เนื่องจากสถานการณ์โควิค -19 ที่ส่งผลกระทบในทุกภาคส่วนของเศษฐกิจโลก ทำให้การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศต้องหยุดชะงัก ทำให้ภาคอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าได้รับปัญหาค่อนข้างหนักที่สุด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประสบกับการโดนยกเลิกออเดอร์ของลูกค้าต่างประเทศ ส่งผลในทางการบริหารทุนทรัพย์ตามมาโดยทางบริษัทนั้นเองก็หามาตการต่างที่จะทำให้วงการได้อยู่รอด ในเมื่อเป็นเเบบนี้ผลกระทบที่หนักอีกก็คือแรงงานในสายการผลิต ซึ่งมีการเปลี่ยนการจัดระบบเพื่อความอยู่รอดของทางฝ่ายนายจ้างนั้น จำเป็นต้องลดพนักงานในสายการผลิตลง โดยระบบจัดการนั้นจะพยายามให้พนักงานได้รับผลกระทบในส่วนนี้น้อยที่สุด และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัทในรูปแบบที่เหมาะสมกับการลดพนักงานลงในครั้งนี้ โครงการสมัครใจลาออก การจัดตั้งโครงานสมัครใจลาออก การที่เจอสถานการณ์แบบนี้ทำให้ทางบริษัทเกิด "สภาพคล่อง" ทางการเงินกับการส่งออกสินค้าไม่ได้ จึงได้ตั้งโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับการจัดการงบประมาณให้อยู่ในสภาพที่ลงตัวที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่านี้ โดยต้องการพนักงานคนที่สมัครใจเท่านั้น จะมีค่าตอบแทนกับพนักงานดังกล่าวในความเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด และจะพิจารณาตามกฎเกณฑ์ของพนักงาน และมีสวัสดิการหลังการลาออกเป็นการอุ้มชูกันในอีกระยะหนึ่ง หรือเรียกว่า ตัดบัวยังเหลือใย ทั้งหมดนี้จึงเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับการลดจำนวนสายการผลิตลง โดยที่เกิดผลเสียกับตัวพนักงานน้อยที่สุดสำหรับค่าตอบแทนในการสมัครใจลาออกนั้น จะแบ่งเป็นหมวดหมู่ และเป็นไปตาม กฏเกณฑ์ที่ลงตัวกับพนักงานที่ลาออกในครั้งนี้ คือการแบ่งตาม อายุคน อายุงาน ตำแหน่ง เป็นต้น ผู้เขียนจะตัวอย่างของบริษัทที่ผู้เขียนทำงานอยู่มาให้ผู้อ่านทุกท่านรู้กัน เป็นเพียงตัวอย่างนะครับ ในส่วนค่าตอบแทนในแต่ละบริษัทจะไม่เท่ากันนะครับ ผู้เขียนจึงได้ยกตัวอย่างของโรงงานที่ผู้เขียนทำงานอยู่ปัจจุบันที่ได้ตั้งโครงการนี้ขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ พนักงานประจำที่มีอายุงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มีอายุน้อยกว่าหรือเทียบเท่า 54 ปีบริบูรณ์ ส่วนพนักงานที่จะเกษียณอายุในปี 2563 จะไม่มีสิทธินะครับ โดยให้เงินช่วยเหลือตามแต่ละช่วงอายุ พนักงาน และอายุการทำงาน 8-35 เดือน พนักงานอายุ 27-39 ปี ทำงานตั้งแต่ 1-2 ปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 8 เดือน(ผู้เขียนตรงตามข้อหัวนี้เลยย) อายุงาน 3-5 ปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 11 เดือน จนถึงกลุ่มที่อายุงาน 20-24 ปี ได้เงินช่วยเหลือ 25 เดือนพนักงานอายุ 40-44 ปี ทำงานตั้งแต่ 1-2 ปี ได้เงินช่วยเหลือ 9 เดือน จนถึงอายุงาน 25 ปีขึ้นไป ได้เงินช่วยเหลือ 30 เดือน พนักงานที่อายุ 45-50 ปี ทำงานตั้งแต่ 1-2 ปี ได้เงินช่วยเหลือ 12 เดือน จนถึงอายุงาน 25 ปีขึ้นไป ได้เงินช่วยเหลือ 33 เดือน พนักงานอายุ 51-54 ปี ทำงานตั้งแต่ 1-2 ปี ได้เงินช่วยเหลือ 17 เดือน จนถึงอายุงาน 25 ปีขึ้นไป ได้เงินช่วยเหลือ 35 เดือน ทั้งหมดที่ผู้เขียนได้เเชร์ไปนี้ จะเห็นได้ว่าผลกระทบทางด้านเศษฐกิจของโลกเคลื่อนตัวได้ช้าลงถึงขั้นชะงัก กับสถานการณ์โรคโควิค -19นี้ ทำให้ทุก ๆ ส่วนย่อมได้รับผลกระทบเหมือนกันทั้งกลุ่มผู้ว่าจ้างก็ต้องหาทางเอารอดตัวเช่นกันโดยตั้งโครงการออกมาแบบนี้ละครับ อย่างน้อยคนที่ออกก็ได้ค่าตอบแทนเป็นทุนชีวิตต่อไป ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทั้งสองฝ่าย หวังว่าผู้อ่านทุกท่านได้รับรู้ถึงผลกระทบของกลุ่มผู้ว่าจ้างและผู้ใช้เเรงงานกับสถานการณ์โควิค -19นี้แล้วนะครับ ผู้เขียนในนามกลุ่มผู้ใช้เเรงงานคนหนึ่งจึงได้นำประสบการณ์โรงงานตัวเองมาแชร์ให้ทุกรับรู้เป็นข่าวสารครับ สวัสดีครับ ภาพประกอบจาก pixabay ภาพหน้าปก/ภาพประกอบ 1 /ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3