วันนี้ทางโรงเรียนของฉันได้พามาเข้าค่ายลูกเสือที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งไกลมากจากกรุงเทพฯ ฉันรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวและเผลอหลับไปนานน้ำฝน : " ...ถึงแล้วรินดา.. " เสียงของน้ำฝนเพื่อนสนิทของฉันสกิดฉันให้ตื่นเมื่อฉันลืมตาขึ้น สิ่งที่ฉันเห็นคือ ค่ายลูกเสือที่ล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ ไม่มีบ้านคนซักหลัง นี่ถ้าไม่มีคน ก็ดูไม่ต่างจากป่าช้าเลย มันดูน่าวังเวงชอบกลครูวิภา : " ...อ่ะ!! ...เด็กๆ..ลงมาได้แล้ว ต่อแถวให้เป็นระเบียบ เดี๋ยวครูจะพาไปที่ห้องพัก เอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บกันก่อน … " เสียงครูวิภา ครูประจำชั้นของฉันเองเมื่อถึงห้องพักทุกคนดูตื่นเต้นมากๆ ห้องพักเป็นห้องนอนรวมใหญ่ๆ มีเตียงสองชั้นเรียงๆกันไป ฉันเลยมั่นใจว่ายังไงคืนนี้คงไม่มีใครได้นอนแน่ เพราะต่างถิ่น และคงจะสนุกมากถ้าได้จับกลุ่มนั่งเล่นกันฉันเปิดหน้าต่างที่อยู่ข้างๆเตียงฉัน แล้วเมื่อมองออกไปฉันเห็นตึกร้างตึกหนึ่ง แต่ทำไมนะ ฉันถึงรู้สึกคุ้นตามากเหมือนเคยไปที่นั่นมาก่อน….ขอบคุณรูปภาพจาก cr.mascoops.comน้ำฝน : " ...ดูอะไรอยู่น่ะ รีบลงไปข้างล่างได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก" น้ำฝนจับมือฉันแล้วพาฉัน ลงไปข้างล่างในวันนี้ก็มีกิจกรรมมากมาย สนุกกันมาก แต่ในหัวฉันทำไมมันถึงคิดถึงแต่….ตึกร้างนั่นจังเลยนะหลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จครูก็ได้ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อน ฉันกับน้ำฝนก็ไปเดินเล่นแถวๆตึกที่พักของเรา" ..แก้ว.. แก้ว... เธอมาหาฉันแล้ว.." เสียงผู้ชายดังแว่วขึ้นมาฟังแล้วน่าขนลุกฉัน : "....เสียงใครน่ะ น้ำฝนเธอได้ยินไหม… " ฉันถามเพื่อนสนิทของฉันน้ำฝน : "...ไม่ได้ยินอะไรเลย ตรงนี้มีแค่เรา 2 คนนะ..." น้ำฝนทำท่ากลัวฉัน : "..เหมือนเสียงจะมาจากตึกร้างตรงนั้นเลย.." ฉันบอกน้ำฝนพร้อมชี้ไปที่ตึกร้างนั้นน้ำฝน : "...ฉันว่าเราไปที่อื่นกันเถอะรินดา ฉันกลัว.." น้ำฝนดึงมือฉัน ..ไปรวมกลุ่มเพื่อนๆคนอื่นๆเวลา 18.00 น. ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ครูก็ให้ทุกคนไปพักผ่อนที่ห้องพัก ทุกคนสนุกเฮฮากันใหญ่ บ้างก็วิ่งไล่จับกัน บ้างก็จับกลุ่มเล่าเรื่องสนุกๆกัน บ้างก็กินขนมกัน คงมีเพียงน้ำฝนกับฉันที่ดูเหนื่อยมาก และน้ำฝนก็หลับตั้งแต่ขึ้นมาห้องพักแล้ว แต่...ฉันยังคงมองตึกร้างนั้น ผ่านหน้าต่างมาซักพักแล้ว ทำไมฉันรู้สึกอยากไปที่นั่นจัง...เวลาผ่านไปจนถึง ตี 2 ทุกคนหลับสนิท มีเพียงฉันที่พยายามนอนเท่าไหร่ก็ไม่หลับ…"...แก้ว... แก้ว... ฉันคิดถึงเธอจัง ฮือ..ฮือ..ฮึ..ฮือ..." เสียงเรียกเสียงเดิม และกำลังร้องให้ ดังแว่วขึ้นมาฉันลุกขึ้นนั่ง..และมองไปที่ตึกร้างนั้น ฉันมั่นใจว่า...เสียงนั้นมาจากตึกร้างแน่นอน และ..ฉันรู้สึกคุ้นเคยเสียงนี้มากๆ และเชื่อว่าเขาเรียกฉันฉัน : "...น้ำฝน น้ำฝนตื่นก่อน..." ฉันหันไปปลุกน้ำฝนน้ำฝน : " อือ...มีอะไรหรือปล่าวรินดา ปวดฉี่หรอ.."น้ำฝนขยี้ตาไปมา และถามฉันด้วยความง่วงฉัน : "..ฉันได้ยินคนเรียกฉันอีกแล้ว มาจากตึกนั่น ฉันอยากไปที่นั่น ...เธอไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ"น้ำฝน "..จะบ้าหรอรินดา ที่นั่นน่ากลัวมากเลยนะ และครูคงไม่ยอมให้ไปแน่ๆ.." น้ำฝนส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว เธอกลัวจนขนลุก..แต่...ในหัวของฉันคิดแต่ว่า…..จะต้องไปที่นั่นให้ได้เลย..จนเวลา ตี 3 น้ำฝนหลับสนิท ฉันจึงเดินลงมาข้างล่างเพื่อจะไปตึกร้างนั้น ข้างล่างมีครูผู้ฝึกนั่งเฝ้าอยู่ข้างล่าง 4-5 คน ฉันพยายามแอบไม่ให้ครูฝึกเห็น และออกมาจากตึกที่พักได้"แก้ว.." เสียงเอื่อยๆเสียงเดิมยังคงเรียกฉันฉันเดินตามเสียงนั้นไปโดยไม่คิดกลัวอะไร.. จนถึงตึกร้างมีป้ายใหญ่ป้ายหนึ่ง.. เป็นเหมือนป้ายชื่อโรงเรียนแต่มันเก่ามาก ..จนอ่านไม่ออกเลย "แก้ว.."ฉันเดินตามเสียงเรียกนั้นเข้าไปในตึก "แก้ว.."เสียงเรียกนั้นดังอยู่ที่ชั้นสอง ฉันค่อยๆเดินขึ้นบันไดเก่าๆ ซึ่งมีหลายขั้นมากที่ใกล้จะหัก เวลาเดินฉันต้องระวังสุดๆเลยล่ะขอบคุณรูปภาพจาก cr.tnews.co.thจนเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องแรก ที่ติดกับบันได จู่ๆก็มีลมเย็นๆ ...วูบวาบพัดมาเบาๆ... จนฉันรู้สึกหนาว…ฉันลูบแขนตัวเองเบาๆ ก่อนจะผลักประตูเก่าๆใกล้จะพังเข้าไปในห้อง ในห้องไม่มีสิ่งของอะไรเลย มีเพียงกระดานดำ เศษใบไม้ ฝุ่น และใยแมงมุมเต็มห้อง หน้าต่างผุๆพังๆ และยังคงมีลมเย็นยะเยือก…..พัดมาโดนตัวฉันอยู่ตลอด..."แก้ว" เสียงเดิมนั้นดังมาจากข้างหลังฉันฉันพยายามรวบรวมความกล้า และตั้งสติ เพราะฉันรู้ว่า...สิ่งที่อยู่ข้างหลังฉันนั้น….ต้องไม่ใช่คนแน่ๆ...ฉันตัดสินใจหันหลังไป สิ่งที่เห็นคือ...ผู้ชายคนหนึ่ง รุ่นราวคราวเดียวกับฉัน... เขานั่งกอดเข่า..ก้มหน้าและร้องให้เบาๆ..ขอบคุณภาพจาก cr.siamzone.comฉันรู้สึกสงสารเขา ฉันค่อยๆเดินเข้าไปนั่งข้างๆเขา โดยไม่รู้สึกกลัว แต่กลับ...รู้สึกคุ้นเคยมากกว่า..ฉัน : "...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่.." ฉันถามเขาด้วยความสงสัยเขา : "...