระเเตไม่ได้เสียชีวิตทันที เเต่ชักอยู่หลายนาที ก่อนจะจากไปในอ้อมกอดพ่อ! ส่วนพี่ชายคนรอง พ่อบอกให้หนีไป เพราะทนเห็นลูกคนหนึ่งตาย อีกคนติดคุกไม่ได้ ส่วนพี่ชายคนโตนั้นไม่ยอม อีกทั้งคดีฆ่าคนตายนั้นเป็นคดีอาญา ตำรวจจึงกำลังตามจับพี่ชายคนที่ก่อเหตุ

Advertisement

Advertisement

ผี

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เพื่อนของผู้เล่าก็ชวนให้ผู้เล่าไปดูภาพศพของกระเเต ที่อยู่ที่ร้านถ่ายรูป ซึ่งตำรวจเเละกู้ภัยเอามาล้างไว้ ด้วยความที่เราสนิทกับพี่ที่ทำงานอยู่ที่ร้านนั้น พี่เค้าจึงยอมเปิดให้ดู

สภาพศพของกระเเตคือท่านั่ง กระเเตถูกพี่ชายจ่อยิงบริเวณหน้าผาก ทำให้กระโหลกด้านบนเปิด มันสมองกระจายเลอะไปตาม กำเเพงบ้าน ส่วนบริเวณกระโหลกศรีษะหายไป เเละเป็นสีเขียวคล้ำจากเขม่าดินปืน สามารถมองเห็นเนื้อสมองด้านในเนื่องจาก         เเผ่นกระโหลกศรีษะนั้นเปิดออก

ผู้เล่าตอนนั้นกลัวมาก ภาพมันติดตาจนเก็บไปฝันร้าย เเละนอนไม่หลับอยู่เป็นอาทิตย์ ต่อมาที่โรงเรียน เพื่อนสนิทของกระเเตเล่าให้ฟังว่า หลังจากงานศพ ก็ไม่ได้ข่าวเเฟนของกระเเตเลย เพื่อนด้วยความเป็นห่วงจึงโทรเข้ามือถือของเเฟนกระเเต เเต่เสียงที่รับสายนั้นเป็นเสียงของกระเเต!

Advertisement

Advertisement

ด้วยความตกใจ เพื่อนจึงพยายามกดวาง เเต่เเล้วก็มีเสียงลอดออกมาจากโทรศัพท์ว่า  "มึงกลัวกูเหรอ" เเล้วสายก็ตัดไป ทางด้านเเฟนของกระเเตนั้นโทรกลับมา เเล้วถามว่า "มีอะไรรึเปล่า ทำไมโทรมาเเล้วไม่พูด" เพื่อนคนนั้นจึงเล่าเหตุการณ์ให้เเฟนกระเเตฟัง เเฟนกระเเตก็บอกว่าตอนนี้อยู่ไม่ได้เลย รู้สึกว่ากระเเตมานอนข้างๆเวลากลางคืนเเละเหมือนคอยตามเค้าอยู่เสมอ เค้าจึงตัดสินใจไปบวชที่วัด เพื่ออุทิศบุญให้กระเเต

ส่วนเพื่อนผู้หญิงห้อง 5 อีกคนเล่าให้ฟังว่า กลางดึกเค้าสลึมสลือตื่นขึ้นมา เเล้วมองไปที่โต๊ะเครื่องเเป้ง เห็นเงาของกระเเตนั่งอยู่บนเก้าอี้ เเล้วเงาก็ค่อยๆหายไป เพื่อนคลุมโปงจนถึงเช้า พอไปดูตรงโต๊ะก็เจอสมุดเฟรนด์ชิพของกระเเตวางอยู่ ซึ่งเพื่อนได้นำมาเเลกกันเขียน วิญญาณของกระเเตคงอยากได้สมุดคืน จึงมาให้เห็น เพื่อนคนนั้นเลยรีบเอาสมุดไปคืนให้ที่บ้านของกระเเต ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่พวกเราเรียนจบ ปิดภาคเรียนพอดี เราจึงไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับวิญญาณของกระเเตอีกเลย

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/s/photos/ghost

https://pixabay.com/th/images/search/ghost/?pagi=3

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์