แม้ว่าจิตใจของมนุษย์นั้นจะเป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเราทุกคนและเป็นสิ่งที่อยู่กับเราตลอดเวลาตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจอยู่ แต่มันกลับเป็นสิ่งที่เข้าถึงยากและซับซ้อน มีคำถามมากมายที่เรายังไม่อาจหาคำตอบได้ ทั้งความคิด ความเชื่อ และพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่หนังสือที่ผู้เขียนจะนำมารีวิวในวันนี้อาจมีคำตอบที่คุณอยากรู้ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ค่ะหนังสือขุนเขาเกาสมอง จำนวน 272 หน้า ราคา 250 บาทภาพโดยผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานเขียนของคุณขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร ที่จะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับความกลัว ความรัก ความทุกข์ สมองของคนที่เป็นโรคจิต และเป็นอาชญากร ฯลฯ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากค่ะ มีการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ พุทธศาสตร์และจิตวิทยามาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เนื้อหาเข้าใจง่าย อ่านสนุกและน่าติดตาม มีพลังการดึงดูดผู้อ่านสูงมาก หยิบขึ้นมาแล้วไม่อยากวางเลยล่ะค่ะ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะทำให้เราเข้าใจกลไกการทำงานของสมองที่ส่งผลต่อการแสดงออกในแต่ละด้านของตัวเรามากขึ้น เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ทั้งทางโลกและทางธรรมมากขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่มอบความรู้ที่เสริมเติมกันให้ผู้อ่านมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ภาพโดยผู้เขียนและนอกจากนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบจะได้เห็นการใช้หลักจิตวิทยาในชีวิตประจำวันของเราชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งการช่วยพัฒนาสังคม ชีวิตและจิตใจของผู้คนได้อย่างมากมายมหาศาล แต่จิตวิทยาก็มีด้านมืดของมันเช่นเดียวกันกับเหรียญที่มักจะมีสองด้านเสมอ เช่น จิตวิทยาของบ่อนการพนัน1. ในบ่อนการพนันนั้นจะไม่มีหน้าต่างและนาฬิกา เพื่อให้คุณลืมกาลเวลาและหลงไปกับแสงสีพร้อมทั้งสนุกไปกับกิจกรรมเสี่ยงดวงที่อยู่ตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน 2.แสงไฟในบ่อนจะเป็นสีเหลืองนวลเสมอ เพราะมันเป็นแสงแห่งภวังค์ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ผ่อนคลายและเบาสบาย ทำให้การผลาญเงินของตนเองนั้นลื่นไหลมากยิ่งขึ้น3.ในบ่อนการพนันจะไม่มีเก้าอี้ให้นั่งพักเฉย ๆ ดั้งนั้นหากคุณเข้าไปในบ่อนแล้วเกิดอาการเมื่อยอย่าหวังว่าคุณจะได้นั่งพักโดยปราศจากสิ่งยั่วยุที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างไรกันบ้างคะ เห็นความมหัศจรรย์ของจิตวิทยากันหรือยังเอ่ยย นี่เป็นแค่น้ำจิ้มส่วนเล็ก ๆ ที่ผู้เขียนหยิบยกและสรุปมาจากเนื้อหาบางส่วนจากทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้เท่านั้นเองค่ะ ผู้เขียนรับรองว่าความรู้ที่ผู้อ่านทุกท่านได้รับจากหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมองโลกในความเป็นจริงได้มากขึ้นและไม่หลงไปกับจิตวิทยาที่อยู่รอบตัวไปง่าย ๆ โดยปราศจากการไตร่ตรองของเราเสียก่อนภาพโดยผู้เขียนและในส่วนท้าย ๆ บทของหนังสือยังมีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการนอนหลับและความฝันด้วยนะคะ ทุกท่านรู้มั้ยว่ามนุษย์เราใช้เวลาไปกับการนอนโดยเฉลี่ยแล้วมากกว่า 1 ส่วน 3 ของเวลาชีวิตทั้งหมด หลายท่านอ่านแล้วอาจจะเกิดความเสียดายเวลาเหล่านั้น แต่อย่าอดนอนเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะการนอนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตของเราเช่นเดียวกันกับการทานอาหารเมื่อท้องหิว ร่างกายของเราก็ต้องหารที่จะพักผ่อนเพื่อเติมกำลังเช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้นจงนอนไปอย่างปกติดังที่มันควรจะเป็นนะคะ ไม่ต้องเสียดายเวลา และอีกอย่างหนึ่งช่วงเวลาของการนอนยังเป็นช่วงเวลาที่สมองบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญจากการพบเจอในแต่ละวันซึ่งเป็นความทรงจำระยะสั้นถ่ายโอนไปยังความทรงจำและประสบการณ์ในระยะยาวนั่นเองค่ะ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าการนอนน้อยทำให้เราหลง ๆ ลืม ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้อยู่บ่อย ๆ เพราะสมองขาดการถ่ายโอนเพื่อบันทึกข้อมูลลงในความทรงจำนั่นเองค่ะภาพจาก Pixabayโดยรวมแล้วหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้ทางจิตวิทยาในหลายแง่มุมมาก ๆ เมื่อได้อ่านแล้วความรู้ที่ได้มานั้นเปิดโลกทัศน์ให้ผู้อ่านเป็นอย่างมากเลยค่ะ มันยิ่งตอกย้ำให้ผู้เขียนรู้ว่าเราไม่ควรหยุดพัฒนาและหาความรู้ใส่ตัว เพราะมันทำให้เราได้เห็นโลกในมุมที่กว้างใหญ่มากขึ้น เห็นเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายต่าง ๆ มากมายที่ซ่อนอยู่ในสิ่งรอบตัวของเรา โดยประสบการณ์ที่ดีนี้แลกกับเงิน 250 บาทนั้นคุ้มเกินคุ้มกันเลยล่ะค่ะ และถ้าหากผู้อ่านท่านใดสนใจ อยากหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพื่อที่จะได้เข้าใจสมองและจิตของคนเรามากยิ่งขึ้น ก็สามารถหาซื้อกันได้ทั้งจากร้าน B2S และ Se-Ed ใกล้บ้านท่านเลยค่ะ