เธอไม่กลัวฉันหรอ แก้ว..." เขาเงยหน้ามามองหน้าฉันฉัน : " ..ทำไม...ถึงไม่ไปเกิดล่ะ ห่วงอะไรหรือปล่าว.."เขา : "...ฉันรอเธอ รอมานานมาก... ฉันคิดถึงเธอ..."ฉัน : "..เธอเป็นใคร... เรารู้จักกันใช่ไหม ...ทำไมฉันถึงคุ้นเธอจัง"เขามองหน้าฉันทั้งน้ำตา และลุกขึ้นยืนเขา : "...ตามฉันมาสิ ถ้าเธออยากรู้..." เขายื่นมือมาที่ฉันฉันมองหน้าเขาด้วยความสงสัย และจับมือเขา เขาดึงฉันลุกขึ้นและพาเดินลงไปข้างล่าง"...ฮะ ฮะ ฮ่า บุญมีส่งมาทางนี้สิ..." ระหว่างเดินลงบันไดฉันได้ยินเสียงที่เหมือนฉันเป๊ะๆ" เอ้า รับให้ได้นะ ฮะ ฮะ ฮ่า " และเสียงนี้ ก็เหมือนผู้ชายที่อยู่ข้างฉันเมื่อเดินมาถึงข้างล่าง ฉันเห็นตัวเองและเขา...เล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่ทว่าร่างที่ฉันเห็น ดูเหมือนจะเป็นภาพในอดีต….ฉันยืนอึ้งที่เห็นภาพนั้น และรู้สึกว่าฉันกับผู้ชายข้างๆฉัน เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ...และเราเล่นวอลเล่บอลด้วยกันอย่างสนุกสนาน"..เพล้ง!! " กระจกหน้าต่างบานใหญ่ แตกต่อหน้าต่อตา...เมื่อบุญมีโยนลูกวอลเล่บอลมาให้ฉัน…. แล้วฉันรับไม่ได้จนไปโดนกระจกจนแตก... เราทั้งสองมองน่ากันด้วยความตกใจและกลัว เหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…." พวกมึงเล่นอะไรกัน!! " เสียงชายวัยประมาณ 40 กว่าปีร้องลั่น แต่งตัวเหมือนภารโรงบุญมี : " . พ่อ!! ฮือ..... ผมขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ" บุญมีนั่งคุกเข่ายกมือไหว้พ่อของเขาพ่อบุญมี : "..วันๆสร้างแต่ปัญหาให้กู ไอ้ลูกเวร ทำไมนะ ทำไมแม่มึงไม่เอามึงไปอยู่ด้วย อีเมียชั่ว!!.." พ่อของบุญมีโมโหจนหน้าแดงก่ำ ในมือกำด้ามไม้กวาดแน่นมากๆบุญมี : "..ผมขอโทษครับพ่อ ผมขอโทษ.." บุญมีร้องให้จนตัวสั่น แก้ว : "..หนูผิดเองค่ะ อย่าทำอะไรบุญมีเลยนะคะลุงศักดิ์"พ่อบุญมี : "..หน๊อย..มึง อีนังตัวดี มาเล่นกับไอ้บุญมีทีไร มีเรื่องตลอด อีนังตัวซวย.." พ่อบุญมีชี้นิ้วมาที่แก้ว ด้วยใบหน้าอันน่ากลัวแก้ว : "...หนูขอโทษค่ะ อย่าทำอะไรบุญมีเลยนะคะ" แก้วคุกเข่ายกมือไหว้ด้วยความกลัวพ่อบุญมี : "..มึงไม่ต้องมาขอร้องกู มึงกลับบ้านของมึงไปเลย ...กูไม่ให้พวกมึงเล่นด้วยกันอีกแล้ว... อีตัวซวย ไป!! ไป!! อย่ามาที่นี่ให้กูเห็นหน้ามึงอีก" พ่อบุญมีชี้หน้าและไล่แก้วบุญมี : "..พ่อครับ ผมขอร้อง... อย่าห้ามพวกเราเจอกันเลยนะครับ พวกเราเป็นเพื่อนกัน...