สวัสดีค่ะหนุ่มสาวชาวนักวิ่ง สายจ๊อกกิ้งที่ชอบออกกำลังกายทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่กำลังหันมาสนใจกีฬาชนิดนี้ แน่นอนว่ากีฬาวิ่งเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่ามันสามารถเบิร์นได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ สำหรับมือใหม่ที่กำลังหัดจ๊อกกิ้งเพราะอาจจะต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างหากไม่มีการเตรียมตัวให้พร้อม วันนี้เราจึงมีทริคดีๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวออกไปวิ่งมาฝาก ถ้าอยากรู้แล้วตามไปดูพร้อมๆ กันเลย 1.พักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ ภาพโดย 溢 徐 จาก Pixabay ก่อนที่คุณจะคิดออกไปวิ่งข้างนอก สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุลมากที่สุด เป็นการเตรียมความพร้อมที่เราไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด และจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนออกไปวิ่ง ที่แน่ๆ เลย คือ คุณอาจวูบหลับไปกลางทางก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าทำให้การวิ่งเป็นกีฬาที่ไม่น่าจดจำของคุณอีกต่อไปเลยนะคะ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอก่อนจะดีกว่า 2.วอร์มร่างกายก่อนวิ่ง ภาพโดย Ryan McGuire จาก Pixabay สิ่งสำคัญที่รองลงมาจากการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ คือ การวอร์มร่างกายตัวเองก่อนวิ่ง สักประมาณ 10-15 นาที เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายก่อนลงสนามจริง เช่นเดียวกันหากเราไม่มีการวอร์มร่างกายตัวเองให้พร้อมก่อนก็อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้ บาดเจ็บในที่นี้คือ การอักเสบตามกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วการวอร์มร่างกายนั้นควรจะต้องทำในกีฬาทุกประเภทเลยนะคะ 3.ดื่มน้ำก่อนออกไปวิ่ง ภาพโดย ExplorerBob จาก Pixabay เน้นย้ำนะคะว่าให้ดื่มน้ำ ประมาณ 30 นาที ก่อนออกไปวิ่ง ไม่ใช่วิ่งไปด้วยดื่มน้ำไปด้วย เพราะถ้าทำแบบนั้นอย่างต่อเนื่องอาจะจะทำให้เราเกิดการจุกท้องจนไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ แต่การรดื่มน้ำก่อนที่จะออกไปวิ่งนั้น ข้อดีของมันคือช่วยลดการเกิดตะคริวนั่นเอง เพราะน้ำจะช่วยทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล และทดแทนเหงื่อที่เสียไปนั่นเองค่ะ หรือใครจะเลือกดื่มเป็นเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่ก็ได้นะคะ 4.ฟังเพลงเบาๆ ไปด้วย ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay ลองหาเพลงที่ชอบ ฟังสบายๆ เปิดคลอเบาๆ จากนั้นใส่หูฟังให้กระชับและเปิดฟังไปด้วยในระหว่างที่กำลังวิ่ง จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น และที่สำคัญคือสามารถวิ่งได้นานขึ้นนั่นเอง แต่ไม่แนะนำให้เปิดเพลงร็อคดนตีมันส์ๆ เร้าใจนะคะ เพราะถ้าทำแบบนั้นเหมือนกับว่าเรายิ่งไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงขึ้น และอาจจะทำให้เหนื่อยเร็วเพราะหัวใจทำงานหนักจนเกินไปนั้นเอง 5.หากเหนื่อยก็ให้เดินเร็ว ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay แน่นอนว่าเราก็ต้องหยุดพักบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับหยุดนั่งพอหายเหนื่อยก็ลุกขึ้นมาวิ่งต่อ แบบนั้นจะทำให้เรารู้สึกเบื่อ และท้อเพราะทำไม่ต่อเนื่อง ลองวิ่งสลับกับเดินเร็วก็สามารถช่วยได้ เพราะการเดินเร็วก็เหมือนการออกกำลังอย่างหนึ่ง (เน้นย้ำนะคะ ว่าให้เดินเร็ว หลีกเลี่ยงการเดินแบบช้าๆ ) เป็นการรักษาระดับการเต้นของหัวใจให้คงที่และจะทำให้เราเหนื่อยช้าลง และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ อย่าหยุดที่จะวิ่งนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้คนที่เริ่มหันมาดูแลรักษาสุขภาพทุกคนเลย เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน หวังว่าทริคดีๆ เหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อย ก่อนจากกันไปเราก็มีข้อคิดดีๆ มาฝาก เมื่อคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็จงหมั่นทำอย่างต่อเนื่องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และอย่าหักโหมมากจนเกินไป เหนือสิ่งอื่นใดไม่ว่าเราจะพยายามทำอะไรก็ตาม จะสำเร็จได้หรือไม่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจของเราเอง...