ดวงไฟกลางทุ่ง

พ่อเคยเล่าให้ฉันฟังว่าครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพูดถึงเรื่องราวของดวงไฟดวงหนึ่ง ดวงไฟที่ว่านี้มักลอยต่ำ ส่วนมากจะลอยอยู่บริเวณกลางทุ่งนา สร้างความแตกตื่นและความสงสัยให้แก่ชาวบ้านไม่น้อย และทุกคนต่างลือเป็นเสียงเดียวกันว่า.. มันเป็นแสงไฟของกระสือ ถึงแม้ว่าบางคนจะลงความเห็นว่าเป็นไฟที่เอาไว้ใช้คาดหัวของชาวบ้านที่มาส่องกบส่องเขียดก็เถอะ

อยู่มาวันหนึ่งในช่วงหัวค่ำ น้าแจ๊คซึ่งเป็นน้าชายของฉันขับรถเข้าบ้านมาด้วยความตื่นตระหนก พร้อมกวักมือเรียกพวกพ่อของฉันให้ไปดูอะไรบางอย่างที่ทุ่งนาแถวบ้าน พ่อฉันและเพื่อน ๆ ของพ่อไม่รอช้ารีบสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์และพากันขับออกไปทันที พอมาถึงบริเวณทุ่งนาที่ว่าก็ไม่มีใครพบเจออะไร มีเพียงแค่ความมืดและลมหนาวที่พัดโชยมาเท่านั้น

(เครดิตภาพ enezilmani - Pixabay)

ทุกคนดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ ก่อนน้าแจ๊คจะตะโกนออกมา "นั่นไง ! ผมบอกแล้วว่ามีจริง ๆ "

สิ้นประโยคของน้าแจ๊ค ดวงไฟสีส้มก็ค่อย ๆ ลอยเข้ามาหาพวกเขาเรื่อย ๆ

"เฮ้ย ! มันลอยมาแล้ว" เพื่อนพ่อพูดขึ้น พร้อมกับง้างคันปืนเตรียมจะยิงดวงไฟดวงนั้น

"จะบ้าเหรอ ขืนยิงออกไปคนอื่นได้แห่กันมาพอดี" เป็นเสียงพ่อของฉันที่ห้ามไว้

"แต่แสงมันลอยเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แล้วนะพี่"

น้าแจ๊คพูดจบ จู่ ๆ แสงไฟสีส้มก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาพ่อกับกลุ่มเพื่อนอย่างรวดเร็ว เพื่อนพ่อส่องไฟฉายไปยังดวงไฟสีส้มก็ทำให้เขาถึงกับเกือบช็อค เพราะข้างบนดวงไฟปรากฏเป็นใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ปากเลอะไปด้วยคราบเลือด

(เครดิตภาพ TheDigitalArtist - Pixabay)

ส่วนท่อนล่างของเธอนั้นไม่ปรากฏชัดเป็นลำตัวของคน แต่เป็นพวงเครื่องในที่ห้อยต่องแต่งติดกับหัว สร้างความสยดสยองให้กับพวกพ่อที่เห็นจนแทบวิ่งหนี แต่พวกเขาก็ยังใจกล้าใช้อาวุธที่พกติดตัวมาอย่างไม้ยาว จอบ ยกขึ้นปัดไปมาบนอากาศเพื่อไม่ให้หญิงสาวลอยเข้ามาหาพวกเขาได้ จนน้าแจ๊คใช้ไม้ยาวแหลมทิ่มไปยังบริเวณดวงตาของเธอ เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็ลอยกลับไปยังอีกฝากของทุ่งนาทันที

ทุกคนสตาร์ทรถพากันกลับบ้านอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พวกเขาทุกคนต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ เธอไม่ใช่ผู้หญิงในหมู่บ้านของพ่อฉันเป็นแน่ เพราะไม่มีใครคุ้นหน้าเธอเลย แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีใครเห็นดวงไฟลอยไปมากลางทุ่งนาอีกเลย

(เครดิตภาพหน้าปก cocoparisienne - Pixabay)