มาตั้งแต่จำความได้แล้ว ผมกับแก้วไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย เรามีกันแค่สองคน พ่ออย่าห้ามพวกเราเลยนะครับ" บุญมียกมือสั่นๆของเขา ขอร้องพ่อของเขา พ่อบุญมี : "...มึงไม่ต้องพูด!.."พ่อบุญมีกระชากผมบุญมีและดึงให้ลุกขึ้นพ่อบุญมี : "..มึงไปให้พ้นหน้ากูเดี๋ยวนี้ มึงอย่ามาที่นี่อีก อีตัวซวย!.." พ่อบุญมีชี้หน้า และไล่แก้วอีกครั้งแก้ว : "...ฮือ.... บุญมี.. ถ้าชาตินี้เราจะไม่ได้เจอกัน...ก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าชาติหน้ามีจริง...ขอให้เราเป็นเพื่อนกันอีกนะ ฮือ.." แก้วร้องให้สะอึกสะอื้น... และมองหน้าบุญมีบุญมี : "ฉันจะรอเธอนะแก้ว ฮือ.." บุญมียิ้มให้ทั้งน้ำตาพ่อบุญมี : "...ไป!! อีแก้ว มึงไปให้พ้นหน้ากูเดี๋ยวนี้.." พ่อบุญมีไล่แก้ว แก้วลุกขึ้นยืนและเดินจากไปพ่อบุญมี : "..มึงมานี่ ไอ้บุญมี..." พ่อบุญมีกระชากหัวบุญมี ลากเขาไปหลังโรงเรียน วิญญาณบุญมีที่ยืนข้างๆฉัน มองหน้าฉันแล้วจับมือฉันเดินตามไปหลังโรงเรียน ….จนเดินไปถึงบ่อน้ำบาดาลเก่าๆ…..พ่อบุญมี : "...มึงไอ้ลูกเวร มึงหน้าจะตายๆไปซะ แม่มึงทิ้งกูไปหาผัวใหม่ไม่พอ... ยังทิ้งมึงให้เป็นภาระกูอีก สร้างแต่ปัญหาให้กูไม่เว้นแต่ละวัน.." พ่อบุญมีกระชากหัวบุญมีไม่ปล่อยบุญมี : "..ก็พ่อกินแต่เหล้า เมาแล้วก็ตีแม่ ตีผม อย่ามาว่าแม่นะ พ่อนั่นแหละที่ผิด" บุญมีตวาดใส่พ่อพ่อบุญมี : "...มึง!! ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง " พ่อบุญมีจับหัวบุญมี กระแทกขอบบ่อน้ำบาดาลสภาพที่ฉันเห็นคือ... เลือดเต็มไปหมด น้ำตาของฉันมันก็ไหลออกมา ด้วยความสงสารพ่อบุญมี : "...ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง ไอ้ลูกเวร ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง.." พ่อบุญมียังคงจับหัวบุญมีกระแทกไม่หยุด"ตุบ!" บุญมีทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่ได้สติ มีเลือดเต็มไปหมดพ่อของบุญมีตกใจ...เขาเอานิ้วไปอังตรงจมูกและรู้ว่าบุญมีตาย เขาทำท่าลุกลี้ลุกลน มองซ้ายมองขวา ว่ามีคนเห็นไหม…พ่อบุญมี : "..ทำไงดีว่ะ มันตายแล้ว ...กูต้องติดคุกแน่ๆ" พ่อบุญมีกำลังคิดหาทางออกทันใดนั้นพ่อบุญมีก็มองไปที่บ่อน้ำบาดาลซักพัก แล้วอุ้มบุญมีขึ้น โยนลงไปในบ่อฉัน : "ไม่นะ ไม่จริง" ฉันร้องให้เสียใจรู้สึกสงสารบุญมีมาก ภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าฉัน...มันโหดร้ายมากๆ บุญมีหันมา...จับมือฉันพร้อมร้องให้เสียใจต่อมา...พ่อบุญมีตักน้ำขึ้นมา..และล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ตรงขอบบ่อออก แล้ววิ่งไปที่ห้องพักของเขา…. เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า...เพื่อหนีออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้ และพ่อบุญมี... ก็หนีออกไปได้อย่างง่ายดาย เพราะวันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียนซักคน…บุญมี : "...ฉันรอเธอมานานมากเลยนะแก้ว... ฉันคิดถึงเธอ ร่างของฉันยังอยู่ในบ่อ….ไม่มีใครช่วยฉันเลย" บุญมีมองหน้าฉันพร้อมร้องให้บุญมี : "...เธอเองก็โดนรถชนหลังจากที่พ่อฉันไล่เธอออกไป ฉันทำให้เธอต้องตาย ฉันขอโทษนะแก้ว.."ฉัน : "..บุญมี มันคงเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก ฉันเองที่ผิดที่ทำให้พ่อเธอทำร้ายเธอ" ฉันเสียใจมากจริงๆบุญมี : "..ไม่ใช่เพราะเธอหรอกแก้ว เธอเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด ฉันทำตามที่สัญญาไว้แล้วนะ ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป... ฉันรอเธออยู่ที่นี่ และวันนี้เธอก็มาหาฉันแล้ว..." บุญมีโผกอดฉันแน่นฉัน : "..โถ่...บุญมี เธอคงทรมานมากสินะ ..เธอไปเกิดเถอะ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว.." ฉันพูดทั้งน้ำตาบุญมี : "..แก้ว...เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปได้ไหม ชาติหน้าขอให้เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม.." เขาถามฉันฉัน : "..เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะบุญมี.." ฉันจับมือบุญมีแน่น...ซักพักบุญมีที่ยืนอยู่ตรงน่ายิ้มให้ฉัน แล้วก็ค่อยๆเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาฉันบุญมี : "โชคดีนะแก้ว…." เสียงของเขาบอกลาน้ำฝน : "รินดา รินดา รินดาตื่นได้แล้ว" เสียงน้ำฝนปลุกฉันเมื่อลืมตาขึ้นมา ก็เช้าแล้ว ตอนนี้น่าจะเวลาประมาณ 09.00 น. ฉันไม่รู้ว่าฉันหลับตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนครูวิภา : "..เธอมาทำอะไรที่นี่ ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนๆตามหาเธอแทบแย่..." ครูวิภาถามฉัน : "..ครูคะ มีคนตายอยู่ในบ่อนี้.." ฉันชี้ไปที่บ่อครูวิภา : "..อะ..อะไรนะรินดา.." ครูจ้องหน้าฉัน และตกใจมากกับสิ่งที่ฉันพูด..ครูวิภา : "..เอาล่ะ เดี๋ยวครูโทรหาตำรวจให้มาดูให้ เธอกลับไปที่ค่ายได้แล้ว..."น้ำฝน : "..ลุกไหวไหมรินดา" น้ำฝนพยุงฉันลุกขึ้นตำรวจได้เข้าไปตรวจ และก็พบโครงกระดูกจริงๆ แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมานานเกือบ 100 กว่าปี จึงไม่สามารถชันสูตรอะไรได้ ทุกคนยังคงขนลุกกับเหตุการณ์นี้ และพูดถึงฉันอยู่ตลอด ฉันยังคงทำตัวปกติ และ "..คิดถึงเธอเสมอ..บุญมี.."